xs
xsm
sm
md
lg

ปุจฉา-วิสัชนา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

กรรมของลูกหรือกรรมของแม่
ปุจฉา : นมัสการหลวงปู่ ดิฉันชอบอ่านปุจฉา-วิสัชนา เพราะได้ความรู้ดี ดิฉันเองก็มีปัญหาเรื่องลูก อยากจะถามหลวงปู่เหมือนกัน คือดิฉันมีลูกสาวคนเดียว สามีตายตั้งแต่ลูกยังเล็กๆ ลูกสาวดิฉันเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เด็กๆ แต่พอโตขึ้นก็ติดเพื่อน มีแฟน ดิฉันว่ากล่าวตักเตือนอย่างไรก็ยังไม่ดีขึ้น จนเบื่อที่จะพูด จะเตือนแล้ว ก็เลยปล่อยเลยตามเลย แต่ดิฉันก็สงสัยว่า ถ้าดิฉันปล่อยเลยตามเลยแบบนี้ มันจะเป็นกรรมของลูกหรือกรรมของแม่คะ ขอให้หลวงปู่ช่วยวิสัชนาให้ด้วยค่ะ ......................................เยาวรัตน์

วิสัชนา : กรรมทั้งแม่ทั้งลูกนั่นแหละ แต่อยากจะบอกว่ากิริยาของลูกที่คุณเล่ามานั้นมันเป็นธรรมชาติของวัยรุ่นที่อยากจะคบหาสมาคม อยากลองอยากศึกษา แต่ความอยากของเขาไม่มีอะไรเป็นตัวกำกับ คือ ไม่มีจริยธรรม คุณธรรม กำกับ มันก็เลยเป็นความอยากที่ใช้อารมณ์เป็นตัวบันดาลใจ ถ้าคุณหาวิธีที่จะจำกัดอารมณ์ของเขาไว้บ้าง ให้เขาอยากอยู่ในกรอบของคุณธรรมจริยธรรมก็ไม่น่าจะผิดอะไร เช่น เขาติดเพื่อน เราก็บอกให้เขาเอาเพื่อนเข้ามาในบ้าน อย่างน้อยคุณก็ยังมองเห็นว่าใครเป็นเพื่อนของลูก และการกระทำของลูกกับเพื่อนๆก็อยู่ในสายตาคุณด้วย แต่ถ้าคุณมัวห้ามอย่างนั้นไม่ได้ อย่างนี้ไม่ได้ ก็จะทำให้ความอยากของลูกไปขึ้นกับอารมณ์ แล้วเขาจะหาวิธีการที่เอาชนะ คุณ ดังนั้นวิธีที่ดีคือ ทำความอยากของเขาให้มันสมอยาก แต่อยู่ในกรอบของจริยธรรมโดยที่เราเป็นผู้ควบคุม แต่ไม่ใช่บังคับ

เจริญสติ เดินหรือนั่ง อย่างไหนดีกว่า
ปุจฉา : นมัสการพระคุณเจ้า ดิฉันเพิ่งหันมาสนใจปฏิบัติธรรมตอนอายุมากแล้ว ทำ ให้มีปัญหาในการปฏิบัติมาก เพราะมีอาการปวดขาปวดเข่า เวลาเดินจงกรมก็เดินไม่ได้นาน เวลานั่งพับเพียบสวดมนต์เจริญภาวนา ก็นั่งนิ่งๆไม่ได้นาน เพราะมันเมื่อย ต้องคอย เปลี่ยนท่านั่งตลอด ทำให้รู้สึกเกรงใจคนข้างๆว่าเราอาจจะไปรบกวนสมาธิเขา ดิฉันอยากจะถามว่าการเดินภาวนากับการนั่งภาวนา อะไรดีกว่ากันเจ้าคะ และการเจริญสติ เดินหรือนั่ง อย่างไหนดีกว่า และถ้าไม่ต้องนั่งพับเพียบ แต่นั่งบนเก้าอี้จะได้หรือไม่เจ้าคะ ขอกราบขอบพระคุณ เจ้าค่ะ ....................................................................วิมล

วิสัชนา : ดีทั้งสองอย่างถ้ามันทำให้คุณสงบ แต่มันจะไม่ดีทั้งสองอย่างถ้าคุณไม่สงบ ไม่พบความสว่าง และห่างไกล ความสะอาด เพราะฉะนั้นยืนก็ได้ เดินก็ได้ นั่งก็ได้ หรือแม้แต่นอนก็ได้ ถ้าทำให้คุณสงบ การเจริญสติทำวิปัสสนานั้นไม่มีท่า ไม่มีอิริยาบถที่แน่นอน ทำได้ทุกอิริยาบถ ไม่มีข้อบังคับว่าคุณต้องนั่งนิ่งๆไม่ไหวติง หรือต้องนั่งกับพื้น คุณจะนั่งบนเก้าอี้ก็ทำได้

คนใจร้อนชอบตอบโต้
ปุจฉา : กราบเรียนพระคุณเจ้าที่เคารพ ดิฉันมีปัญหาอยากเรียนถามดังนี้ค่ะ ดิฉันเป็นคนใจร้อน เวลามีคนปรักปรำให้ร้าย จะรู้สึกโกรธมาก และจะต้องตอบโต้ทันทีเพื่อเคลียร์ความบริสุทธิ์ของตนเองด้วยความเป็นจริง แต่ก็ทำให้เกิดผลเสีย คือยิ่งตอบโต้กันรุนแรงยิ่งขึ้น กับบางคนถึงกับไม่พูดคุยกันอีกเลย ไม่ทราบว่ามีวิธีใดที่จะทำให้ดิฉันระงับความโกรธได้เมื่อถูกใส่ร้ายในเวลานั้น และรอจนกว่าบุคคลนั้นหยุดให้ร้าย แล้วค่อยปรับความเข้าใจ ขอหลวงปู่ให้คำชี้แนะด้วยค่ะ.......................................................สุชาดา

วิสัชนา : มี 2 เรื่องที่อยากให้คุณพินิจพิเคราะห์ เรื่องแรกคุณไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจ เมื่อคุณรู้ว่าเขาให้ร้าย เหมือนที่เขาสาดโคลนใส่คุณ คุณก็ไม่จำเป็นต้องออกจากบ้านไปรับโคลน แต่ถ้ารู้ทั้งรู้ว่าเขาให้ร้าย แล้วยังออกไปให้เขาให้ร้ายให้เป็นทุกข์ แล้วก็ทำตัวเอง ให้อยู่ทุกข์ยากมากขึ้นอีก อย่างนั้นแสดงว่าคุณโง่ไปเอง ก็ต้องทำให้ฉลาดขึ้น เจริญสติ ทำสมาธิให้เกิดปัญญามากๆ เรื่องที่ 2 คุณปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเป็นสัตว์สังคม จำเป็นต้องอยู่ในสังคม การที่ผู้อื่นมาว่ากล่าวให้ร้ายตน ก็จำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงให้ได้ดี ถ้ากรณีเช่นนี้ก็ต้องหาเหตุผลให้แน่นอน ว่าเขาให้ร้ายเราด้วยสาเหตุอะไร และอะไรเป็นเหตุปัจจัยให้เขาไม่ชอบขี้หน้าเรา ต้องแก้ที่เหตุให้ได้ ถ้าแก้ แล้ว เขายังให้ร้ายอยู่เป็นปกติ ก็ต้องยกประโยชน์ว่าเรามีกรรมกับเขา เคยทะเลาะกันมา เคยจองเวรผูกอาฆาตพยาบาทกันมาแต่อดีตชาติ อีกวิธีหนึ่งคือ ท่องในใจไว้เสมอว่า ขอสัตว์ทั้งปวงจงเป็นสุข

(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 95 ต.ค. 51 โดย หลวงปู่พุทธะอิสระ วัดอ้อน้อย นครปฐม)
กำลังโหลดความคิดเห็น