xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวสารบ้านเรา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

มส.มีมติแต่งตั้ง “พระธรรมกิตติเมธี” เป็นเจ้าคณะภาค 4-5-6-7 (ธ)
•นครปฐม : ดร.อำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวย การสำนักเลขา ธิการมหาเถรสมาคม (สถ.) แถลงข่าว ภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 52 ว่า มหาเถรสมาคม(มส.) มีมติแต่งตั้งพระธรรมกิตติเมธี(จำนงค์ ธมฺมจารี) อายุ 68 พรรษา 47 วัดสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กทม. ให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะภาค4-5-6-7(ธรรมยุต) สืบแทนพระธรรมวราลังการ(ชลอ กิตฺติสาโร) เจ้าคณะภาครูปเดิมที่ได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 4-5-6-7(ธรรมยุต)
นอกจากนี้ มส.ยังมีมติแต่งตั้งพระเทพวิสุทธิ-ญาณ(ไพบูลย์ สุมงฺคโล) เจ้าอาวาสวัดอนาลโยทิพยาราม อ.เมือง จ.พะเยา เป็นรองเจ้าคณะภาค 4-5-6-7(ธรรมยุต), พระราชกิตติเมธี(ยงยุทธ ยุตฺตธมฺโม) วัดพระนอนจักรสีห์ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี รองเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี เป็นเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี รวมทั้งได้แต่งตั้งเจ้าอาวาสและรองเจ้าอาวาสพระอารามหลวงหลายรูป ได้แก่ พระราชสุทธิโสภณ(เฉลียว จิตปุญฺโญ) รองเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม เป็นเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม กทม.,พระศรีสมโพธิ(นิพนธ์ เขมโก) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม กทม. เป็นเจ้าอาวาสวัดหลักสี่ กทม., พระครูสุวิมลธรรมโสภิต(กมล กมลจิตฺโต) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอินทาราม เป็นเจ้าอาวาสวัดอินทาราม กทม., พระครูสุธีสุตกิจ(ประทุม จนฺตคุโณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระยาทำ เป็นเจ้าอาวาสวัดพระยาทำ กทม., พระมหาทองใบ กนฺตธมฺโม วัดโพธิสมภรณ์ อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์, พระครูปลัดอนันต์ญาณสํวโร วัดบุญวาทย์วิหาร อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบุญวาทย์วิหาร

กรมศิลป์เตรียมดันแหล่งโบราณคดี 6 แห่งขึ้นมรดกโลก
• กรุงเทพฯ : นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กล่าวว่าตามที่นายธีระ สลักเพชร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จะเสนอโบราณสถาน 5 แห่งเป็นมรดกโลก คือ 1.แหล่งโบราณคดีเมืองเก่าเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ร่วมกับแหล่งโบราณคดีสุวรรณโคมคำ แขวงบ่อแก้ว สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) 2.เส้นทางวัฒนธรรมศรีวิชัย-นครศรีธรรมราช-สทิงพระ 3.แหล่งวัฒนธรรมล้านนา 4.ภูมิทัศน์วัฒนธรรมแห่งแม่น้ำเจ้าพระยา และ 5.กลุ่มสถาปัตยกรรมของสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เช่น วัดเบญจมบพิตร เป็นต้น หลายฝ่ายมองว่าเป็นไปได้ยากที่แต่ละแห่งจะเป็นมรดกโลก แต่สำนักโบราณคดีค่อนข้างมั่นใจว่าจะได้รับการพิจารณาจากศูนย์มรดกโลกยูเนสโก เข้าสู่รอการขึ้นทะเบียน
ส่วนพระปฐมเจดีย์ จังหวัดนครปฐม ที่จะเสนอเป็นมรดกโลก ตามที่มีชื่อปรากฏอยู่ในเอกสารของ ศ.ดร.อดุล วิเชียรเจริญ อดีตประธานคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก จะมีการหารืออีกครั้งในเร็วๆ นี้ในที่ประชุมคณะอนุกรรม การมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นประธาน
อย่างไรก็ดี โบราณสถานที่เสนอ 6 แห่งหากได้รับความเห็นชอบในที่ประชุมคณะอนุกรรมการว่ามีความเหมาะสมที่จะเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก หน่วยงาน ที่เสนอชื่อนั้นๆ จะมีหน้าที่รวบรวมเอกสารหลักฐานประกอบ จัดทำเป็นแฟ้มข้อมูลโบราณสถาน อันเป็นขั้นตอนสุดท้ายเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกยูเนสโกพิจารณาเป็นมรดกโลก

“พระราชินี” ทรงรับสั่งให้จัดงาน ฉลอง 77 พรรษา อย่างประหยัด
• กรุงเทพฯ : นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์การจัดงานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 77 พรรษา 12 สิงหาคม แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการ อำนวยการฯว่า ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้อัญเชิญพระราชเสาวนีย์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ มาแจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ทรงรับทราบและซาบซึ้งที่รัฐบาลจะจัดงานเฉลิมพระเกียรติดังกล่าว และทรงมีพระราชกระแสรับสั่งให้จัดงานด้วยความประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือย โดยให้ตระหนักถึงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลขอน้อมรับพระราชเสาวนีย์เป็นแนวทางจัดงานเฉลิมพระเกียรติต่อไป
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบให้จัดรายการพิเศษในช่วงต้นเดือนสิงหาคม เพื่อเปิดรับเงินบริจาค โดยนำเงินรายได้ทั้งหมดมอบให้องค์กรการกุศลในพระบรมราชินูปถัมภ์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จำนวน 3 โครงการ และ 18 มูลนิธิ
สำหรับในส่วนของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาตินั้น ดร.อำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม(สถ.) เปิดเผยว่า มหาเถรสมาคมมีมติเห็นชอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ทั่วประเทศ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล โดยส่วนกลางจัดที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) และในส่วนภูมิภาคให้แจ้งทุกวัดดำเนินการโดยพร้อมเพรียงกัน นอกจากนี้ยังมีโครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลที่พุทธมณฑล รวมทั้งการปลูกต้นไม้ทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯในโอกาสนี้ด้วย

พาณิชย์-บัญชี จุฬาฯดึงนิสิตใหม่ศึกษาธรรมะ
• กรุงเทพฯ : ผศ.ดร.สมจารี ปรียานนท์ รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิต คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า โครงการ “ฟ้าใหม่ใจใส” เกิดขึ้นเพราะเล็งเห็นความสำคัญของนิสิตใหม่ที่กำลังก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสังคมที่มีอิสระในด้านความคิดและการดำรงตนมากขึ้น การควบคุมอารมณ์ การดูแลตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงให้นิสิตเลือกเข้าร่วมกิจกรรมที่สนใจ ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 เข้าวัดรับธรรมะ ณ วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม กิจกรรมที่ 2 ศึกษาพระพุทธศาสนา ณ วัดชลประทานรังสฤษฏ์ จ.นนทบุรี ส่วนกิจกรรมที่ 3 ได้แก่ ธรรมะร่วมสมัย “สู่รั้วมหาวิทยาลัยสดใสด้วยพระธรรม” จัดขึ้น ณ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จ.ปทุมธานี โดยนิมนต์พระวิทยากรจากฝ่ายฝึกอบรม มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มาให้ความรู้เรื่องการนำพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าไปใช้ในชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย และกิจกรรมสุดท้ายได้แก่ พัฒนาตนด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น ณ สถานสงเคราะห์คนพิการและทุพพลภาพพระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อฝึกให้นิสิตมีจิตใจที่พร้อมจะช่วยเหลือผู้ที่ด้อยกว่าในสังคม โดยหลังจากเสร็จสิ้นโครงการ ได้มีการสำรวจพบว่านิสิตพึงพอใจกับกิจกรรมครั้งนี้เป็นอย่างมาก

‘ในหลวง’ พระราชทาน ทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย
• นครปฐม : เมื่อเร็วๆนี้ ฯพณฯพลอากาศเอกกำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ประธานกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ได้เป็นประธานในพิธีเชิญทุนเล่าเรียนหลวงถวายแด่คณะสงฆ์ ประจำปี 2552 ณ หอประชุมใหญ่พุทธมณฑล จ.นครปฐม
นาวาตรีเกริก ตั้งสง่า กรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย กล่าวว่า โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งขึ้น เมื่อปี พ.ศ.2547 และได้จัดพิธีถวายทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย ถวายแด่คณะสงฆ์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 มิิ.ย.พ.ศ.2547 จนถึงปี 2551 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,466 ทุน
สำหรับปี 2552 นับเป็นปีที่ 6 โครงการฯพิจารณาเห็นเป็นการสมควรที่จะให้การสนับสนุนการศึกษาด้านวิปัสสนาธุระขึ้นอีกประเภทหนึ่ง เพื่อให้ภิกษุสงฆ์และสามเณรที่จะไปประจำอยู่ ณ สำนักปฏิบัติธรรมทั่วประเทศ มีความรู้ความชำนาญ และสามารถเผยแผ่การปฏิบัติธรรมที่ถูกต้อง จึงได้มอบทุนสนับสนุนแด่ศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนการดำเนินการหลักสูตรการศึกษา และการฝึกอบรมวิปัสสนาธุระ ระดับปริญญาโท และระดับประกาศนียบัตร จำนวน 3,075 รูป ภายในระยะเวลา 5 ปี
ในปีนี้โครงการฯได้จัดสรรทุน โดยถวายแด่พระภิกษุสามเณรที่จะเข้าสอบเปรียญธรรม 6,7,8 และ 9 ประโยค ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากกองบาลีสนามหลวง จำนวน 76 ทุน และทุนสำนักเรียนพระปริยัติธรรมที่มีผลงานดีเด่น ในเขตปกครองคณะสงฆ์ 5 เขต เขตละ 1 ทุน จำนวน 5 ทุน แด่ศูนย์เผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำนวน 3,075 ทุน แด่พระธรรมทูต ระดับอำเภอ ที่มีผลงานดีเด่น 9 สาย สายละ 1 ทุน แด่พระภิกษุสามเณรภายใต้การกำกับดูแลของมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย จำนวน 47 ทุน รวมทั้งสิ้น 3,453 ทุน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 10,058,000 บาท
ในการนี้ประธานในพิธีได้ถวายตาลปัตรและย่ามโครงการฯแด่พระภิกษุและสามเณรผู้ได้รับทุนและสอบได้เปรียญธรรม 9 ถึงเปรียญธรรม 6 จำนวน 44 รูป พร้อมกันนี้ ฯพณฯนายพลากร สุวรรณ-รัฐ องคมนตรี ได้ถวายตาลปัตรและย่ามโครงการฯแด่พระสงฆ์ที่ได้รับทุน และสอบผ่านตามเกณฑ์ของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำนวน 12 รูป
อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทยขึ้น เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2547 และพระราชทานทุนปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม2547 เพื่อสนับสนุนให้พระภิกษุสามเณรได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างลึกซึ้งแตกฉาน เพื่อสร้างความร่มเย็นในสังคมด้วยการที่มีหลักพุทธธรรมที่ถูกต้องเป็นแกน และเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เป็นหลักทางจิตใจและความคิดของประชาชน
สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาจะทูลเกล้าฯถวายทุนทรัพย์ เพื่อโดยเสด็จพระ ราชกุศลในการนี้ ติดต่อได้ที่ โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรี สำนักราชเลขาธิการ ทำเนียบองคมนตรี พระราชอุทยานสราญรมย์ กรุงเทพฯ โทร. 0-2220-7400

“สมเด็จพระพุฒาจารย์” สอน “อภิสิทธิ์” รักษาสตินำพาประเทศพ้นวิกฤต
• กรุงเทพฯ : เมื่อวันที่ 13 ก.ค.52 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เข้าเฝ้าเพื่อถวายสักการะสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก เนื่องในวันเข้าพรรษา จากนั้นได้เดินทางไปถวายสักการะสมเด็จพระพุฒาจารย์ เจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เนื่องในวันเข้าพรรษา และร่วมสนทนาธรรม
สมเด็จพระพุฒาจารย์กล่าวว่า ประเทศไทยโชคดีที่มีประชาชนเป็นชาวพุทธมามกะ มีวันสำคัญทางพุทธศาสนา ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่ รวมทั้งนายกรัฐมนตรีเห็นถึงความสำคัญ ถือเป็นการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงาม ซึ่งหลายๆ ประเทศไม่มีเช่นไทย การที่ชาวพุทธยังคงประเพณีปฏิบัติเท่ากับเป็นการสร้างความดีและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีเอาไว้ เชื่อว่านายกรัฐมนตรี เข้าใจเรื่องนี้ดี และขอฝากให้ช่วยกันรักษาเอาไว้
“ภาระของบ้านเมืองในขณะนี้ ถือว่าเยอะและหนักมาก แต่นายกฯ ก็อยู่มานาน เห็นมานาน ก็น่าจะทราบถึงปัญหาต่างๆ ดี อาตมาก็เห็นใจในการบริหารประเทศของนายกฯ เพราะถือเป็นภาระใหญ่ แต่เมื่อสติดี ปัญญามี ก็จะสามารถนำพาประเทศต่อไปได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทุกฝ่าย แม้แต่สงฆ์เองก็ต้องช่วยกัน หากมีอะไรที่จะให้ทางพระร่วมมือช่วยก็ขอให้บอกมา เพราะถือว่าเป็นงานของแผ่นดินโดยเฉพาะการรักษาและดำรงไว้ซึ่ง 3 สถาบันหลักของชาติ ดังนั้น ผู้บริหารประเทศกำหนดนโยบายอย่างไร ทางมหาเถรสมาคม ซึ่งเป็นองค์กรทางฝ่ายสงฆ์ก็พร้อมปฏิบัติ จะไม่มีทางขัดกับนโยบายเพื่อให้งานเดินไปควบคู่กัน เพราะความเป็นพุทธจักร และความเป็นอาณาจักรจะต้องทำงานไม่ขัดกัน”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามกระตุ้นในเรื่องของคุณ- ธรรมและจริยธรรมให้แก่เด็กและเยาวชน และให้สำนึกถึงความเป็น ชาติ คำนึงถึงความสงบเรียบร้อย ทำอย่างไรให้เกิดการใฝ่ดี และในช่วงวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ปัจจุบันเยาวชนก็หันหน้าเข้าวัดมากขึ้น โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมไปดำเนินโครงการ “ลานบุญลานวัด” เพื่อให้เยาวชนและประชาชนเข้าวัดมากขึ้น รัฐบาลจะทำให้วัดกลายเป็นศูนย์กลางของประชาชนให้มากขึ้นด้วย นอกจากนี้ ครม.ยังมีมติให้งดจำหน่ายสุราใน 4 วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี

พศ. ผนึกกำลัง ม.พ.ล. ขับเคลื่อนไทย สู่ความเป็นศูนย์กลางพุทธโลก
• นครปฐม : เมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้จัดให้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ ระหว่างสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก (ม.พ.ล.) เรื่อง ความร่วมมือเพื่อพระพุทธศาสนา ณ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)
นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผอ.พศ. กล่าวว่าตามที่ที่ประชุม International Buddhist Conference ปี 2548 ได้มีมติให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางทางพระพุทธศาสนาของโลกนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ตระหนักถึงภารกิจในด้านการส่งเสริมให้พระพุทธศาสนามีความเจริญมั่นคง ธำรงความเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน และเป็นที่พึ่งของมวลมนุษยชาติสืบไป ดังนั้น จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง ที่มหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งโลก ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชั้นสูงทางพระพุทธศาสนาของโลก ทำหน้าที่เชื่อมโยงและประสานงานในรูปเครือข่ายโดยเฉพาะการสร้างเครือข่ายกับสถาบันองค์กรทางวิชาการระหว่างประเทศทางด้านการศึกษาพระพุทธศาสนา จะได้มาร่วมมือกันทำงานเพื่อพระพุทธศาสนา
“การจัดให้มีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจครั้งนี้เป็นเสมือนการผนึกกำลังขับเคลื่อนด้านการเสริมสร้างบทบาทของประเทศไทยในการเป็นผู้นำทางพระพุทธศาสนาของโลก และการศึกษาวิจัย การนำพุทธธรรมมาเสริมสร้างสันติภาพของโลก นับเป็นการพัฒนากิจการพระพุทธศาสนาให้เจริญก้าวหน้าในระดับสากล คาดว่าจะได้รับความสำเร็จเป็นรูปธรรมอันเกิดจากความร่วมมือที่ดีนี้” นางจุฬารัตน์กล่าว

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 105 สิงหาคม 2552 โดยมรรคา)
กำลังโหลดความคิดเห็น