ขออย่ามีชีวิตอยู่เพื่อรอการขาดทุนเลย
โทษของการทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง หลอกลวงเขา
จะทำให้ปัญญาทราม โดนหลอกอยู่เป็นนิจ
ให้ผลทั้งปัจจุบัน และอนาคต
ปุจฉา
แนวทางแห่งความดี
ขอให้หลวงปู่ช่วยชี้แนวทาง แห่งความดีในสถานการณ์ที่ลูกต้องทำงานประกอบอาชีพ และต้องอยู่ในสภาพเหมือนสนับสนุนให้เกิดระบบคอร์รัปชัน ต้องขายสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรู้เมื่อเห็นหรือต้องให้ รู้สึกเบื่อโลกนี้เสียเหลือเกิน แต่โดยหน้าที่การงานแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ แต่ภายในใจรู้ว่าไม่ถูกต้อง จะเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่นช่วงนี้ก็ยาก เหตุและผล ของกรรมเหล่านี้มีอย่างไรครับ
วิสัชนา
น่าเห็นใจในวิถีชีวิตของคุณผู้หวังที่จะพูดดี ทำดี คิดดี ซึ่งก็ต้องใช้วิถีแห่งความกล้าหาญอย่างยิ่ง พระบรมศาสดาจึงทรงกล่าวว่า พระธรรมนี้ เป็นสิ่งที่ทวนกระแส ไม่ง่ายเลยที่จะทำตามถ้าคนผู้นั้นยังมีอินทรีย์อันอ่อน ซึ่งเรื่องเช่นนี้ก็มิได้มีเฉพาะคุณเท่านั้น แต่ถึงยังไงฉันก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณมีกุศลจิตที่กล้าแข็งพร้อมที่จะเพียรพยายามทำดี พูดดี คิดดี แค่นี้ฉันก็ถือว่าเป็นกำไรของชีวิตคุณแล้ว ขออย่ามีชีวิตอยู่เพื่อรอการขาดทุนเลย โทษของ การประพฤติทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง หลอกลวงเขา คนเหล่านี้เกิดในชาติต่อๆ ไป จะเป็นคนหรือสัตว์ที่โง่เขลา จะทำพูดคิด หรืออยู่ร่วมกับใครก็มิได้มีผู้ใดให้ความไว้วางใจ ไม่เชื่อหน้า ปัญญาทราม แถมมักจะโดนคนอื่นผู้อื่นหลอกลวงอยู่เป็นนิจ และถ้าเผอิญเกิดมามีทรัพย์ ชาติ ตระกูลดี แต่ในที่สุดก็ต้องโดนผู้อื่นปอกลอก หลอกลวงจนเสียหาย ผลเหล่านี้จะให้ผลทั้งปัจจุบัน และอนาคต ขอได้โปรดหลีกเลี่ยงอย่าทำ
ปุจฉา
ขอธรรมะสำหรับผู้นำองค์กร
หนึ่ง จะใช้ธรรมะข้อใดมาปราบความรู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้ อ่อนแอ และพ่ายแพ้ในตนเองให้ได้ ผู้นำขององค์กรมีสิทธิ์จะท้อแท้บ้างไหมคะ
สอง ผู้นำที่ดีขององค์กรควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร และผู้นำควรจะใช้ธรรมะข้อใดในการนำองค์กรที่กำลังแตกแยกกันเนื่องจากมีแต่คนเก่งแต่ไม่ยอมลงรอยกัน ให้รวมกันเป็นหนึ่งให้ได้
สาม การข่มใจด้วยขันติ กับการวางเฉย(อุเบกขา) การข่มนิวรณ์ด้วยองค์คุณแห่งฌาน (วิขัมภนปหาน) และความสงบใจ (อุปสมะ) แตกต่างกันอย่างไร ควรจะยึดหลักธรรมะข้อไหนดีกว่ากันคะ
วิสัชนา
ข้อหนึ่ง ความรัก ความศรัทธา ความเพียร สติ ความอดทน ปัญญา เหล่านี้เป็นธรรมที่ช่วยกำราบความสิ้นหวัง พ่ายแพ้ ท้อถอย อ่อนแอ
ผู้นำองค์กรถ้ายังเป็นมนุษย์ ปุถุชนธรรมดาก็ย่อมเป็นธรรมชาติอยู่เองที่ย่อมมีความรู้สึกเหนื่อยหน่าย ท้อแท้
ข้อสอง เป็นที่พึ่งแก่ตนเอง และทำตนเองให้เป็นที่พึ่งแก่ผู้อื่น ได้ เข้มแข้ง ซื่อตรง มีน้ำใจ และต้องรู้จักให้อภัย
ข้อสาม นั่นเพราะใจนี้ รับรู้อะไรจนปรุงเป็นอารมณ์ เมื่อเกิดและมีอารมณ์ จึงจำเป็นต้อง ใช้ความอดทน อดกลั้น ที่เรียกว่า ขันติ
อุเบกขา คือ สภาพที่ใจนี้รู้อะไร แต่ไม่ปรุงเป็นอารมณ์ จึงไม่ทำอารมณ์ให้เกิดอะไร วิขัมภนปหาน คือ การข่มกิเลสด้วยอำนาจแห่งฌาน พอฌานเสื่อมกิเลสก็ปรากฏขึ้นอีก อุปสมะ คือ สภาพแห่งจิตที่ปราศจากกิเลส โดยมิต้องมีการข่มบังคับเป็นวิถีแห่งพระนิพพาน ฉันเลือกให้คุณไม่ได้ มีแต่คุณเท่านั้นที่จะเลือกสิ่งดีที่สุด ให้แก่ชีวิตคุณ และต้องถูกตรงต่อสภาวะความเป็นจริงในปัจจุบันของคุณด้วย
ปุจฉา
ใส่บาตรวันไหนดี
มีคนมักจะพูดเสมอว่า การใส่บาตรในวันพระนั้นจะให้ผลบุญแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว มากกว่าการใส่บาตรในวันธรรมดา (ที่ไม่ใช่วันพระ) จริงหรือไม่ประการใด
วิสัชนา
เป็นความเชื่อของคนเหล่านั้น ซึ่งเชื่อกันว่าวันโกน วันพระ คือวันที่นรกภูมิได้ปลดปล่อยให้วิญญาณมาเยี่ยมญาติบนโลกมนุษย์ พวกเขาจึงคิดว่าทำบุญตักบาตรในวันโกนวันพระเป็นการทำบุญให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้วโดยตรง ที่เรียกเป็นภาษาทางวิชาการว่า เปรตพลี
แต่ความเชื่อในพระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อว่า การทำบุญ บริจาคทาน คือ การทำลายความตระหนี่คับแคบ เห็นแก่ตัว ละโมบโลภมาก อิจฉาริษยาที่มีอยู่ในใจ ในกายตนให้ลดน้อยถดถอยลงไป ด้วยการให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน และเมื่อจะให้ด้วยมุ่งหวังว่าขอญาติและสัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุข ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกวัน เวลา นาที เดือน ปี หรือโอกาส ผู้มีจิตเมตตาที่จะให้น่าจะให้ได้ทุกโอกาสที่นึกได้
ส่วนที่บอกกันว่าในวันพระวันโกนรู้จักทำบุญใส่บาตร บริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เข้าวัด ฟังธรรม คนโบราณท่านต้องการสอนให้รู้ว่าภายใน 7 วันที่ผ่านพ้นและมีชีวิตอยู่เราอาจจะทำดีบ้างไม่ดีบ้างด้วยความรู้เท่าทันหรือรู้ไม่เท่าทันก็ตาม ก็ขอให้มีวันหนึ่งภายใน 1 สัปดาห์ที่ตั้งใจ คิดดี พูดดี และทำดี ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเอื้ออารีและเป็นดีที่มีในใจ ชีวิตจะได้รู้สึกโล่ง โปร่ง เบาสบาย ผ่อนคลายจากมลพิษ และปัญหาที่หมักหมม
โทษของการทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง หลอกลวงเขา
จะทำให้ปัญญาทราม โดนหลอกอยู่เป็นนิจ
ให้ผลทั้งปัจจุบัน และอนาคต
ปุจฉา
แนวทางแห่งความดี
ขอให้หลวงปู่ช่วยชี้แนวทาง แห่งความดีในสถานการณ์ที่ลูกต้องทำงานประกอบอาชีพ และต้องอยู่ในสภาพเหมือนสนับสนุนให้เกิดระบบคอร์รัปชัน ต้องขายสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อรู้เมื่อเห็นหรือต้องให้ รู้สึกเบื่อโลกนี้เสียเหลือเกิน แต่โดยหน้าที่การงานแล้วสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ แต่ภายในใจรู้ว่าไม่ถูกต้อง จะเปลี่ยนไปประกอบอาชีพอื่นช่วงนี้ก็ยาก เหตุและผล ของกรรมเหล่านี้มีอย่างไรครับ
วิสัชนา
น่าเห็นใจในวิถีชีวิตของคุณผู้หวังที่จะพูดดี ทำดี คิดดี ซึ่งก็ต้องใช้วิถีแห่งความกล้าหาญอย่างยิ่ง พระบรมศาสดาจึงทรงกล่าวว่า พระธรรมนี้ เป็นสิ่งที่ทวนกระแส ไม่ง่ายเลยที่จะทำตามถ้าคนผู้นั้นยังมีอินทรีย์อันอ่อน ซึ่งเรื่องเช่นนี้ก็มิได้มีเฉพาะคุณเท่านั้น แต่ถึงยังไงฉันก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณมีกุศลจิตที่กล้าแข็งพร้อมที่จะเพียรพยายามทำดี พูดดี คิดดี แค่นี้ฉันก็ถือว่าเป็นกำไรของชีวิตคุณแล้ว ขออย่ามีชีวิตอยู่เพื่อรอการขาดทุนเลย โทษของ การประพฤติทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง หลอกลวงเขา คนเหล่านี้เกิดในชาติต่อๆ ไป จะเป็นคนหรือสัตว์ที่โง่เขลา จะทำพูดคิด หรืออยู่ร่วมกับใครก็มิได้มีผู้ใดให้ความไว้วางใจ ไม่เชื่อหน้า ปัญญาทราม แถมมักจะโดนคนอื่นผู้อื่นหลอกลวงอยู่เป็นนิจ และถ้าเผอิญเกิดมามีทรัพย์ ชาติ ตระกูลดี แต่ในที่สุดก็ต้องโดนผู้อื่นปอกลอก หลอกลวงจนเสียหาย ผลเหล่านี้จะให้ผลทั้งปัจจุบัน และอนาคต ขอได้โปรดหลีกเลี่ยงอย่าทำ
ปุจฉา
ขอธรรมะสำหรับผู้นำองค์กร
หนึ่ง จะใช้ธรรมะข้อใดมาปราบความรู้สึกสิ้นหวัง ท้อแท้ อ่อนแอ และพ่ายแพ้ในตนเองให้ได้ ผู้นำขององค์กรมีสิทธิ์จะท้อแท้บ้างไหมคะ
สอง ผู้นำที่ดีขององค์กรควรจะมีคุณสมบัติอย่างไร และผู้นำควรจะใช้ธรรมะข้อใดในการนำองค์กรที่กำลังแตกแยกกันเนื่องจากมีแต่คนเก่งแต่ไม่ยอมลงรอยกัน ให้รวมกันเป็นหนึ่งให้ได้
สาม การข่มใจด้วยขันติ กับการวางเฉย(อุเบกขา) การข่มนิวรณ์ด้วยองค์คุณแห่งฌาน (วิขัมภนปหาน) และความสงบใจ (อุปสมะ) แตกต่างกันอย่างไร ควรจะยึดหลักธรรมะข้อไหนดีกว่ากันคะ
วิสัชนา
ข้อหนึ่ง ความรัก ความศรัทธา ความเพียร สติ ความอดทน ปัญญา เหล่านี้เป็นธรรมที่ช่วยกำราบความสิ้นหวัง พ่ายแพ้ ท้อถอย อ่อนแอ
ผู้นำองค์กรถ้ายังเป็นมนุษย์ ปุถุชนธรรมดาก็ย่อมเป็นธรรมชาติอยู่เองที่ย่อมมีความรู้สึกเหนื่อยหน่าย ท้อแท้
ข้อสอง เป็นที่พึ่งแก่ตนเอง และทำตนเองให้เป็นที่พึ่งแก่ผู้อื่น ได้ เข้มแข้ง ซื่อตรง มีน้ำใจ และต้องรู้จักให้อภัย
ข้อสาม นั่นเพราะใจนี้ รับรู้อะไรจนปรุงเป็นอารมณ์ เมื่อเกิดและมีอารมณ์ จึงจำเป็นต้อง ใช้ความอดทน อดกลั้น ที่เรียกว่า ขันติ
อุเบกขา คือ สภาพที่ใจนี้รู้อะไร แต่ไม่ปรุงเป็นอารมณ์ จึงไม่ทำอารมณ์ให้เกิดอะไร วิขัมภนปหาน คือ การข่มกิเลสด้วยอำนาจแห่งฌาน พอฌานเสื่อมกิเลสก็ปรากฏขึ้นอีก อุปสมะ คือ สภาพแห่งจิตที่ปราศจากกิเลส โดยมิต้องมีการข่มบังคับเป็นวิถีแห่งพระนิพพาน ฉันเลือกให้คุณไม่ได้ มีแต่คุณเท่านั้นที่จะเลือกสิ่งดีที่สุด ให้แก่ชีวิตคุณ และต้องถูกตรงต่อสภาวะความเป็นจริงในปัจจุบันของคุณด้วย
ปุจฉา
ใส่บาตรวันไหนดี
มีคนมักจะพูดเสมอว่า การใส่บาตรในวันพระนั้นจะให้ผลบุญแก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว มากกว่าการใส่บาตรในวันธรรมดา (ที่ไม่ใช่วันพระ) จริงหรือไม่ประการใด
วิสัชนา
เป็นความเชื่อของคนเหล่านั้น ซึ่งเชื่อกันว่าวันโกน วันพระ คือวันที่นรกภูมิได้ปลดปล่อยให้วิญญาณมาเยี่ยมญาติบนโลกมนุษย์ พวกเขาจึงคิดว่าทำบุญตักบาตรในวันโกนวันพระเป็นการทำบุญให้ญาติที่ล่วงลับไปแล้วโดยตรง ที่เรียกเป็นภาษาทางวิชาการว่า เปรตพลี
แต่ความเชื่อในพระพุทธศาสนาสอนให้เชื่อว่า การทำบุญ บริจาคทาน คือ การทำลายความตระหนี่คับแคบ เห็นแก่ตัว ละโมบโลภมาก อิจฉาริษยาที่มีอยู่ในใจ ในกายตนให้ลดน้อยถดถอยลงไป ด้วยการให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน และเมื่อจะให้ด้วยมุ่งหวังว่าขอญาติและสัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุข ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกวัน เวลา นาที เดือน ปี หรือโอกาส ผู้มีจิตเมตตาที่จะให้น่าจะให้ได้ทุกโอกาสที่นึกได้
ส่วนที่บอกกันว่าในวันพระวันโกนรู้จักทำบุญใส่บาตร บริจาคทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เข้าวัด ฟังธรรม คนโบราณท่านต้องการสอนให้รู้ว่าภายใน 7 วันที่ผ่านพ้นและมีชีวิตอยู่เราอาจจะทำดีบ้างไม่ดีบ้างด้วยความรู้เท่าทันหรือรู้ไม่เท่าทันก็ตาม ก็ขอให้มีวันหนึ่งภายใน 1 สัปดาห์ที่ตั้งใจ คิดดี พูดดี และทำดี ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเอื้ออารีและเป็นดีที่มีในใจ ชีวิตจะได้รู้สึกโล่ง โปร่ง เบาสบาย ผ่อนคลายจากมลพิษ และปัญหาที่หมักหมม