“ไชยา” ยันเอาผิดหมอ “ตัดไข่” เด็ก ด่าขาดจรรยาบรรณ พ่อแม่ยินยอมก็ผิด ไล่ไปผ่าตัด ตปท.ถ้าเขาอนุญาต ด้าน ผอ.กองการประกอบโรคศิลปะ เผยยึดเวชระเบียนได้ 1 ราย เตรียมส่งแพทยสภาตรวจสอบ
นายไชยา กล่าวว่า ยืนยันว่า หากคลินิกที่ให้บริการผ่าตัดดังกล่าวกับเด็กอายุยังไม่ถึง 18 ปี มีความผิดอย่างแน่นอน เพราะเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถึงจะมีสัญญายินยอมให้ผ่าตัด แต่ก็เป็นโมฆียะ เพราะเด็กยังสับสนในตัวเองอยู่ การตัดสินใจจึงไม่สมบูรณ์ และต้องผ่านการปรึกษาจากจิตแพทย์ก่อน หากยืนยันต้องการทำจริงควรมีการปรึกษาจิตแพทย์ก่อน ว่ามีความเหมาะสมที่จะทำแปลงเพศ นอกจากนี้ เด็กวัยรุ่นมักติดเพื่อน ทำตามกันโดยไม่ได้คิดให้รอบคอบ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคตได้ โดยเฉพาะคนที่ไปแต่งงานกับผู้หญิงแล้วอยากมีลูกก็ไม่สามารถทำได้ ควรที่จะให้เด็กบรรลุนิติภาวะก่อน คือ มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป เพราะเริ่มรู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว
“ขอตำหนิแพทย์ที่ทำแบบนี้ว่าขาดจรรยาบรรณมาก ได้สั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพลงไปตรวจหาข้อมูลที่คลินิกตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส เพราะเราปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้ บางครั้งเด็กบางคนไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ขาดความอบอุ่นขั้นพื้นฐาน สับสนทางเพศไม่แน่ใจตัวเองว่าเป็นหญิงหรือชาย ยังตัดสินอะไรแทนตัวเองไม่ได้ เราซึ่งเป็นแพทย์ควรให้คำชี้แนะ ไม่เห็นแก่เงินจนเกินไป สธ.จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับสถานพยาบาลที่ดำเนินการเช่นนี้ ได้พูดคุยกับแพทยสภา ว่า ถ้าต้องเพิกถอนใบอนุญาตก็ต้องทำและหากบอกว่าต่างประเทศยังทำได้ก็ให้ไปทำที่ต่างประเทศ” นายไชยา กล่าว
ด้าน นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานบริการย่านประตูน้ำ 2 แห่ง ไม่พบการผ่าตัดในขณะที่เข้าตรวจสอบ แต่ได้สอบถามกับเจ้าของสถานประกอบการ ยอมรับว่า มีการให้บริการผ่าตัดลูกอัณฑะจริง จึงได้เก็บเวชระเบียนมา 1 ราย เพื่อนำส่งให้แพทยสภาตรวจสอบมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ ว่า ถูกต้องหรือไม่ สำหรับสถานเสริมความงาม เอ็ม ดี คลินิก สาขา ถ.เพชรบุรี พบว่าไม่มีการให้บริการผ่าตัดอัณฑะ
“กองการประกอบโรคศิลปะ จะต้องกลับมาวางแผนใหม่ว่าจะมีการบุกเข้าตรวจสอบคลินิกที่ใดอีกบ้าง โดยในวันที่ 31 มีนาคมนี้ จึงจะเริ่มออกตรวจสอบในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง ส่วนตามต่างจังหวัด วันนี้ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบคลินิกต่างๆ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า การร้องเรียนเรื่องดังกล่าวยังมีอยู่น้อย แถมยังไม่มีใครกล้าแสดงตัว จึงทำให้ไม่มีพยานไปชี้เป้าได้อย่างแม่นยำ” นพ.ธารากล่าว
นายไชยา กล่าวว่า ยืนยันว่า หากคลินิกที่ให้บริการผ่าตัดดังกล่าวกับเด็กอายุยังไม่ถึง 18 ปี มีความผิดอย่างแน่นอน เพราะเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถึงจะมีสัญญายินยอมให้ผ่าตัด แต่ก็เป็นโมฆียะ เพราะเด็กยังสับสนในตัวเองอยู่ การตัดสินใจจึงไม่สมบูรณ์ และต้องผ่านการปรึกษาจากจิตแพทย์ก่อน หากยืนยันต้องการทำจริงควรมีการปรึกษาจิตแพทย์ก่อน ว่ามีความเหมาะสมที่จะทำแปลงเพศ นอกจากนี้ เด็กวัยรุ่นมักติดเพื่อน ทำตามกันโดยไม่ได้คิดให้รอบคอบ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคตได้ โดยเฉพาะคนที่ไปแต่งงานกับผู้หญิงแล้วอยากมีลูกก็ไม่สามารถทำได้ ควรที่จะให้เด็กบรรลุนิติภาวะก่อน คือ มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป เพราะเริ่มรู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว
“ขอตำหนิแพทย์ที่ทำแบบนี้ว่าขาดจรรยาบรรณมาก ได้สั่งการให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพลงไปตรวจหาข้อมูลที่คลินิกตามที่ได้รับแจ้งเบาะแส เพราะเราปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ได้ บางครั้งเด็กบางคนไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ขาดความอบอุ่นขั้นพื้นฐาน สับสนทางเพศไม่แน่ใจตัวเองว่าเป็นหญิงหรือชาย ยังตัดสินอะไรแทนตัวเองไม่ได้ เราซึ่งเป็นแพทย์ควรให้คำชี้แนะ ไม่เห็นแก่เงินจนเกินไป สธ.จะดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับสถานพยาบาลที่ดำเนินการเช่นนี้ ได้พูดคุยกับแพทยสภา ว่า ถ้าต้องเพิกถอนใบอนุญาตก็ต้องทำและหากบอกว่าต่างประเทศยังทำได้ก็ให้ไปทำที่ต่างประเทศ” นายไชยา กล่าว
ด้าน นพ.ธารา ชินะกาญจน์ ผู้อำนวยการกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานบริการย่านประตูน้ำ 2 แห่ง ไม่พบการผ่าตัดในขณะที่เข้าตรวจสอบ แต่ได้สอบถามกับเจ้าของสถานประกอบการ ยอมรับว่า มีการให้บริการผ่าตัดลูกอัณฑะจริง จึงได้เก็บเวชระเบียนมา 1 ราย เพื่อนำส่งให้แพทยสภาตรวจสอบมาตรฐานการประกอบวิชาชีพ ว่า ถูกต้องหรือไม่ สำหรับสถานเสริมความงาม เอ็ม ดี คลินิก สาขา ถ.เพชรบุรี พบว่าไม่มีการให้บริการผ่าตัดอัณฑะ
“กองการประกอบโรคศิลปะ จะต้องกลับมาวางแผนใหม่ว่าจะมีการบุกเข้าตรวจสอบคลินิกที่ใดอีกบ้าง โดยในวันที่ 31 มีนาคมนี้ จึงจะเริ่มออกตรวจสอบในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง ส่วนตามต่างจังหวัด วันนี้ได้ทำหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบคลินิกต่างๆ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า การร้องเรียนเรื่องดังกล่าวยังมีอยู่น้อย แถมยังไม่มีใครกล้าแสดงตัว จึงทำให้ไม่มีพยานไปชี้เป้าได้อย่างแม่นยำ” นพ.ธารากล่าว