xs
xsm
sm
md
lg

ข่าวสารบ้านเรา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรมศิลป์ฯ กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังจุดลับตาในโบราณสถานทั่วประเทศ
• กรุงเทพฯ : นายเขมชาติ เทพไชย รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวถึงมาตรการสอดส่องดูแลโบราณสถาน หลังเกิดกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติกระทำอนาจารในบริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เมื่อเร็วๆนี้ว่า กรมศิลปากรได้หามาตรการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดซ้ำอีก เบื้องต้นได้ประสานไปยังผู้อำนวยการสำนักโบราณคดี และผู้อำนวยการอุทยานในแต่ละแห่งให้เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตราพื้นที่โดยรอบให้ทั่วถึงมากขึ้น ติดตั้งกล้องวงจรปิดในจุดที่ลับตา พร้อมทั้งประสานไปยังสถานีตำรวจท้องที่เข้ามาดูแล หากพบเห็นนักท่องเที่ยวกระทำสิ่งที่ไม่สมควรจะดำเนินคดีตามกฎหมายทันที รวมทั้งติดป้ายเตือนทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เตือนนักท่องเที่ยวให้เคารพสถานที่
รองอธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการป้องกันการสูบบุหรี่ในโบราณสถานนั้น กรมศิลปากรได้ประกาศให้เขตโบราณสถานเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่แล้ว อย่างไรก็ตามการดูแลให้ทั่วถึงคงทำได้ยาก เนื่องจากโบราณสถานบางแห่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ เบื้องต้นจะเข้มงวดในเขตโบราณสถานที่สำคัญก่อน รวมทั้งจัดพื้นที่เฉพาะสำหรับสูบบุหรี่ให้แก่นักท่องเที่ยว

มส.เห็นชอบ ‘สถาบันพระปกเกล้า’ จัดไถ่ชีวิตโค-กระบือ
• นครปฐม : นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม(สถ.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยภายหลังการประชุม มหาเถรสมาคม(มส.) เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 51 ว่า มส.มีมติเห็นชอบและสนับสนุนการไถ่ชีวิต-กระบือ ในโครงการ ‘ทานชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง รวมใจไทยเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว’ ซึ่งสถาบันพระปกเกล้าได้ดำเนินการมาเป็นปีที่ 2 แล้ว เพื่อถวาย เป็นพระราชกุศล โดยที่ผ่านมาสามารถไถ่ชีวิตโคกระบือได้หลายร้อยตัว
สำหรับครั้งนี้โครงการเริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม 2551- เดือนพฤศจิกายน 2552 ซึ่งจะจัดให้มีพิธีไถ่ชีวิต โค-กระบือ ทุกวันจันทร์ โดยมส.จะเป็นผู้พิจารณารายละเอียดว่าจะดำเนินการที่วัดใดบ้าง ทั้งนี้ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาได้จัดขึ้นที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน กทม. โดยมีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีเป็นประธานฝ่ายฆารวาส
ผู้สนใจร่วมทำบุญไถ่ชีวิตโค-กระบือ สามารถติดต่อ ได้ที่สถาบันพระปกเกล้า โทร.0-2527-7830-9

กรมการศาสนา เตรียม 90 ล. พัฒนาศูนย์ฯ พุทธศาสนาวันอาทิตย์
• กรุงเทพฯ : นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา เปิดเผยว่า จากการประเมินผลการดำเนินงานโครงการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ตั้งแต่ปี 2549-2551 พบว่า ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2549 มีจำนวนศูนย์ 1,247 แห่ง มีผู้เข้าศึกษาหลักธรรมกว่า 300,000 คน ปี 2550 มีจำนวนศูนย์เพิ่มขึ้นเป็น 1,779 แห่ง มีจำนวนผู้เข้าศึกษาหลักธรรมเพิ่มขึ้นกว่า 4 แสนคน และในปี 2551 นี้ มีจำนวนศูนย์ถึง 2,305 แห่ง และมีผู้เข้าศึกษาหลักธรรม จำนวนทั้งสิ้น 592,864 คน ซึ่งสถิติดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า เด็ก เยาวชน เห็นความ สำคัญของการเข้าศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา มีคนเข้าวัดมากขึ้น
นายสด กล่าวต่อว่า สำหรับในปี 2552 นี้ ตั้งเป้าในการพัฒนาศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ จำนวน 90 ล้านบาท ขยายศูนย์ให้ได้ 3,500 แห่งทั่วประเทศ และสามารถรองรับเยาวชน และประชาชน ได้มากถึง 670,000 คน สำหรับการเรียนการสอนนั้น แบ่งชั้นเรียนเป็น 3 ระดับชั้น คือ ชั้นต้น ชั้นกลางและชั้นสูง มีวิชาบังคับ คือ ธรรมศึกษา ชั้นตรี - โท - เอก ในหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยคาดหวังการพัฒนาศูนย์จะทำให้เยาวชนและประชาชนได้ใช้เวลาว่างช่วงวันหยุด ในการศึกษา หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เพื่อนำไปประพฤติปฏิบัติและสร้างบุคลากรของประเทศชาติให้มีคุณภาพต่อไป

ชมแมนดาลา หนึ่งเดียวในไทย ก่อนสลายทิ้งร่วมสร้างพระประธานเนื้อเงินองค์ใหญ่ที่สุดในไทย
• นครปฐม : แมนดาลาหรือมันดาลา(Mandala) อันมีความหมายถึงมณฑลแห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ถือเป็นศิลปะชั้นสูงอันงดงามยิ่งของทิเบต ทั้งนี้ นักบวชหญิง 4 รูปในพุทธศาสนานิกายวัชรยานของทิเบต จากประเทศเนปาล ได้ออกตระเวนไปทั่วสหรัฐอเมริกา ฮอลแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ ออสเตรีย เยอรมัน ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ ทางแถบยุโรป เกือบทุกปี เพื่อแผ่กระจายพลังแห่งความดีและความเมตตาไปสู่ทุกทวีป ผ่านทางการสร้างแมนดาลาทรายพระเชนรีซิก ซึ่งเป็นพระโพธิสัตว์แห่งความเมตตา
โดยเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2551 นักบวชหญิงกลุ่มนี้ได้ มาสร้างแมนดาลาจากทรายขึ้นที่วัดธรรมปัญญารามบางม่วง ต.บางช้าง อ.สามพราน จ.นครปฐม และสร้างเสร็จสมบูรณ์ภายในหนึ่งสัปดาห์ ถือเป็นแมนดาลาทรายแห่งแรกของประเทศไทยที่มีความงดงามมาก ซึ่งทางวัดได้เก็บ รักษาให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าชมเป็นเวลาหนึ่งปี ก่อนที่จะสลายทิ้งตามขนบธรรมเนียม โดยจะทำการแจกจ่ายทรายแมนดาลาบางส่วนแก่ผู้เข้าร่วมพิธี และส่วนที่เหลือจะนำไปโปรยทิ้งในแม่น้ำเพื่อเป็นการแผ่กระจายพรศักดิ์สิทธิ์ของแมนดาลา
พระองวินัยธรณ์พิสิษฐ์ เถี่ยนบ๊าว เจ้าอาวาสวัดธรรมปัญญารามบางม่วง เปิดเผยว่า วันที่ 30 มีนาคม 2552 ก็จะมีพิธีสลายแมนดาลา เป็นปริศนาธรรมที่ว่าทุกสรรพสิ่ง ไม่ว่าจะสวยงามเพียงใด สุดท้ายก็ต้องสูญสลายไปตามธรรมชาติ
อนึ่ง วัดธรรมปัญญารามบางม่วง เดิมเป็นโรงเจ เฮง เส็ง ตั๊ว หรือโรงเจบางม่วงหลังเก่า มีอายุมากกว่า 150 ปี ได้รับอนุญาตให้ประกาศยกฐานะขึ้นเป็นวัด เมื่อวันที่30 ธันวาคม 2548 ในสังกัดคณะสงฆ์อนัมนิกายแห่งประเทศไทย ปัจจุบันวัดยังขาดพระประธานเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา ทางวัดและคณะกรรมการจึงได้ดำเนินการจัดสร้างพระประธาน พระยูไลไภษัชยคุรุพุทธเจ้า ขนาดหน้าตักกว้าง 112 นิ้ว หล่อด้วยเนื้อเงินยวง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งคติความเชื่อทางฝ่ายมหายานนั้น หมายถึงพระพุทธเจ้าแห่งหมอยา ผู้รักษาโรคภัยไข้เจ็บของมวลมนุษยชาติแบบองค์รวม โดยพิธีเทเงินหล่อพระประธานได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สำหรับในเทศกาลปีใหม่นี้ ผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบริจาค ปัจจัยสร้างพระประธานติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่วัดธรรมปัญญารามบางม่วง โทร.034-295-341

องคมนตรีวอนชาวพุทธ ช่วยทำให้พุทธศาสนาในไทยยั่งยืน
• นครปฐม : ศาสตราจารย์เกียรติคุณนายแพทย์ เกษม วัฒนชัย องคมนตรี ประธานมูลนิธิหนังสือเพื่อเด็ก ได้กล่าวปาฐกถาในการเป็นประธานถวายหนังสือให้แก่ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาทั่วประเทศ ณ ห้องประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อเร็วๆนี้ว่า
ขณะนี้ต้องช่วยกันตอบคำถาม จะทำอย่างไรให้พระพุทธศาสนาในไทยยั่งยืนอยู่ได้ ซึ่งตนมองว่ามี 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือ การศึกษาพระไตรปิฏกให้มีความเข้าใจ และปฏิบัติตามคำสอนที่แท้จริงของพระไตรปิฏก ไม่ให้มีการตีความแปลกแยกไปจากพุทธประสงค์ ต้องทำให้พุทธธรรมไม่ผิดเพี้ยน ซึ่งปัจจุบันมีหลายองค์กรที่จะช่วย อาทิ มหาเถรสมาคม รวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คอยดูแล โดยเฉพาะระบบการศึกษาของคณะสงฆ์ไทยในปัจจุบันที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติในเรื่องของมาตรฐาน ขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็เปิดสอนสาขาวิชาที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซึ่งจะสามารถช่วยเป็นหลักในการทำความเข้าใจ และตีความหมายพระไตรปิฏกที่ถูกต้องได้เป็นอย่างดี ส่วนประเด็นที่สอง คือ การสร้างศาสนทายาทเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ต้องช่วยกันให้โรงเรียนพระปริยัติธรรมเข้มแข็ง ซึ่งเป็นทางที่สำคัญ ที่สุด เป็นต้นทางในการสร้างศาสนทายาทในอนาคต
“นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนการกุศลในวัด ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการดูแลอยู่ มีประมาณ 80 แห่งทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่เด็กที่มาเรียนจะเป็นเด็กยากจนที่เมื่อเรียนจบแล้วจะได้มีโอกาสเข้ามาบวชเรียนต่อในโรงเรียนพระปริยัติธรรม กับอีกส่วนคือกลุ่มเด็กที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ก็ควรที่จะหาทางนำเข้ามาบวชเรียน รวมไปถึงแนวทางในการให้เด็กผู้หญิงที่ขาดโอกาสทางการศึกษาได้มาศึกษาพุทธธรรมด้วย” องคมนตรี กล่าว
นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กมีโครงการจัดหาหนังสือสำหรับสามเณร ในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ โดยทำเป็นโครงการระยะยาว 5 ปี นั้น ถือเป็นเรื่องที่น่าให้การส่งเสริมสนับสนุนอย่างยิ่ง เพราะโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ส่วนใหญ่ยังขาด แคลนสื่อวัสดุ อุปกรณ์ในการจัดการเรียนการสอนที่ทันสมัย เพราะมีข้อจำกัดในหลายๆ ด้าน อาทิ งบประมาณ บุคลากร อาคารสถานที่ และอุปกรณ์การเรียนการสอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องหนังสือ
อนึ่ง มูลนิธิหนังสือเพื่อเด็กได้จัดทำโครงการนี้ เป็นโครงการระยะยาว 5 ปี เริ่มตั้งแต่ ปีพ.ศ.2550- 2554 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสที่จะทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 โดยครั้งแรกปี 2550 ได้ถวายหนังสือไปแล้ว 80 โรงเรียน และครั้งที่ 2 ปี 2551 ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ กว่า 40 องค์กร ร่วมกันจัดหาหนังสือ ที่เหมาะสม จำนวน 18,408 เล่ม ถวายโรงเรียนพระปริยัติธรรม จำนวน 81 โรง เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 81 พรรษา 8 ธันวาคม 2551

กรมศาสนาชวนประชาชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมถวายเป็นพระราชกุศล
• กรุงเทพฯ : นายสด แดงเอียด อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวว่า กรมการศาสนาได้ดำเนินโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรม เนื่องในวันธรรมสวนะอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2547 เพื่อต้องการให้ชาวไทยพุทธทุกคนได้ตระหนัก และหันมาสนใจธรรมะมากขึ้น โดยเฉพาะในหมู่เด็กและเยาวชน รวมถึงประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยบริเวณใกล้เคียงวัด ซึ่ง จะช่วยให้เกิดสมาธิ ปัญญา ตลอดจนนำหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา มาใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยในปี 2552 กรมการศาสนาจะเน้นการเชิญชวนประชาชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมในวันพระ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมตั้งจิตอธิษฐานให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
อธิบดีกรมการศาสนา กล่าวด้วยว่า นอกจากการ ส่งเสริมให้ชาวพุทธหันมาเข้าวัดฟังธรรมมากขึ้นกรมการศาสนายังสนับสนุนให้ทุกศาสนาจัดกิจกรรม ปฏิบัติธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย

กรมศิลป์ฯเตรียมเปิดหอจดหมายเหตุแห่งชาติรวบรวมเอกสารทรงงาน ‘ในหลวง’ และภาพถ่ายหายาก
• ปทุมธานี : นายปรารพ เหล่าวานิช รองอธิบดีกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กรมศิลปากรได้ดำเนินการจัดสร้างหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อ. คลองหลวง จ.ปทุมธานี มาตั้งแต่ปี 2540 จนถึงขณะนี้ ได้จัดทำรูปแบบนิทรรศการมัลติมีเดียให้ทันสมัยสมบูรณ์ไว้บริการประชาชน และในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุ 81 พรรษานี้ คณะกรรมการจดหมาย เหตุฯ ได้เตรียมงานพิธีเปิดอย่างสมพระเกียรติในเดือน พฤษภาคม ปี 2552 โดยจะจัดเป็นคลังจดหมายเหตุฯ ที่ใหญ่ที่สุด รวบรวมเอกสารทรงงานราชการของพระองค์โดยเฉพาะ และจากหน่วยงานราชการนำมามอบเก็บรักษาไว้ อาทิ ลายพระหัตถ์ พระราชประวัติ พระราชดำรัส พระราชกรณียกิจ กรมพิธี การทูต งานศิลปวัฒนธรรมทุกแขนง ที่จัดไว้เป็นหมวดหมู่ กว่า 6 รายการ ภาพถ่ายอีกกว่า 5 หมื่นภาพ รวมทั้งแถบบันทึกภาพ แถบ บันทึกเสียง โปสเตอร์ ปฏิทิน ซีดี เอกสารประมวลข่าวในพระราชสำนักอีกเกือบ 2 พันรายการ รวมทั้งหนังสือ ที่เกี่ยวเนื่องพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์จำนวน5 พันเล่ม
นอกจากนี้ ทางหอจดหมายเหตุฯ ยังได้ขอรับภาพถ่ายเก่าและใหม่จากประชาชน ที่ได้ถ่ายภาพพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปท้องที่ต่างๆ นำมาเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติของชาติ เพื่อให้ประชาชนที่สนใจได้ศึกษาค้นคว้า สามารถเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังเป็นคลังปัญญาที่มีค่าต่อหน่วยงานราชการอีกด้วย

พศ. ทำสื่อช่วยสอนรูปแบบดีวีดี วิชาแปลมคธเป็นไทย
• นครปฐม : นางจุฬารัตน์ บุณยากร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กล่าวว่า การศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี เป็นการจัดการศึกษา สำหรับพระภิกษุสามเณร มีรูปแบบการศึกษาที่เน้นให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้และเข้าใจหลักธรรมของพระพุทธองค์ในภาษาบาลี
ดังนั้น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการสนับสนุนส่งเสริมช่วยการศึกษาพระปริยัติธรรมของคณะสงฆ์ ได้ตระหนักถึงความสำคัญและความจำเป็นในการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยในการเรียนการสอน จึงได้จัดทำโครงการผลิตสื่อประกอบการเรียนการสอนการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกธรรมและบาลี ประจำปีงบประมาณ 2551 การผลิตสื่อการเรียน ประโยค ป.ธ.3 วิชาแปล มคธ เป็นไทย ในรูปแบบดีวีดี โดยได้จัดทำจำนวน 10,000 ชุด เพื่อมอบสำหรับสำนักเรียน สำนักศาสนศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม และผู้ที่สนใจ ซึ่งสามารถสอบถามรายละเอียดและขอได้รับที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กองพุทธศาสนศึกษา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม 73170 โทร. 0-2441-4552

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 98 ม.ค. 52 โดยมรรคา)
กำลังโหลดความคิดเห็น