พระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ ในพระราชดำริ‘ราชินี’ลงจำพรรษาใน 3 จชต.แล้ว
• นราธิวาส : เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ ์ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประธานโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ พร้อมพระสงฆ์ในโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ จำนวน 111 รูป เดินทางด้วยเครื่องบิน ซี 130 ของกองทัพอากาศ ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส เพื่อจำพรรษาในวัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อประกอบศาสนกิจและเป็นที่พึ่งทางใจให้แก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ เนื่องจากวัดและสำนักสงฆ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส กว่า 270 แห่ง 33 อำเภอ ขาดพระสงฆ์จำพรรษาในปีนี้
พระจอม ปุณณฺรตโน พระลูกวัด วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ต.ทำนบ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ กนึ่งในพระสงฆ์ที่ร่วมโครงการ กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อมาปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาและที่สำคัญคือเพื่อมาช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในพื้นที่ให้เกิดความรักและสมานฉันท์กัน ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยจะจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน หรือ 1 พรรษา ร่วมกับพระตามวัดต่างๆ ในพื้นที่
สำหรับคณะพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ทั้งหมดจะเดินทางแยกย้ายเข้าจำพรรษาตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อนึ่ง โครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ เกิดขึ้นจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ อยากให้มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างน้อยวัดละ 5 รูป เพื่อให้สามารถรับกฐินได้ในช่วงเทศกาลการทอดกฐิน และปฏิบัติศาสนกิจได้ ซึ่งโครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548
คณะสงฆ์ กทม.ขยายเวลาจัดนิทรรศการพุทธกิจ 45 พรรษาถึง ‘วันแม่’เน้นรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน เทิดพระเกียรติ‘พระราชินี’
• กรุงเทพฯ : พระเมธีวรญาณ พระครูสถิตบุญวัฒน์ พระมหาสมปอง มุทิโต และพระมหาธีรโชติ ธีรปัญโญ คณะทำงานนิทรรศการพุทธกิจ 45 พรรษาของคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร ได้แถลงถึงการขยายเวลาจัดนิทรรศการดังกล่าวจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2551 ว่า เนื่องจากงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนาวันอาสาฬหบูชาธรรมยาตราคุ้มครองโลก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-19 กรกฎาคม นั้น ได้รับความสนใจจากประชาชน นักเรียน นักศึกษาจำนวนมากและมีผู้เรียกร้องให้ขยายเวลาจัดกิจกรรมออกไปอีก
ดังนั้น คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร จึงขยายเวลาจัดนิทรรศการออกไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2551 โดยการจัดงานตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2551 เป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เน้นการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน สนองพระราชเสาวนีย์ ที่ทรงห่วงใยภาวะโลกร้อน
ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก ฉายภาพยนตร์พุทธประวัติ กับพุทธกิจตลอด 45 พรรษา ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นิทรรศการความสำคัญของเมืองในพุทธประวัติในประเทศอินเดีย 10 เมือง เช่น พุทธคยา มีการจัดซุ้มสวรรค์ดาวดึงส์ นอกจากนี้ ผู้จัดงานยังเตรียมทำเสื้อวันแม่ โดยพิมพ์คำขวัญรณรงค์ลดโลกร้อนด้วย
สคบ.เข้มประสานผู้ว่าฯ ตรวจถังสังฆทาน หวั่นบรรจุสินค้าหมดอายุ
• กรุงเทพฯ : นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยถึงกรณีที่พระพยอม กัลยาโณ ออกมาเตือนพุทธศาสนิกชนให้ระมัดระวังการนำสิ่งของที่อยู่ในถังสังฆทานหมดอายุไปถวายพระในช่วงเข้าพรรษา ว่า สคบ.ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขอให้ออกตรวจสอบถังสังฆทาน อย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยสคบ.สามารถตรวจสอบได้แค่ฉลากที่ต้องมีสินค้าครบถ้วนตามฉลากที่ติดไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าปัญหาจะเกิดขึ้นในร้านค้าเล็ก ๆ ที่มีการนำสินค้าต่าง ๆ มาจัดเป็นชุดสังฆทาน โดยสคบ.ได้เข้มงวดและดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะสินค้ามีครบตามที่กำหนดทุกประการ
อย่างไรก็ตามขอเตือนประชาชนคนไทยด้วยว่าเพื่อความสบายใจและได้บุญกุศลจริงๆ ขอให้ซื้อสินค้ามาจัดชุดสังฆทานเองจะดีที่สุด และไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าให้ครบทุกอย่าง แต่ขอให้เลือกซื้อสินค้าเฉพาะที่พระสงฆ์ หรือทางวัดต้องการใช้จริงๆ เท่านั้น ก็ถือว่าได้บุญกุศลที่ใหญ่แล้ว
“ที่ผ่านมาตามกฎหมายสคบ.จะกำหนดให้มีการติดฉลากอย่างละเอียด ว่าธูปมีกี่ก้าน ผ้าอาบน้ำฝนมีขนาดกว้างคูณยาวเท่าใด รวมถึงวันหมดอายุของสินค้า หากร้านค้าขายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามสลากที่ระบุไว้ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย คือหากไม่จัดทำฉลาก หรือ จัดทำฉลากไม่ถูกต้อง จะมีโทษปรับ ผู้จำหน่ายไม่เกิน 50,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ผลิตมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับไปแล้วหลายสิบร้านค้าทั่วประเทศ” นางรัศมี กล่าว
แพทย์ผู้รักษา‘ท่านพุทธทาส’ เปิดใจได้เรียนรู้ธรรมะจาก‘ปัจฉิมอาพาธ พุทธทาส’
• กรุงเทพฯ : มูลนิธิโกมลคีมทอง เครือข่ายพุทธิกา เครือข่ายธรรมโฆษณ์ มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ และ คณะกรรมการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ‘พุทธทาสบุ๊คคลับ ครั้งที่ 5’ ประจำปี 2551 ในหัวข้อเรื่อง ‘ปัจฉิมอาพาธ พุทธทาสมหาเถระ’ ณ ห้องประชุมมงคลนาวิน ตึก สก. ชั้น 10 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 80 คน
น.พ. นิธิพัฒน์ เจียรกุล จากโรงพยาบาลศิริราชผู้ถวายการรักษา ท่านพุทธทาสภิกขุ ขณะอาพาธ และเจ้าของงานเขียน ‘ท่านพุทธทาส :คนไข้ที่ผมรู้จัก’ ซึ่งได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรในครั้งนี้ กล่าวว่านอกเหนือจากตนจะได้มีโอกาสถวายการรักษาท่านพุทธทาสตามหน้าที่แพทย์แล้ว ยังได้เรียนรู้ ธรรมะ จากท่านพุทธทาสไปพร้อมกันด้วย
“...ผมระลึกถึงสิ่งที่ท่านเคยพูดและเคยปฏิบัติให้ผมเห็นมาตลอดว่า ความเจ็บและความตายสำหรับ ‘พุทธทาสภิกขุ’ นั้น มันเป็น ‘เช่นนั้นเอง’ หาใช่สิ่งที่ต้องหวาดหวั่น ทุกข์ทรมาน หรือต้องดิ้นรน ‘หอบสังขารหนีความตาย’ แต่อย่างใดไม่ ผมจึงรู้ว่า ไม่มีอะไรที่จะต้องเศร้าโศกเสียใจในการจากไป...
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากท่านอาจารย์อีกประการหนึ่ง ก็คือทัศนะและการปฏิบัติของท่านในเรื่องความเจ็บป่วย การรักษา และการตาย ทำให้เห็นว่าในระบบวิทยาการของการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น มุ่งจะค้นหาและวิเคราะห์ส่วนย่อยของร่างกายที่ผิดปกติ เพื่อความเข้าใจปรากฏการณ์แล้ววางแผนการรักษาไป โดยไม่ได้มองว่าการเจ็บป่วยของมนุษย์นั้น ไม่ได้มีเพียงมิติทางร่างกายเท่านั้น
สิ่งที่เราละเลยกันมาก ก็คือ มิติทางจิต (Mental) และวิญญาณ (Spiritual) ของผู้ป่วย ทำอย่างไรที่จะก่อให้เกิดการประสานกลมกลืนทั้ง 2 มิตินี้ ให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ เพื่อประโยชน์ในการเยียวยารักษาผู้ป่วยได้อย่างแท้จริง นี่เป็นปัญหาที่ผมต้องขบคิดและมุ่งหวังให้แพทย์ในระบบปัจจุบันได้ตระหนักในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน จะช่วยให้เราปฏิบัติหน้าที่ในฐานะแพทย์ได้อย่างถูกต้องมากขึ้น และเมื่อใดที่เราทำหน้าที่ด้วยความถูกต้อง เมื่อนั้นเราย่อมปฏิบัติธรรมไปในตัว ดังที่ท่านอาจารย์มักจะพูดอยู่เสมอว่า การทำงานคือการปฏิบัติธรรม หรือ ธรรมะคือหน้าที่ นั่นเอง...”
ว.วชิรเมธี ส่งธรรมะ Mobile ผ่านโทรมือถือ
• กรุงเทพฯ : สถาบันวิมุตตยาลัย ซึ่งมีพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) เป็นประธาน ร่วมกับ บริษัท ดีไซน์ ดี มีเดีย จำกัด เปิดตัวสื่อธรรมะใหม่เพื่อยุคไอที ‘ธรรมะ Mobile’ หวังเปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงธรรมง่ายๆ ได้ด้วยมือถือ ธรรมะ Mobile เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้คนไทยได้เสพธรรมผ่านโทรศัพท์มือถือทุกวัน วันละ 3 เวลา ในรูปแบบของข้อความธรรมะสั้น (SMS) จากท่านว.วชิรเมธี ส่งตรงในระบบอัตโนมัติถึงโทรศัพท์มือถือทุกเลขหมายที่สมัครเป็นสมาชิก ค่าสมัครเดือนละ 29 บาท แลกกับ 90 กว่าข้อความที่สื่อถึงการลดความทุกข์ สร้างความสุข และเสริมรอยยิ้มแห่งสัมมาทิฐิ ให้เกิดขึ้น และแบ่งบานในจิตใจของคนไทยทุกคนได้อย่างไร้ซึ่งขีดจำกัด
“ธรรมะคือปัจจัยที่ 5 ในการดำเนินชีวิต แต่ทุกวันนี้ผู้คนในสังคมส่วนใหญ่ล้วนขาดธรรมะ จึงเป็นเหตุให้เกิดปัญหาสารพัดสารพันในสังคมที่ไม่อาจแก้ไขได้โดยง่าย แต่เพียงแค่เราให้โอกาสตนเองด้วยการโน้มน้อมเข้ามาหาธรรม ปัญหาทุกอย่างก็จะสามารถคลี่คลาย และสว่างไสวไปด้วยแสงแห่งทางออก” พระมหาวุฒิชัย กล่าว
ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือของเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟสามารถสมาชิกธรรมะโมบายล์ด้วยการกดหมายเลขแล้วโทรออกหรือส่ง SMS จากโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ซึ่งไม่ต่างจากการสมัครบริการทั่วไป สำหรับการรับ SMS นั้น ช่วงเช้า 8.00 น.จะใช้ชื่อว่าธรรมะรับอรุณ ช่วงกลางวันส่งเวลา 12 .00 น. ชื่อว่าธรรมะทันกาล คนสำราญงานสำเร็จ และช่วงค่ำจะส่งเวลา 20 .00 น. ชื่อว่าธรรมะหลับสบาย
‘ในหลวง’พระราชทานทุนเล่าเรียนหลวงถวายพระสงฆ์เป็นปีที่ 5
• นครปฐม : เมื่อวันที่ 9 ก.ค.51 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ฯพณฯ พลอากาศตรี กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ประธานกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย เป็นประธานในพิธีอัญเชิญทุนเล่าเรียนหลวงประจำปีการศึกษา 2551ถวายแด่คณะสงฆ ์ณ อาคารหอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม
โดยถวายแด่ภิกษุสามเณรที่เข้าสอบเปรียญธรรม 6,7,8 และ 9 ประโยค ทั้งในระดับปริญญาตรี โท และเอก ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากกองบาลีสนามหลวง จำนวน 76 ทุน จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 239 ทุน และจากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย 50 ทุน
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น โครงการนี้จึงได้จัดสรรทุนเพิ่มขึ้นอีก 5 ทุน โดยถวายแด่สำนักเรียนพระปริยัติธรรมที่มีผลงานดีเด่น ในเขตปกครองคณะสงฆ์ทั้ง 5 เขต เขตละ 1 ทุน และแด่พระธรรมทูตระดับอำเภอที่มีผลงานดีเด่นทั้ง 9 สาย สายละ 1ทุน รวมทั้งสิ้น379 ทุน เป็นจำนวนเงิน 3,253,000 บาท
ในการนี้ ฯพณฯนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และ ฯพณฯนายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้ถวายย่ามโครงการฯแด่พระภิกษุและสามเณร ผู้ได้รับทุนและสอบได้เปรียญธรรม 6,7 และ 8 ประโยค จำนวน 44 รูป
พลโท นพ.ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์ และนาวาตรีเกริก ตั้งสง่า กรรมการโครงการ ร่วมกันเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนโดยเสด็จพระราชกุศลในโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่อง บางองค์กร เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็จัดทอดผ้าป่าในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกปีเพื่อถวายโดยเสด็จพระราชกุศลเข้าสมทบโครงการทุนเล่าเรียนหลวงฯ
“หากหน่วยงานใดสนใจก็สามารถจะทำได้ ซึ่งทางโครงการจะเรียนเชิญท่านองคมนตรีไปรับผ้าป่าในการนี้”
อนึ่ง”โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย” นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งขึ้น เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 76 พรรษา 5 ธันวาคม 2546 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้พระภิกษุและสามเณรได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างลึกซึ้งแตกฉาน เพื่อสร้างความร่มเย็นในสังคมด้วยหลักพุทธธรรมที่ถูกต้องเป็นแกน และเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เป็นหลักทางจิตใจและความคิดของประชาชน ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนปฐมฤกษ์ และผู้มีจิตศรัทธาทูลเกล้าฯถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลสมทบเป็นลำดับมา ทำให้สามารถจัดสรรทุนได้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2547 โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นที่ปรึกษา และฯพณฯ พลอากาศตรี กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานกรรมการ
ปัจจุบัน โครงการฯได้ถวายทุนเล่าเรียนหลวง แด่พระสงฆ์ไปแล้ว เป็นจำนวนทั้งสิ้น 12,746,000 บาท
หากท่านที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม หรือมีจิตศรัทธาที่จะทูลเกล้าฯถวายทุนทรัพย์เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลในการนี้ กรุณาติดต่อได้ที่ โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรี สำนักราชเลขาธิการ ทำเนียบองคมนตรี พระราชอุทยานสราญรมย์ กรุงเทพมหานคร 10200 หรือโทร.0-2220-7400 ต่อ 4351,4353 และ 4214
กาชาดร่วมกลุ่มศิลปินจัดนิทรรศการ ศิลปกรรมเทิดพระเกียรติ‘พระราชินี’ ครั้งที่13
• นครปฐม : สภากาชาดไทย โดยสำนักงานจัดหารายได้ ร่วมกับกลุ่มศิลปินอืสระ 96 โรงแรมมณเฑียร บริษัท นูโวเทค จำกัด และบริษัท บี ซี ไอ อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด จัดงานนิทรรศการศิลปกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ครั้งที่ 13 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกา สภากาชาดไทย เนื่องในวโรกาสมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 76 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม นี้ และนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานทูลเกล้าฯถวายโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย
คุณหญิงทิพยวรรณ ตันตกิตติ์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน เปิดเผยว่า “การจัดนิทรรศการครั้งนี้ คณะกรรมการจัดงานฯได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดงาน และทอดพระเนตรผลงานภาพวาดของศิลปิน ในวันพุธที่ 6 สิงหาคม เวลา 14.30 น. ณ ห้องราชมณเฑียร โรงแรมมณเฑียร กรุงเทพฯ”
นิทรรศการฯจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 7-24 สิงหาคม เวลา 10.00-20.00 น. ณ บริเวณห้องโถงชั้นลอย โรงแรมมณเฑียร และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีการสาธิตเทคนิคการเขียนภาพสีน้ำ ภาพสีน้ำมัน การเขียนภาพPortrait และการเขียนภาพดอกไม้ โดยศิลปินอาชีพ อาทิ อ.สมาน คลังจัตุรัส อ.อภิชาติ ชูทอง อ.อภิชัย การิกาญจน์ ฯลฯ
ผู้สนใจสามารถเข้าชมและร่วมสั่งจองภาพวาดเพื่อการกุศลได้ในวันและเวลาดังกล่าว
วธ.ประชุมผู้นำศาสนิกสัมพันธ์ 5 ศาสนา สร้างสมานฉันท์ชายแดนภาคใต้
• นราธิวาส : นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุม ศาสนิกสัมพันธ์ ในโครงการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมสัญจรสู่ชายแดนใต้ ที่โรงแรมอิมพีเรียลจังหวัดนราธิวาส ว่า การจัดประชุมผู้นำศาสนิกสัมพันธ์ 5 ศาสนา ทั้ง พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ เพื่อให้ผู้นำศาสนาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหาระหว่างกัน โดยเฉพาะแนวทางการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะทำให้กระทรวงวัฒนธรรม ทราบถึงปัญหาความไม่สงบ และความต้องการของคนในพื้นที่ได้ตรงจุด โดยตนเองเชื่อว่าไม่มีประชาชนคนไทยคนไหน อยากฆ่าคนตั้งแต่กำเนิด เพราะทางศาสนา วัฒนธรรม วิถีชีวิต สอนให้คนเป็นคนดี ทุกศาสนาสอนให้คนรักกัน ปรองดองกัน และมั่นใจว่า ไม่มีใครอยากได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด ทุกคนคงอยากได้ยินเสียงดนตรี เป็นเสียงที่สนุกสนาน และอยากให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่
ด้านนายมะตอเฮ ลอมา อิหม่ามมัสยิด ต.ตะโละไกรทอง จ.ปัตตานี กล่าวว่า เห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยนำศาสนามาแก้ปัญหาน่าจะได้ผลมากกว่า การใช้กำลัง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 93 ส.ค. 51 โดย มรรคา)
• นราธิวาส : เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พล.อ.ณพล บุญทับ รองสมุหราชองครักษ์ ์ ในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ประธานโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ พร้อมพระสงฆ์ในโครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ จำนวน 111 รูป เดินทางด้วยเครื่องบิน ซี 130 ของกองทัพอากาศ ไปยังท่าอากาศยานนราธิวาส เพื่อจำพรรษาในวัด 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อประกอบศาสนกิจและเป็นที่พึ่งทางใจให้แก่พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ เนื่องจากวัดและสำนักสงฆ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส กว่า 270 แห่ง 33 อำเภอ ขาดพระสงฆ์จำพรรษาในปีนี้
พระจอม ปุณณฺรตโน พระลูกวัด วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ ต.ทำนบ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ กนึ่งในพระสงฆ์ที่ร่วมโครงการ กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อมาปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาและที่สำคัญคือเพื่อมาช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจของคนในพื้นที่ให้เกิดความรักและสมานฉันท์กัน ตามแนวพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยจะจำพรรษาเป็นเวลา 3 เดือน หรือ 1 พรรษา ร่วมกับพระตามวัดต่างๆ ในพื้นที่
สำหรับคณะพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ทั้งหมดจะเดินทางแยกย้ายเข้าจำพรรษาตามวัดต่างๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
อนึ่ง โครงการพระสงฆ์นำชัยคุ้มภัยใต้ เกิดขึ้นจากการที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระราชเสาวนีย์ อยากให้มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างน้อยวัดละ 5 รูป เพื่อให้สามารถรับกฐินได้ในช่วงเทศกาลการทอดกฐิน และปฏิบัติศาสนกิจได้ ซึ่งโครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่ปี 2548
คณะสงฆ์ กทม.ขยายเวลาจัดนิทรรศการพุทธกิจ 45 พรรษาถึง ‘วันแม่’เน้นรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน เทิดพระเกียรติ‘พระราชินี’
• กรุงเทพฯ : พระเมธีวรญาณ พระครูสถิตบุญวัฒน์ พระมหาสมปอง มุทิโต และพระมหาธีรโชติ ธีรปัญโญ คณะทำงานนิทรรศการพุทธกิจ 45 พรรษาของคณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร ได้แถลงถึงการขยายเวลาจัดนิทรรศการดังกล่าวจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2551 ว่า เนื่องจากงานสัปดาห์เผยแผ่พระพุทธศาสนาวันอาสาฬหบูชาธรรมยาตราคุ้มครองโลก ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-19 กรกฎาคม นั้น ได้รับความสนใจจากประชาชน นักเรียน นักศึกษาจำนวนมากและมีผู้เรียกร้องให้ขยายเวลาจัดกิจกรรมออกไปอีก
ดังนั้น คณะสงฆ์กรุงเทพมหานคร จึงขยายเวลาจัดนิทรรศการออกไปจนถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2551 โดยการจัดงานตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคมถึงวันที่ 12 สิงหาคม 2551 เป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เน้นการรณรงค์ลดภาวะโลกร้อน สนองพระราชเสาวนีย์ ที่ทรงห่วงใยภาวะโลกร้อน
ทั้งนี้ กิจกรรมสำคัญประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก ฉายภาพยนตร์พุทธประวัติ กับพุทธกิจตลอด 45 พรรษา ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นิทรรศการความสำคัญของเมืองในพุทธประวัติในประเทศอินเดีย 10 เมือง เช่น พุทธคยา มีการจัดซุ้มสวรรค์ดาวดึงส์ นอกจากนี้ ผู้จัดงานยังเตรียมทำเสื้อวันแม่ โดยพิมพ์คำขวัญรณรงค์ลดโลกร้อนด้วย
สคบ.เข้มประสานผู้ว่าฯ ตรวจถังสังฆทาน หวั่นบรรจุสินค้าหมดอายุ
• กรุงเทพฯ : นางรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยถึงกรณีที่พระพยอม กัลยาโณ ออกมาเตือนพุทธศาสนิกชนให้ระมัดระวังการนำสิ่งของที่อยู่ในถังสังฆทานหมดอายุไปถวายพระในช่วงเข้าพรรษา ว่า สคบ.ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อขอให้ออกตรวจสอบถังสังฆทาน อย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยสคบ.สามารถตรวจสอบได้แค่ฉลากที่ต้องมีสินค้าครบถ้วนตามฉลากที่ติดไว้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าปัญหาจะเกิดขึ้นในร้านค้าเล็ก ๆ ที่มีการนำสินค้าต่าง ๆ มาจัดเป็นชุดสังฆทาน โดยสคบ.ได้เข้มงวดและดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่จะไม่มีปัญหาเกิดขึ้น เพราะสินค้ามีครบตามที่กำหนดทุกประการ
อย่างไรก็ตามขอเตือนประชาชนคนไทยด้วยว่าเพื่อความสบายใจและได้บุญกุศลจริงๆ ขอให้ซื้อสินค้ามาจัดชุดสังฆทานเองจะดีที่สุด และไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้าให้ครบทุกอย่าง แต่ขอให้เลือกซื้อสินค้าเฉพาะที่พระสงฆ์ หรือทางวัดต้องการใช้จริงๆ เท่านั้น ก็ถือว่าได้บุญกุศลที่ใหญ่แล้ว
“ที่ผ่านมาตามกฎหมายสคบ.จะกำหนดให้มีการติดฉลากอย่างละเอียด ว่าธูปมีกี่ก้าน ผ้าอาบน้ำฝนมีขนาดกว้างคูณยาวเท่าใด รวมถึงวันหมดอายุของสินค้า หากร้านค้าขายสินค้าที่ไม่เป็นไปตามสลากที่ระบุไว้ก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย คือหากไม่จัดทำฉลาก หรือ จัดทำฉลากไม่ถูกต้อง จะมีโทษปรับ ผู้จำหน่ายไม่เกิน 50,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ผลิตมีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับไปแล้วหลายสิบร้านค้าทั่วประเทศ” นางรัศมี กล่าว
แพทย์ผู้รักษา‘ท่านพุทธทาส’ เปิดใจได้เรียนรู้ธรรมะจาก‘ปัจฉิมอาพาธ พุทธทาส’
• กรุงเทพฯ : มูลนิธิโกมลคีมทอง เครือข่ายพุทธิกา เครือข่ายธรรมโฆษณ์ มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ และ คณะกรรมการพัฒนาการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม ‘พุทธทาสบุ๊คคลับ ครั้งที่ 5’ ประจำปี 2551 ในหัวข้อเรื่อง ‘ปัจฉิมอาพาธ พุทธทาสมหาเถระ’ ณ ห้องประชุมมงคลนาวิน ตึก สก. ชั้น 10 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 80 คน
น.พ. นิธิพัฒน์ เจียรกุล จากโรงพยาบาลศิริราชผู้ถวายการรักษา ท่านพุทธทาสภิกขุ ขณะอาพาธ และเจ้าของงานเขียน ‘ท่านพุทธทาส :คนไข้ที่ผมรู้จัก’ ซึ่งได้รับเชิญมาเป็นวิทยากรในครั้งนี้ กล่าวว่านอกเหนือจากตนจะได้มีโอกาสถวายการรักษาท่านพุทธทาสตามหน้าที่แพทย์แล้ว ยังได้เรียนรู้ ธรรมะ จากท่านพุทธทาสไปพร้อมกันด้วย
“...ผมระลึกถึงสิ่งที่ท่านเคยพูดและเคยปฏิบัติให้ผมเห็นมาตลอดว่า ความเจ็บและความตายสำหรับ ‘พุทธทาสภิกขุ’ นั้น มันเป็น ‘เช่นนั้นเอง’ หาใช่สิ่งที่ต้องหวาดหวั่น ทุกข์ทรมาน หรือต้องดิ้นรน ‘หอบสังขารหนีความตาย’ แต่อย่างใดไม่ ผมจึงรู้ว่า ไม่มีอะไรที่จะต้องเศร้าโศกเสียใจในการจากไป...
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากท่านอาจารย์อีกประการหนึ่ง ก็คือทัศนะและการปฏิบัติของท่านในเรื่องความเจ็บป่วย การรักษา และการตาย ทำให้เห็นว่าในระบบวิทยาการของการแพทย์แผนปัจจุบันนั้น มุ่งจะค้นหาและวิเคราะห์ส่วนย่อยของร่างกายที่ผิดปกติ เพื่อความเข้าใจปรากฏการณ์แล้ววางแผนการรักษาไป โดยไม่ได้มองว่าการเจ็บป่วยของมนุษย์นั้น ไม่ได้มีเพียงมิติทางร่างกายเท่านั้น
สิ่งที่เราละเลยกันมาก ก็คือ มิติทางจิต (Mental) และวิญญาณ (Spiritual) ของผู้ป่วย ทำอย่างไรที่จะก่อให้เกิดการประสานกลมกลืนทั้ง 2 มิตินี้ ให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ เพื่อประโยชน์ในการเยียวยารักษาผู้ป่วยได้อย่างแท้จริง นี่เป็นปัญหาที่ผมต้องขบคิดและมุ่งหวังให้แพทย์ในระบบปัจจุบันได้ตระหนักในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน จะช่วยให้เราปฏิบัติหน้าที่ในฐานะแพทย์ได้อย่างถูกต้องมากขึ้น และเมื่อใดที่เราทำหน้าที่ด้วยความถูกต้อง เมื่อนั้นเราย่อมปฏิบัติธรรมไปในตัว ดังที่ท่านอาจารย์มักจะพูดอยู่เสมอว่า การทำงานคือการปฏิบัติธรรม หรือ ธรรมะคือหน้าที่ นั่นเอง...”
ว.วชิรเมธี ส่งธรรมะ Mobile ผ่านโทรมือถือ
• กรุงเทพฯ : สถาบันวิมุตตยาลัย ซึ่งมีพระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (ว.วชิรเมธี) เป็นประธาน ร่วมกับ บริษัท ดีไซน์ ดี มีเดีย จำกัด เปิดตัวสื่อธรรมะใหม่เพื่อยุคไอที ‘ธรรมะ Mobile’ หวังเปิดทางให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงธรรมง่ายๆ ได้ด้วยมือถือ ธรรมะ Mobile เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการให้คนไทยได้เสพธรรมผ่านโทรศัพท์มือถือทุกวัน วันละ 3 เวลา ในรูปแบบของข้อความธรรมะสั้น (SMS) จากท่านว.วชิรเมธี ส่งตรงในระบบอัตโนมัติถึงโทรศัพท์มือถือทุกเลขหมายที่สมัครเป็นสมาชิก ค่าสมัครเดือนละ 29 บาท แลกกับ 90 กว่าข้อความที่สื่อถึงการลดความทุกข์ สร้างความสุข และเสริมรอยยิ้มแห่งสัมมาทิฐิ ให้เกิดขึ้น และแบ่งบานในจิตใจของคนไทยทุกคนได้อย่างไร้ซึ่งขีดจำกัด
“ธรรมะคือปัจจัยที่ 5 ในการดำเนินชีวิต แต่ทุกวันนี้ผู้คนในสังคมส่วนใหญ่ล้วนขาดธรรมะ จึงเป็นเหตุให้เกิดปัญหาสารพัดสารพันในสังคมที่ไม่อาจแก้ไขได้โดยง่าย แต่เพียงแค่เราให้โอกาสตนเองด้วยการโน้มน้อมเข้ามาหาธรรม ปัญหาทุกอย่างก็จะสามารถคลี่คลาย และสว่างไสวไปด้วยแสงแห่งทางออก” พระมหาวุฒิชัย กล่าว
ผู้ใช้บริการโทรศัพท์มือถือของเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟสามารถสมาชิกธรรมะโมบายล์ด้วยการกดหมายเลขแล้วโทรออกหรือส่ง SMS จากโทรศัพท์มือถือของตัวเอง ซึ่งไม่ต่างจากการสมัครบริการทั่วไป สำหรับการรับ SMS นั้น ช่วงเช้า 8.00 น.จะใช้ชื่อว่าธรรมะรับอรุณ ช่วงกลางวันส่งเวลา 12 .00 น. ชื่อว่าธรรมะทันกาล คนสำราญงานสำเร็จ และช่วงค่ำจะส่งเวลา 20 .00 น. ชื่อว่าธรรมะหลับสบาย
‘ในหลวง’พระราชทานทุนเล่าเรียนหลวงถวายพระสงฆ์เป็นปีที่ 5
• นครปฐม : เมื่อวันที่ 9 ก.ค.51 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ ฯพณฯ พลอากาศตรี กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ประธานกรรมการโครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย เป็นประธานในพิธีอัญเชิญทุนเล่าเรียนหลวงประจำปีการศึกษา 2551ถวายแด่คณะสงฆ ์ณ อาคารหอประชุมพุทธมณฑล จ.นครปฐม
โดยถวายแด่ภิกษุสามเณรที่เข้าสอบเปรียญธรรม 6,7,8 และ 9 ประโยค ทั้งในระดับปริญญาตรี โท และเอก ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากกองบาลีสนามหลวง จำนวน 76 ทุน จากมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย 239 ทุน และจากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย 50 ทุน
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการจัดการศึกษาของคณะสงฆ์และการเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น โครงการนี้จึงได้จัดสรรทุนเพิ่มขึ้นอีก 5 ทุน โดยถวายแด่สำนักเรียนพระปริยัติธรรมที่มีผลงานดีเด่น ในเขตปกครองคณะสงฆ์ทั้ง 5 เขต เขตละ 1 ทุน และแด่พระธรรมทูตระดับอำเภอที่มีผลงานดีเด่นทั้ง 9 สาย สายละ 1ทุน รวมทั้งสิ้น379 ทุน เป็นจำนวนเงิน 3,253,000 บาท
ในการนี้ ฯพณฯนายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี และ ฯพณฯนายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้ถวายย่ามโครงการฯแด่พระภิกษุและสามเณร ผู้ได้รับทุนและสอบได้เปรียญธรรม 6,7 และ 8 ประโยค จำนวน 44 รูป
พลโท นพ.ธำรงรัตน์ แก้วกาญจน์ และนาวาตรีเกริก ตั้งสง่า กรรมการโครงการ ร่วมกันเปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีพุทธศาสนิกชนที่มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนโดยเสด็จพระราชกุศลในโครงการนี้มาอย่างต่อเนื่อง บางองค์กร เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตก็จัดทอดผ้าป่าในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกปีเพื่อถวายโดยเสด็จพระราชกุศลเข้าสมทบโครงการทุนเล่าเรียนหลวงฯ
“หากหน่วยงานใดสนใจก็สามารถจะทำได้ ซึ่งทางโครงการจะเรียนเชิญท่านองคมนตรีไปรับผ้าป่าในการนี้”
อนึ่ง”โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย” นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งขึ้น เนื่องในวโรกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 76 พรรษา 5 ธันวาคม 2546 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้พระภิกษุและสามเณรได้ศึกษาพระธรรมวินัยอย่างลึกซึ้งแตกฉาน เพื่อสร้างความร่มเย็นในสังคมด้วยหลักพุทธธรรมที่ถูกต้องเป็นแกน และเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้เป็นหลักทางจิตใจและความคิดของประชาชน ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นทุนปฐมฤกษ์ และผู้มีจิตศรัทธาทูลเกล้าฯถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลสมทบเป็นลำดับมา ทำให้สามารถจัดสรรทุนได้ตั้งแต่ปีการศึกษา 2547 โดยมีสมเด็จพระมหาธีราจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นที่ปรึกษา และฯพณฯ พลอากาศตรี กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี เป็นประธานกรรมการ
ปัจจุบัน โครงการฯได้ถวายทุนเล่าเรียนหลวง แด่พระสงฆ์ไปแล้ว เป็นจำนวนทั้งสิ้น 12,746,000 บาท
หากท่านที่ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม หรือมีจิตศรัทธาที่จะทูลเกล้าฯถวายทุนทรัพย์เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลในการนี้ กรุณาติดต่อได้ที่ โครงการทุนเล่าเรียนหลวงสำหรับพระสงฆ์ไทย สำนักงานเลขาธิการคณะองคมนตรี สำนักราชเลขาธิการ ทำเนียบองคมนตรี พระราชอุทยานสราญรมย์ กรุงเทพมหานคร 10200 หรือโทร.0-2220-7400 ต่อ 4351,4353 และ 4214
กาชาดร่วมกลุ่มศิลปินจัดนิทรรศการ ศิลปกรรมเทิดพระเกียรติ‘พระราชินี’ ครั้งที่13
• นครปฐม : สภากาชาดไทย โดยสำนักงานจัดหารายได้ ร่วมกับกลุ่มศิลปินอืสระ 96 โรงแรมมณเฑียร บริษัท นูโวเทค จำกัด และบริษัท บี ซี ไอ อินเตอร์พริ้นท์ จำกัด จัดงานนิทรรศการศิลปกรรมเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ครั้งที่ 13 เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ องค์สภานายิกา สภากาชาดไทย เนื่องในวโรกาสมหามงคล วันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 76 พรรษา ในวันที่ 12 สิงหาคม นี้ และนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจัดงานทูลเกล้าฯถวายโดยเสด็จพระราชกุศลบำรุงสภากาชาดไทย
คุณหญิงทิพยวรรณ ตันตกิตติ์ ประธานคณะกรรมการจัดงาน เปิดเผยว่า “การจัดนิทรรศการครั้งนี้ คณะกรรมการจัดงานฯได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ จะเสด็จเป็นประธานในพิธีเปิดงาน และทอดพระเนตรผลงานภาพวาดของศิลปิน ในวันพุธที่ 6 สิงหาคม เวลา 14.30 น. ณ ห้องราชมณเฑียร โรงแรมมณเฑียร กรุงเทพฯ”
นิทรรศการฯจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรี ตั้งแต่วันที่ 7-24 สิงหาคม เวลา 10.00-20.00 น. ณ บริเวณห้องโถงชั้นลอย โรงแรมมณเฑียร และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีการสาธิตเทคนิคการเขียนภาพสีน้ำ ภาพสีน้ำมัน การเขียนภาพPortrait และการเขียนภาพดอกไม้ โดยศิลปินอาชีพ อาทิ อ.สมาน คลังจัตุรัส อ.อภิชาติ ชูทอง อ.อภิชัย การิกาญจน์ ฯลฯ
ผู้สนใจสามารถเข้าชมและร่วมสั่งจองภาพวาดเพื่อการกุศลได้ในวันและเวลาดังกล่าว
วธ.ประชุมผู้นำศาสนิกสัมพันธ์ 5 ศาสนา สร้างสมานฉันท์ชายแดนภาคใต้
• นราธิวาส : นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดการประชุม ศาสนิกสัมพันธ์ ในโครงการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมสัญจรสู่ชายแดนใต้ ที่โรงแรมอิมพีเรียลจังหวัดนราธิวาส ว่า การจัดประชุมผู้นำศาสนิกสัมพันธ์ 5 ศาสนา ทั้ง พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ เพื่อให้ผู้นำศาสนาได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ปัญหาระหว่างกัน โดยเฉพาะแนวทางการสร้างความสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะทำให้กระทรวงวัฒนธรรม ทราบถึงปัญหาความไม่สงบ และความต้องการของคนในพื้นที่ได้ตรงจุด โดยตนเองเชื่อว่าไม่มีประชาชนคนไทยคนไหน อยากฆ่าคนตั้งแต่กำเนิด เพราะทางศาสนา วัฒนธรรม วิถีชีวิต สอนให้คนเป็นคนดี ทุกศาสนาสอนให้คนรักกัน ปรองดองกัน และมั่นใจว่า ไม่มีใครอยากได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด ทุกคนคงอยากได้ยินเสียงดนตรี เป็นเสียงที่สนุกสนาน และอยากให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่
ด้านนายมะตอเฮ ลอมา อิหม่ามมัสยิด ต.ตะโละไกรทอง จ.ปัตตานี กล่าวว่า เห็นว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยนำศาสนามาแก้ปัญหาน่าจะได้ผลมากกว่า การใช้กำลัง
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 93 ส.ค. 51 โดย มรรคา)
