“หนุ่ม กรรชัย” ขีดเส้นตายชีวิตคู่ ลั่นหากปีหน้าไม่ได้แต่ง ก็จะไม่ขอแต่งงาน ด้าน “เมย์” ยิ้มแก้มปริเห็นแฟนหนุ่มตั้งหน้าทำคะแนนพิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ลั่นถึงไม่ได้แต่งก็มีความสุขอยู่แล้ว
คบกันมาก็หลายปี ประกาศแต่งงานไปแล้วก็หลายหน แต่สุดท้ายก็เจอโรคเลื่อนเพราะจะแต่งทีไรก็เกิดปัญหาขึ้นมาให้ปวดหัวทุกที แต่ล่าสุด “หนุ่ม กรรชัย กําเนิดพลอย” ก็ขีดเส้นประกาศแต่ง ''เมย์ เฟื่องอารมย์'' ปีหน้าเพราะไม่อยากประวิงเวลาต่อไปอีก ลั่นถ้าปีหน้าไม่ได้แต่ง ก็จะไม่แต่งแล้ว
หนุ่ม : “เรื่องงานแต่งก็คงยังครับ ต้องใช้เวลาอีกสักนิดนึง ดูๆ เป็นปีหน้าอยู่ ถ้าปีหน้าไม่ได้แต่งก็คงจะไม่แต่งแล้ว เพราะมันก็คงต้องมีเดทไลน์แล้วมันเอ้อระเหยมานาน เพราะฉะนั้นช่วงนี้มันอยู่ในช่วงกำลังเร่งทำคะแนนให้เข้าตาคุณพ่อคุณแม่เขา ให้เขาได้รู้สึกว่าเขาฝากลูกสาวให้อยู่กับเราแล้วเขาสบายใจได้ มันอีกหลายองค์ประกอบ ไม่ใช่เพราะว่าคนเรารักกันแล้วแต่งงานกันได้เลย ซึ่งบางทีเราก็ต้องห่วงทางบ้านเขาเหมือนกันเพราะว่าเราก็ต้องให้เกียรติเขาและที่สำคัญผมจะได้พิสูจน์ตัวผมเองด้วยว่า อีกช่วงระยะเวลาหนึ่งผมสามารถที่จะเป็นเหมือนที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ได้ไหม คือไม่ได้กลับไปใช้ชีวิตเสเพลแบบเมื่อก่อน”
“เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ครับ ก็เลยไม่อยากถูกกดดัน ไว้ลงล็อกเมื่อไหร่ ค่อยว่ากัน ก็คงจะต้องแถลงข่าวอีกทีหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ผมก็กดดันมากๆ บางครั้งเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่ต้องให้โอกาสกัน เรียกว่า ต้องละเอียดอ่อน ต้องดูอะไรๆ อีกเยอะมาก เมย์เองก็คงต้องใช้เวลาศึกษาผมอีกสักนิด ไม่ใช่ว่าผมแต่งไปแล้ว ผมยังมีนิสัยเดิมๆ อยู่ ซึ่งก็ไม่เป็นธรรมกับผู้หญิงสักเท่าไหร่ ”
เมย์ : “เรื่องข่าวพี่หนุ่มที่ผ่านมามันก็เป็นธรรมดาไม่อยากคิดอะไร ก็คิดในแง่ที่ดีจะมีความสุขกว่า เราก็ดูพฤติกรรมเขาไปเรื่อยๆ แล้วก็ทำวันนี้ให้ดีที่สุดก็พอแล้ว คือที่พี่หนุ่มบอกว่าถ้าปีหน้าไม่ได้แต่งก็คงไม่แต่งแล้ว หมายความว่ามันควรจะต้องมีเดทไลน์สักทีในปีหน้า ส่วนตัวเมย์เองก็รู้สึกกดดันเหมือนกันค่ะ ทุกอย่างเราก็อยากให้เป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งในสิ่งที่พี่หนุ่มพูดวันนี้ ในความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง แค่นี้เมย์ก็รู้สึกดีใจแล้ว ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยที่อนาคตเราไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง แต่ ณ วันนี้ทำดีที่สุดเมย์ก็โอเคค่ะ”
“คือช่วงหลังพี่หนุ่มเขาดูจริงจังมากขึ้น เราเองก็เป็นผู้หญิงก็ดีใจอยู่แล้ว แค่นี้ก็รู้สึกดี จริงๆ เรื่องแต่งไม่แต่งเดี๋ยวค่อยว่ากัน ตามที่พี่หนุ่มพูดแค่คำพูดที่เขาชัดเจน ก็อยากให้ทุกคนค่อยๆ เป็นค่อยๆไปกับคู่ของเราก็แล้วกัน แต่ตอนนี้พี่หนุ่มชัดเจนขึ้นเราก็โอเคแล้วค่ะ ก็มีความสุข”
หนุ่ม : “คุณเมย์เขาก็พูดอยู่แล้วว่าถ้าปีหน้ายังไม่แต่งเขาก็จะมีผู้ชายคนอื่นแล้ว(หัวเราะ) แต่ไม่ได้เป็นการผูกมัดนะ เพราะสิ่งที่ผมพูดผมได้พูดไปนานแล้ว หลายต่อหลายคนก็บอกว่าจะเป็นการผูกมัดตัวเองไปไหม แต่ผมว่าบางที่เราก็ต้องชัดเจนสักทีเรื่องแบบนี้ ที่ผ่านมาผมไม่เคยมีความชัดเจนแล้วก็ประวิงเวลามาตลอดเวลา มันก็เลยทำให้เสียโอกาสหรือทำให้เสียสิ่งที่ดีๆ ไปหลายอย่าง เพราะฉะนั้นมันควรต้องมีเดทไลน์ให้ตัวเองแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราก็อายุมากแล้วในรุ่นๆ เดียวกันเขาก็แต่งงานมีลูกกันไปหมดแล้ว มันต้องเป็นไปตามขั้นตอน อยากให้เป็นอย่างนั้นมากกว่า”
“ที่ผ่านมามันมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเยอะแล้วอยู่ดีๆ ผมจะบอกว่าผมทำดีแล้วนะ แล้วแต่งกับผมเลยมันก็ไม่ใช่ เพราะกลัวว่าเดี๋ยวจะเป็นเหมือนเมื่อก่อน มันต้องมีอะไรมาคั่นว่าเมื่อก่อนทำตัวไม่ดีเอ้าวันนี้เราพิสูจน์ตัวเองว่าเราทำดีได้แล้วนะชดเชยได้แล้วนะ ต่อไปจะเอายังไงก็ว่ากันมันต้องเป็นขั้นเป็นตอน แต่ถ้าถามว่าพ่อแม่เขาไว้ใจผมไหม ผมว่าก็ครึ่งๆ ต่อหน้าก็คงจะไว้ใจแต่ลับหลังก็คงจะคิดบ้างว่ามันจะทำอะไรอีกไหม ผมว่าเอาให้มั่นใจเลยดีกว่าว่าเราเป็นอย่างนี้นะ คือเวลามันพิสูจน์ได้อยู่แล้ว ตัวเมย์เขาก็ไว้ใจผมครึ่งๆ เหมือนกันครับ”
“หนุ่ม” เผยยังไม่ได้คิดเตรียมสถานที่จัดงาน แต่เจ้าตัวคิดรูปแบบงานแต่งไว้แล้ว ด้านสินสอดอุบไม่บอก ปัดว่าไม่ใช่สิ่งจำเป็น
“ยังเลย ยังไม่ได้ไปหาโรงแรมที่ไหนเลย กลัวไปหาแล้วจะโดนเซอร์ไพรส์ เดี๋ยวโดนเลิกขึ้นมา (หัวเราะ) จริงๆ แล้วเราอยากทำอะไรที่มันดูเรียบๆ ง่ายๆ มากกว่า แล้วถ้าเกิดมันเป็นงานของผมจริงๆ ผมจะต้องขออนุญาตใช้สถานที่ที่มีโซนกว้างๆ นิดนึง เพราะว่าจะต้องเชิญพี่ๆ สื่อมวลชน แล้วก็เพื่อนๆ ทั้งหมด ผมคงไม่มาเเบ่งเป็นโซนๆ หรอกครับ”
“รูปแบบในงานที่ผมคิดไว้แล้ว สิ่งที่จะต้องทำคือ ผมต้องขอข่าวเก่าๆ ของผมทุกฉบับที่เคยลงว่าผมเคยคบกับผู้หญิงคนไหน ผมจะตัดเอามาแปะตามบันได เพื่อจะให้เห็นว่า สิ่งที่ผมทำมาตลอดก็คือคนนี้ ตอนที่ผมเดินจูงมือเมย์ขึ้นบันได (เมย์ยิ้ม) นี่คือสิ่งที่คิดเอาไว้ ฉะนั้นไว้ให้ได้แต่งก่อนแล้วกัน เพราะตอนนี้ผมยังไม่อยากพูดว่า แต่ง แต่ง แต่ง พอถึงเวลาจริงๆ ไม่ได้แต่ง เดี๋ยวผมจะเสียอีก”
“ส่วนเรื่องเรือนหอมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ จริงๆ แล้วผมอยู่ที่ไหนก็ได้ แต่ผมเองก็กำลังดูเอาไว้อยู่เหมือนกัน ตอนนี้อยากจะปลูกบ้าน แต่ถ้าถามว่ามีบ้านไหม คือผมเองก็มีบ้านอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งเกิดเป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่ผมดูเอาไว้ก็คงจะเป็นแถวๆ เลียบทางด่วน เพราะว่ามันสะดวกดี เรื่องสินสอดผมว่าไม่จำเป็นต้องมีสินสอดเป็นร้อยล้านเป็นหมื่นล้านมันไม่จำเป็น แต่เงินก็สำคัญแต่เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น ผมเชื่อว่าสิ่งที่สำคัญคือการที่ได้ดูแลลูกสาวเขาได้ตลอดชีวิตได้มากกว่า”
