ตราด - แฉพฤติกรรมพระสงฆ์เข้าพักรีสอร์ตเมืองตราด ทั้งเล่นน้ำ เตะฟุตบอล หลายฝ่ายติงไม่เหมาะสม สำนักพระพุทธเตรียมทำหนังสือขอความร่วมมือหาวัดให้พระหากมากับคณะทัวร์
จากการที่ได้มีการฟอร์เวิร์ดเมลภาพพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ที่เดินทางไปพักยัง เกาะหวายปะการัง รีสอร์ต โดยดำเนินชีวิตแบบฆราวาสทั่วไป เช่น เล่นน้ำ เตะฟุตบอล ทำให้มีผู้ที่เดินทางไปเที่ยวสถานที่ดังกล่าวได้ถ่ายภาพและนำภาพส่งเป็นฟอร์เวิร์ดเมลไปตามเมลบล็อกต่างๆ จนมีการนำมาเผยแพร่ในหน้าหนังสือพิมพ์ถึงความไม่เหมาะสมดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตราดจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังแหล่งข่าวในเกาะหวายปะการัง รีสอร์ต ถึงการเข้าพักของพระสงฆ์ชุดดังกล่าวนั้น นางสาวนันนลิน เปิดเผยว่า พระสงฆ์ชุดนี้ได้เดินทาง เข้าพักที่รีสอร์ทจริงตั้งแต่วันที่ 29-30 เมษายน 2552 โดยการจอง ห้องพักทางโทรศัพท์ และแจ้งว่ากรุ๊ปที่จะมานั้นเป็นพระสงฆ์จากวัดธรรมกาย จำนวน 10-12 รูป โดยมีพระผู้ใหญ่ 4-5 รูปร่วมมาด้วย ซึ่งทางรีสอร์ตได้จัดโซนที่พักให้แยกไปเนื่องจากเห็นว่าเป็นพระสงฆ์ไม่ต้องการให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องมารบกวน
ก่อนหน้าที่กลุ่มพระสงฆ์จะเข้าพักได้มีกลุ่มของนักเรียน นักศึกษาที่เดินทางมาพักและใช้สถานที่สำหรับการอบรมเรื่องสิ่งแวดล้อมมาพักและทำกิจกรรมอยู่ก่อนแล้ว 2 วัน ซึ่งในวันที่พระสงฆ์เข้าพักนั้น ทางรีสอร์ตได้ดูแลเหมือนปกติทั่วไป ส่วนภาพที่ออกมาน่าจะมาจากกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่มาทำกิจกรรมและพบเห็นเข้าจึงใช้ถ่ายภาพไว้ ซึ่งพระที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมีเพียงพระที่มีอายุไม่มากนักเท่านั้น ส่วนพระผู้ใหญ่ท่านไม่ได้ออกมาแสดงอาการแต่อย่างใด ท่านก็เก็บตัวเงียบๆ อยู่ในที่พัก
นายศักดิ์ประเสริฐ เจริญประสิทธิ์ นายอำเภอเกาะช้างด้วยว่า มีพระมาทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม นายอำเภอเกาะช้างโทร.มาแจ้ง ตอนประมาณ 4 ทุ่ม (คืนวันที่ 29 เมษายน) ว่าขอให้ทางรีสอร์ตช่วยบอกพระสงฆ์ที่มาพักอย่าทำพฤติกรรมอะไรที่ไม่เหมาะสมเพราะเสียภาพลักษณ์ ซึ่งทางรีสอร์ตก็แจ้งให้กลุ่มพระสงฆ์ทราบแต่ก็คงจะสายไป เพราะว่าเช้าวันรุ่งขึ้นก็เตรียมเดินทางกลับ
ขณะที่ นายสันติ บินม่วง นักวิชาการศาสนา รักษาราชการแทน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ตราด กล่าวว่า ข่าวที่ปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์นั้นต้องขอชี้แจงว่าพระสงฆ์ที่ปรากฎในภาพนั้นไม่ใช่พระจากวัดในจังหวัดตราด แต่เป็นพระจากที่อื่นมาพัก ตอนนั้นก็ได้รับการแจ้งถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์กลุ่มนี้มาแล้ว ซึ่งตนก็ได้นำเรื่องแจ้งไปยังเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดตราดให้รับทราบแล้ว
“จะนำเรื่องเข้าปรึกษากับเจ้าคณะจังหวัดเพื่อหามาตรการในการป้องกันมิให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก โดยจะทำ หนังสือแจ้งไปยังรีสอร์ทหรือโรงแรมต่างๆ ว่าหากคณะทัวร์ หรือคณะดูงานใดที่เดินทางมาใช้บริการหากมีพระสงฆ์มาด้วย ก็ขอให้ติดต่อวัดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้พระไปจำวัดที่นั่น เนื่องจากพระจะใช้ที่พักที่ มีหลังคาเดียวกับฆราวาสไม่ได้ ถือว่าผิดวินัยสงฆ์ แต่หากพระเดินทางไปพักตามที่พักอื่นที่ไม่ใช่วัดก็ควรจะอยู่ในอาการสำรวม สงบเสงี่ยม
ไม่ควรทำอะไรที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์เพราะถือว่าผิดระเบียบวินัย”
ด้านประชาชนจังหวัดตราดคนหนึ่งกล่าวว่า ตามปกติแล้วพระสงฆ์ไม่ควรที่จะมาเที่ยวหรือพักผ่อนตามสถานที่แบบนี้ เพราะถือว่าตัดขาดจากทางโลกแล้ว อย่างนี้ถือว่ามีกิเลสอยู่ และยิ่งมาทำตัวเหมือนชาวบ้านยิ่งไม่เหมาะสม เห็นมีแต่ที่อื่นๆ ที่เป็นข่าวไม่คิดว่าจะมาเกิดที่จังหวัดตราด ถึงแม้ไม่ใช่พระที่ตราด แต่ทำพฤติกรรมแบบนี้ก็ทำให้ตราดเสียชื่อ อยากจะฝากให้ผู้ดูแลควรจะมีมาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้เพื่อป้องกัน มิให้เกิดปัญหาขึ้นไม่ว่าที่จังหวัดตราดหรือจังหวัดอื่นๆ
จากการที่ได้มีการฟอร์เวิร์ดเมลภาพพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ที่เดินทางไปพักยัง เกาะหวายปะการัง รีสอร์ต โดยดำเนินชีวิตแบบฆราวาสทั่วไป เช่น เล่นน้ำ เตะฟุตบอล ทำให้มีผู้ที่เดินทางไปเที่ยวสถานที่ดังกล่าวได้ถ่ายภาพและนำภาพส่งเป็นฟอร์เวิร์ดเมลไปตามเมลบล็อกต่างๆ จนมีการนำมาเผยแพร่ในหน้าหนังสือพิมพ์ถึงความไม่เหมาะสมดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตราดจึงได้ติดต่อสอบถามไปยังแหล่งข่าวในเกาะหวายปะการัง รีสอร์ต ถึงการเข้าพักของพระสงฆ์ชุดดังกล่าวนั้น นางสาวนันนลิน เปิดเผยว่า พระสงฆ์ชุดนี้ได้เดินทาง เข้าพักที่รีสอร์ทจริงตั้งแต่วันที่ 29-30 เมษายน 2552 โดยการจอง ห้องพักทางโทรศัพท์ และแจ้งว่ากรุ๊ปที่จะมานั้นเป็นพระสงฆ์จากวัดธรรมกาย จำนวน 10-12 รูป โดยมีพระผู้ใหญ่ 4-5 รูปร่วมมาด้วย ซึ่งทางรีสอร์ตได้จัดโซนที่พักให้แยกไปเนื่องจากเห็นว่าเป็นพระสงฆ์ไม่ต้องการให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องมารบกวน
ก่อนหน้าที่กลุ่มพระสงฆ์จะเข้าพักได้มีกลุ่มของนักเรียน นักศึกษาที่เดินทางมาพักและใช้สถานที่สำหรับการอบรมเรื่องสิ่งแวดล้อมมาพักและทำกิจกรรมอยู่ก่อนแล้ว 2 วัน ซึ่งในวันที่พระสงฆ์เข้าพักนั้น ทางรีสอร์ตได้ดูแลเหมือนปกติทั่วไป ส่วนภาพที่ออกมาน่าจะมาจากกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่มาทำกิจกรรมและพบเห็นเข้าจึงใช้ถ่ายภาพไว้ ซึ่งพระที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมีเพียงพระที่มีอายุไม่มากนักเท่านั้น ส่วนพระผู้ใหญ่ท่านไม่ได้ออกมาแสดงอาการแต่อย่างใด ท่านก็เก็บตัวเงียบๆ อยู่ในที่พัก
นายศักดิ์ประเสริฐ เจริญประสิทธิ์ นายอำเภอเกาะช้างด้วยว่า มีพระมาทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม นายอำเภอเกาะช้างโทร.มาแจ้ง ตอนประมาณ 4 ทุ่ม (คืนวันที่ 29 เมษายน) ว่าขอให้ทางรีสอร์ตช่วยบอกพระสงฆ์ที่มาพักอย่าทำพฤติกรรมอะไรที่ไม่เหมาะสมเพราะเสียภาพลักษณ์ ซึ่งทางรีสอร์ตก็แจ้งให้กลุ่มพระสงฆ์ทราบแต่ก็คงจะสายไป เพราะว่าเช้าวันรุ่งขึ้นก็เตรียมเดินทางกลับ
ขณะที่ นายสันติ บินม่วง นักวิชาการศาสนา รักษาราชการแทน ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ตราด กล่าวว่า ข่าวที่ปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์นั้นต้องขอชี้แจงว่าพระสงฆ์ที่ปรากฎในภาพนั้นไม่ใช่พระจากวัดในจังหวัดตราด แต่เป็นพระจากที่อื่นมาพัก ตอนนั้นก็ได้รับการแจ้งถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์กลุ่มนี้มาแล้ว ซึ่งตนก็ได้นำเรื่องแจ้งไปยังเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดตราดให้รับทราบแล้ว
“จะนำเรื่องเข้าปรึกษากับเจ้าคณะจังหวัดเพื่อหามาตรการในการป้องกันมิให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก โดยจะทำ หนังสือแจ้งไปยังรีสอร์ทหรือโรงแรมต่างๆ ว่าหากคณะทัวร์ หรือคณะดูงานใดที่เดินทางมาใช้บริการหากมีพระสงฆ์มาด้วย ก็ขอให้ติดต่อวัดที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง เพื่อให้พระไปจำวัดที่นั่น เนื่องจากพระจะใช้ที่พักที่ มีหลังคาเดียวกับฆราวาสไม่ได้ ถือว่าผิดวินัยสงฆ์ แต่หากพระเดินทางไปพักตามที่พักอื่นที่ไม่ใช่วัดก็ควรจะอยู่ในอาการสำรวม สงบเสงี่ยม
ไม่ควรทำอะไรที่ไม่ใช่กิจของสงฆ์เพราะถือว่าผิดระเบียบวินัย”
ด้านประชาชนจังหวัดตราดคนหนึ่งกล่าวว่า ตามปกติแล้วพระสงฆ์ไม่ควรที่จะมาเที่ยวหรือพักผ่อนตามสถานที่แบบนี้ เพราะถือว่าตัดขาดจากทางโลกแล้ว อย่างนี้ถือว่ามีกิเลสอยู่ และยิ่งมาทำตัวเหมือนชาวบ้านยิ่งไม่เหมาะสม เห็นมีแต่ที่อื่นๆ ที่เป็นข่าวไม่คิดว่าจะมาเกิดที่จังหวัดตราด ถึงแม้ไม่ใช่พระที่ตราด แต่ทำพฤติกรรมแบบนี้ก็ทำให้ตราดเสียชื่อ อยากจะฝากให้ผู้ดูแลควรจะมีมาตรการที่เข้มงวดมากกว่านี้เพื่อป้องกัน มิให้เกิดปัญหาขึ้นไม่ว่าที่จังหวัดตราดหรือจังหวัดอื่นๆ
