“เมย์” เคลียร์ข่าวแต่ง “หนุ่ม” สิ้นปีนี้ไม่เป็นความจริง แต่ยอมรับฝ่ายชายอยากแต่งภายในปีหน้า บอก แม้หนุ่มจะพูดคุยกับที่บ้านเรื่องแต่งเรื่อยๆ แต่ก็ยังไม่เป็นทางการ เจ้าตัวเปรย แต่งหรือไม่แต่งก็ได้ ไม่ซีเรียส ก่อนย้ำ เรื่องคดีไม่มีผลต่องานวิวาห์ ชี้เป็นเรื่องส่วนตัวต้องแยกแยะออกจากกัน
หลังจากที่หวานใจ “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” หลุดปากบอกว่าจะมีข่าวดีสิ้นปีนี้ ทำเอาหลายๆ คนพากันลุ้นและร่วมแสดงความยินดีกับสาว “เมย์ เฟื่องอารมย์” ที่จะได้เป็นเจ้าสาวกับเขาเสียที แต่แล้ว “หนุ่ม” ก็ออกมากลับลำอีกครั้ง ว่าฤกษ์ยกขบวนขันหมากไม่ใช่สิ้นปีนี้แล้ว แต่เป็นกลางปี’53 แทน
จู่ๆ ต้องเจอโรคเลื่อนอีกรอบแบบนี้ สาวเมย์ก็เลยขอชี้แจงว่า จริงๆ แล้วเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้มีการเจรจากับผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการ เป็นแค่การพูดคุยกันระหว่างตนกับหนุ่มเฉยๆ ว่าอยากแต่งปีหน้า
“ก็ยังไม่ทราบเหมือนกันต้องรอเป็นทางการก่อน ฤกษ์ยามก็ยังไม่ได้ดูเลย กับที่บ้านเราเองก็ยังไม่ได้พูดคุยอย่างเป็นทางการ จริงๆ แล้วพี่หนุ่มเขาก็คุยเรื่องนี้กับที่บ้านเป็นประจำอยู่แล้ว ก็ปรึกษากันมากกว่าเหมือนพูดคุยปรึกษากัน แต่เรื่องของฤกษ์ยามอย่างเป็นทางการจริงๆ ยังไม่ได้คุยกัน”
“ที่มีข่าวว่าได้ฤกษ์ยกขันหมากปลายปี เรื่องนี้เมย์ไม่แน่ใจ แต่ที่พี่หนุ่มได้พูดไว้กับเมย์เขาก็อยากแต่ง ถ้าเกิดแต่งจริงๆ ก็อยากแต่งช่วงปีหน้า แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเป็นกลางปี ต้นปีหรือว่าปลายปี แต่เขาระบุว่าเป็นปีหน้า พี่หนุ่มเขาจะคุยกับพ่อแม่เมย์เอง ก็ไม่ทราบรายละเอียดตรงนั้น สำหรับเมย์ที่ทราบคือไม่ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ แค่คุยกับเมย์เฉยๆ เหมือนพูดว่าถ้าฉันอยากแต่งงาน ฉันอยากแต่งปีหน้าพูดแค่นี้ ไม่ได้ระบุรายละเอียดด้วยว่าอะไร เมย์เองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เราก็เออๆ รับฟังเฉยๆ”
“คือพี่หนุ่มเองก็ไม่ได้พูดถี่นะ แต่เวลาไปไหนด้วยกัน คนจะถามเยอะมาก คือไปไหนก็จะมีแต่คนถาม แม้กระทั้งไปกินข้าวกัน ไปนู่นไปนี่ไม่ว่าจะเป็นพนักงานหรือว่าประชาชนทั่วไปที่เดินผ่านทุกคนจะพูดว่าเมื่อไหร่จะแต่งงานค่ะ เมื่อไหร่จะแต่งงานครับ กลายเป็นเหมือนว่าเราไปไหนทุกคนก็จะถามกันหมด คือประชาชนเองก็เองอยากจะรู้ บางคนก็ถามว่าเมื่อไหร่คุณกรรชัยจะหยุดเจ้าชู้ค่ะอย่างนี้เลย ทุกคนถามแทนเรา เราก็แบบเอ๋อๆ พี่หนุ่มเขาก็บอกครับๆๆ เดี๋ยวปีหน้าครับ พี่หนุ่มเขาก็จะพูดแบบนี้กับทุกๆ คน”
บอกไม่ได้กลัวว่าวิวาห์จะล้ม หลังจากที่ประกาศว่าจะแต่งสิ้นปีนี้ แต่ก็ต้องเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ กับการแต่งงาน
“ไม่ๆๆ เขาแค่บอกเฉยๆ ว่าพูดกับนักข่าวไปปลายปี นักข่าวคิดว่าฉันจะแต่งปลายปี เขาบอกว่าเขาแค่พูดว่าเขาอยากแต่งงาน เดี๋ยวสิ้นปีอาจจะมีข่าวดีหมายความว่าสิ้นๆ ปีนี้ อาจจะเริ่มคิดอะไรที่มันดีๆ ตั้งแต่สิ้นปี แต่เรื่องแพลนแต่งมันไม่ได้แต่งกันง่ายๆ เขาก็บอกว่าอะไรที่เข้าที่เข้าทางก็คงจะเป็นปีหน้าอยู่แล้ว”
“มันไม่ใช่ว่าใครจะเป็นคนกำหนด อย่างสำหรับตัวเมย์แต่งหรือไม่แต่งยังไงก็ได้ เมย์รู้สึกเฉยๆ กับตรงนี้ไม่ได้คิดอะไรเยอะจริงๆ กับเรื่องตรงนี้เพราะเมย์เองยังอยากทำงานอยู่ ถ้าด้วยอายุแล้วก็คงพร้อมแล้ว แต่ด้วยนิสัยจริงๆ ก็ยังทำงานอยู่ ยังคิดอยากจะทำงานอยู่ อยากที่จะใช้ชีวิตส่วนตัวอยู่ ยังอยากที่จะเป็นส่วนตัวอยู่ แต่ถ้าเขาคิดว่าเขาพร้อม อยากจะแต่งงานแล้ว ก็แต่งได้ เรื่องฤกษ์ยามตรงนี้ก็คงต้องแล้วแต่ผู้ใหญ่ด้วย”
เมื่อถามว่าเตรียมตัวเตรียมใจจะเป็นแม่บ้านไว้หรือยัง สาว “เมย์” เผยไม่ได้เตรียมใจไว้แม้จะทราบว่าฝ่าย “หนุ่ม” ชอบผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนซึ่งต่างจากตนที่เป็นผู้หญิงทำงาน บอกถ้าแต่งงานกันจริงๆ ก็คงเจอกันคนละครึ่งทาง
“ยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย รอให้อะไรมันเป็นทางการก่อน ถ้าเป็นแม่บ้านถึงขนาดต้องลุกขึ้นมาทำอาหารเช้าให้อย่างนั้นคงไม่ ต่อให้แต่งงานกับใครคงไม่ทำขนาดนั้น เพราะว่าเมย์เป็นผู้หญิงสมัยใหม่ ก็ให้แม่บ้านทำก็ได้ เมย์เองเป็นคนที่ทำกับข้าวไม่เป็น(หัวเราะ) เน้นเลยค่ะว่าทำไม่เป็นเลย”
“เมย์ก็คงยังใช้ชีวิตเหมือนปกติ แต่จากที่เคยรู้นะ เขาก็ชอบผู้หญิงที่เป็นแม่บ้านมากกว่าผู้หญิงทำงาน สำหรับเมย์เป็นผู้หญิงทำงาน แต่ถ้ามีครอบครัวจริงๆ ก็คงต้องคนละครึ่งทาง ถ้าเกิดอนาคตถ้ามันมีอะไรมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คงจะเอาครอบครัวเป็นหลัก แต่ตอนนี้เมย์ยังนึกถึงตัวเองอยู่ ยังอยากทำงานอยู่”
“ตัวเมย์เองก็ไม่รู้ว่าจะได้แต่งเมื่อไหร่ ถ้าเมย์แต่ง เมย์เองก็คงไม่มีเวลาเที่ยวเล่นแล้ว เพราะเมย์ก็เองก็อายุโตขึ้นแล้ว แม้ว่าจะดูเด็กอยู่ ถ้าแต่งแล้วจริงๆ เมย์ก็คงมองแพลนครอบครัวเลยค่ะ เมย์ว่าไม่น่าจะเกิน 35 น่าจะแต่งได้แล้วนะ”
ปัดเรื่องคดีไม่มีผลต่อกับการแต่งงาน ที่อาจจะทำให้ล้าช้าออกไป บอกคนละส่วนกัน ส่วนเรื่องที่ต้องไปเป็นพยานในชั้นศาลนั้น เจ้าตัวบอกว่าไม่ต้องเตรียมตัวอะไรหากศาลเรียกก็พร้อมให้ความร่วมมือ
“ไม่ทราบเหมือนกัน คดีก็คือคดี เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว ต้องแยกกัน อันนี้ต้องไปถามพี่หนุ่มเพราะเมย์เองเป็นผู้ใหญ่ จะให้ไปพูดอะไรมากก็คงไม่ได้”
“ส่วนที่ต้องไปเป็นพยานให้ ก็ไม่ได้เตรียมตัวอะไร ก็รอให้ออกมาอย่างเป็นทางการ ว่าจะต้องไปเป็นพยานเมื่อไหร่ ก็ไปเท่านั้นเอง ไม่ซีเรียสเลยกับเรื่องตรงนี้ ตัวเมย์ไม่ได้กังวลอะไรนะ เมย์คิดว่ามันเป็นในเรื่องของความถูกต้องในแง่ของกฎหมาย ถ้าเราทำอะไรได้ก็ทำ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร กับพี่หนุ่มเองเราก็ไม่ค่อยได้คุยกันถึงเรื่องนี้ เพราะว่าไม่อยากไปพูดมาก ทุกๆ วันเขาเองก็ทำงานเยอะอยู่แล้ว แค่ว่าบอกว่าวันไหนที่ต้องไปก็ให้บอกมานะเท่านั้นเอง”