นอกจากสติจะไม่ทำให้ชีวิตตึงเครียดแล้ว
ยังทำหน้าที่ช่วยผ่อนคลายความโง่ ความหลง
และความตึงเครียดได้ ถ้าเป็นสัมมาสติของพระพุทธเจ้า
ปุจฉา
สติวิถีพุทธ
นมัสการพระคุณเจ้า หลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันเคยคุยกับเพื่อนๆ เรื่องการปฏิบัติธรรม แต่เขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก เพราะเพิ่งไปปฏิบัติไม่กี่ครั้ง ตอนนี้ดิฉันมีความสงสัยเรื่องสติค่ะ มีเพื่อนบอกว่าถ้าสติมากเกินไปจะทำให้เราขมึงทึงตึงเครียด ควรผ่อนคลายให้เบาลงบ้าง ไม่จำเป็นต้องมีตลอดเวลา คือต้องทำให้เหมาะสมกับสภาวะของเราจะดีกว่า ดิฉันไม่ค่อยแน่ใจนัก ขอเรียนถามหลวงปู่ค่ะว่าถูก หรือไม่ถูก
วิสัชนา
ที่เพื่อนคุณบอกว่ามีสติมากๆ ทำให้ตึงเครียด นั่นไม่น่าจะใช่สติ น่าจะเป็นประสาทมากกว่า เพราะสติอยู่กับใครจะทำให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เพราะสติคือสภาวะที่เฝ้ามอง ทุกอย่างตามความเป็นจริง เราไม่ อยากมองก็ไม่ต้องมองแค่นั้นจบ
สตินี้อยู่กับใครจะทำให้คนนั้น ทำ พูด คิด ไม่ผิด และนอกจากสติจะไม่ทำให้ชีวิตตึงเครียดแล้ว ยังทำหน้าที่ช่วยผ่อนคลายความโง่ ความหลง และความตึงเครียดได้ ถ้าเป็นสัมมาสติของพระพุทธเจ้า
สติของวิถีพุทธเมื่อมีอยู่กับเรา จะทำให้เรารู้เท่าทันตามความเป็นจริง และจะมีชีวิตอย่าง ผ่อนคลาย โปร่งเบาสบาย เพราะฉะนั้นคุณต้องเข้าใจคำว่าสติใหม่ แล้วทำให้สติของพระพุทธะเกิดขึ้นในตัวคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณ ไม่ได้ตึงเครียดอย่างที่เข้าใจ
ปุจฉา
มีจิตอกุศลตอนกรวดน้ำ
นมัสการหลวงปู่ที่เคารพ ปกติทำบุญแล้วก็ต้องกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ดิฉันทำอย่างนี้มา ตลอด แต่บ่อยครั้งขณะกรวดน้ำ จิตที่เคยคิดอกุศลหรือเรื่องไม่ดีต่างๆ มันจะผ่านแวบๆ เข้ามา ทำ ให้รำคาญตัวเองมาก ไม่ทราบ เพราะอะไร ขอหลวงปู่ช่วยแนะนำ ด้วยค่ะ มีวิธีใดจะหลุดจาก ตรงนี้ได้
วิสัชนา
อกุศลจิตมันเกิดได้ทุกขณะจิต จำได้ว่าคราใดที่คุณมีกุศลจิตเกิดขึ้น และกุศลจิตกำลังจะเสวยหรือให้ผลอยู่ อกุศลจิตจะไม่ปรากฏ เพราะขณะที่เรามีกุศลอยู่ อกุศลมันก็มีแต่มันไม่โตพอที่จะมีอำนาจครอบงำเรา แต่ขณะที่จิตไม่มีกุศล แน่นอนอกุศลมันได้ช่อง ก็ย่องเข้ามาปรากฏ
ในขณะที่คุณกรวดน้ำนั้น ถ้าไม่ได้กรวดด้วยหัวใจที่เป็นกุศล แต่กรวดด้วยความเสีย ไม่ได้ หรือเพราะประเพณี กรวดเพราะหน้าที่ ไม่ได้นึกอยากทำ การกรวดแบบนี้ทั้งหมดไม่ใช่แหล่งแห่งการเกิดกุศล เขาเรียกว่าทำด้วยซาก แต่ใจไม่ประกอบ ก็ถือว่าการทำนั้นไม่ใช่ ส่วนแห่งกุศล เป็นธรรมดาที่อกุศลมันย่อมเข้ามาครอบงำ
การแก้ปัญหาขณะอกุศลจิต เข้าครอบงำคือ ทำให้จิตเป็นกุศล ในขณะที่หยิบขันน้ำขึ้นมากรวด แล้วกรวดด้วยหัวใจที่จะให้ ด้วยหัวใจบริสุทธิ์ และปรารถนาที่จะให้สัตว์ทั้งปวงเป็นสุขจริงๆ และคุณก็ให้ได้แม้แต่มิตร และศัตรูที่จ้องจะทำลายคุณ
ปุจฉา
คนชอบโยนความผิด
กราบเรียนหลวงปู่ที่เคารพ ผมมีเพื่อนผู้ชายในที่ทำงาน เมื่อทำผิดพลาดมักไม่ยอมรับผิด แต่จะโยนความผิดให้คนอื่นๆ เสมอ ผมเองก็โดนมาแล้วกับตัวเอง พอต่อว่าเขา เขาก็จะโมโหพาลมาโกรธผม อยากเรียนถามว่าคนประเภทนี้เป็นอย่างไร และควรปฏิบัติต่อเขาอย่างไร
วิสัชนา
สถานภาพของคนที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แต่กลับโยนความผิดให้คนอื่นนั้น เป็นคนที่น่าละอาย ไม่มีเกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ขาดความกล้า เป็นคนที่ไม่สมควรจะได้รับการยอมรับทางสังคม ไม่สมควรเข้าใกล้ เพราะจะไม่ปลอดภัย ต้องห่างเขาไว้ และไม่ควรอภัยถ้าเขาทำบ่อยๆ ถี่ๆ แต่ถ้านานๆ ทำทีเพราะมีความจำเป็น หรือมีเหตุปัจจัยนำพา หรือที่เรียกว่าตกกระไดพลอยโจน โดยไม่มีเจตนาที่จะทำ อย่างนั้นก็ควรให้อภัย
ยังทำหน้าที่ช่วยผ่อนคลายความโง่ ความหลง
และความตึงเครียดได้ ถ้าเป็นสัมมาสติของพระพุทธเจ้า
ปุจฉา
สติวิถีพุทธ
นมัสการพระคุณเจ้า หลวงปู่พุทธะอิสระ ดิฉันเคยคุยกับเพื่อนๆ เรื่องการปฏิบัติธรรม แต่เขาก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก เพราะเพิ่งไปปฏิบัติไม่กี่ครั้ง ตอนนี้ดิฉันมีความสงสัยเรื่องสติค่ะ มีเพื่อนบอกว่าถ้าสติมากเกินไปจะทำให้เราขมึงทึงตึงเครียด ควรผ่อนคลายให้เบาลงบ้าง ไม่จำเป็นต้องมีตลอดเวลา คือต้องทำให้เหมาะสมกับสภาวะของเราจะดีกว่า ดิฉันไม่ค่อยแน่ใจนัก ขอเรียนถามหลวงปู่ค่ะว่าถูก หรือไม่ถูก
วิสัชนา
ที่เพื่อนคุณบอกว่ามีสติมากๆ ทำให้ตึงเครียด นั่นไม่น่าจะใช่สติ น่าจะเป็นประสาทมากกว่า เพราะสติอยู่กับใครจะทำให้เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เพราะสติคือสภาวะที่เฝ้ามอง ทุกอย่างตามความเป็นจริง เราไม่ อยากมองก็ไม่ต้องมองแค่นั้นจบ
สตินี้อยู่กับใครจะทำให้คนนั้น ทำ พูด คิด ไม่ผิด และนอกจากสติจะไม่ทำให้ชีวิตตึงเครียดแล้ว ยังทำหน้าที่ช่วยผ่อนคลายความโง่ ความหลง และความตึงเครียดได้ ถ้าเป็นสัมมาสติของพระพุทธเจ้า
สติของวิถีพุทธเมื่อมีอยู่กับเรา จะทำให้เรารู้เท่าทันตามความเป็นจริง และจะมีชีวิตอย่าง ผ่อนคลาย โปร่งเบาสบาย เพราะฉะนั้นคุณต้องเข้าใจคำว่าสติใหม่ แล้วทำให้สติของพระพุทธะเกิดขึ้นในตัวคุณ แล้วคุณจะรู้ว่าคุณ ไม่ได้ตึงเครียดอย่างที่เข้าใจ
ปุจฉา
มีจิตอกุศลตอนกรวดน้ำ
นมัสการหลวงปู่ที่เคารพ ปกติทำบุญแล้วก็ต้องกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล ดิฉันทำอย่างนี้มา ตลอด แต่บ่อยครั้งขณะกรวดน้ำ จิตที่เคยคิดอกุศลหรือเรื่องไม่ดีต่างๆ มันจะผ่านแวบๆ เข้ามา ทำ ให้รำคาญตัวเองมาก ไม่ทราบ เพราะอะไร ขอหลวงปู่ช่วยแนะนำ ด้วยค่ะ มีวิธีใดจะหลุดจาก ตรงนี้ได้
วิสัชนา
อกุศลจิตมันเกิดได้ทุกขณะจิต จำได้ว่าคราใดที่คุณมีกุศลจิตเกิดขึ้น และกุศลจิตกำลังจะเสวยหรือให้ผลอยู่ อกุศลจิตจะไม่ปรากฏ เพราะขณะที่เรามีกุศลอยู่ อกุศลมันก็มีแต่มันไม่โตพอที่จะมีอำนาจครอบงำเรา แต่ขณะที่จิตไม่มีกุศล แน่นอนอกุศลมันได้ช่อง ก็ย่องเข้ามาปรากฏ
ในขณะที่คุณกรวดน้ำนั้น ถ้าไม่ได้กรวดด้วยหัวใจที่เป็นกุศล แต่กรวดด้วยความเสีย ไม่ได้ หรือเพราะประเพณี กรวดเพราะหน้าที่ ไม่ได้นึกอยากทำ การกรวดแบบนี้ทั้งหมดไม่ใช่แหล่งแห่งการเกิดกุศล เขาเรียกว่าทำด้วยซาก แต่ใจไม่ประกอบ ก็ถือว่าการทำนั้นไม่ใช่ ส่วนแห่งกุศล เป็นธรรมดาที่อกุศลมันย่อมเข้ามาครอบงำ
การแก้ปัญหาขณะอกุศลจิต เข้าครอบงำคือ ทำให้จิตเป็นกุศล ในขณะที่หยิบขันน้ำขึ้นมากรวด แล้วกรวดด้วยหัวใจที่จะให้ ด้วยหัวใจบริสุทธิ์ และปรารถนาที่จะให้สัตว์ทั้งปวงเป็นสุขจริงๆ และคุณก็ให้ได้แม้แต่มิตร และศัตรูที่จ้องจะทำลายคุณ
ปุจฉา
คนชอบโยนความผิด
กราบเรียนหลวงปู่ที่เคารพ ผมมีเพื่อนผู้ชายในที่ทำงาน เมื่อทำผิดพลาดมักไม่ยอมรับผิด แต่จะโยนความผิดให้คนอื่นๆ เสมอ ผมเองก็โดนมาแล้วกับตัวเอง พอต่อว่าเขา เขาก็จะโมโหพาลมาโกรธผม อยากเรียนถามว่าคนประเภทนี้เป็นอย่างไร และควรปฏิบัติต่อเขาอย่างไร
วิสัชนา
สถานภาพของคนที่ทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิด แต่กลับโยนความผิดให้คนอื่นนั้น เป็นคนที่น่าละอาย ไม่มีเกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี ขาดความกล้า เป็นคนที่ไม่สมควรจะได้รับการยอมรับทางสังคม ไม่สมควรเข้าใกล้ เพราะจะไม่ปลอดภัย ต้องห่างเขาไว้ และไม่ควรอภัยถ้าเขาทำบ่อยๆ ถี่ๆ แต่ถ้านานๆ ทำทีเพราะมีความจำเป็น หรือมีเหตุปัจจัยนำพา หรือที่เรียกว่าตกกระไดพลอยโจน โดยไม่มีเจตนาที่จะทำ อย่างนั้นก็ควรให้อภัย