ปัตตานี – “ชวรัตน์ ชาญวีรกูล“ รักษาการนายกรัฐมนตรีทาส “แม้ว” ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จแบบไม่อายฟ้าดิน อ้างมั่วกับพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ผีซ้ำกรรมซัดกำลังถูกน้ำท่วมอย่างหนัก หลังต้องประสบวิกฤตไฟใต้ จากฝีมือระบอบทักษิณมานานหลายปี ว่า เหตุที่ต้องเดินทางเยี่ยมช้า เพราะมีกลุ่มก่อการร้ายยึดทำเนียบรัฐบาล และสนามบิน 2 แห่งที่กรุงเทพฯ แต่แท้ที่จริงพันธมิตรฯ เลิกชุมนุมไปแล้วกว่าสัปดาห์ ถึงกล้าโผล่หน้ามาให้เห็น
วันนี้ (11 ธ.ค.) นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางมาถึงศาลากลางจังหวัดปัตตานี เพื่อร่วมประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้บริหารท้องถิ่นนายกเทศมนตรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และรับฟังบรรยายสรุปความเสียหายของจังหวัดต่างๆ และการเข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากอุทกภัยน้ำท่วม
รักษาการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการก่อความไม่สงบในพื้นทีกรุงเทพฯ ได้มีการยึดทำเนียบรัฐบาล ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ทำให้การบริหารงานนั้นต้องติดขัด ทำให้คณะรัฐมนตรี รวมทั้งนายกรัฐมนตรี ต้องมีการย้ายไปอยู่ที่ทำเนียบชั่วคราวที่ดอนเมือง รวมทั้งกระผมด้วย
ความจริงผมอยากที่จะเยี่ยมเยียนมานานแล้ว แต่ด้วยเหตุทางการเมืองทำให้พรรคการเมือง 3 พรรคถูกยุบ พรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย จึงทำให้สมาชิกหลายคนที่เป็นรัฐมนตรีต้องขาดสภาพไปหลายคน จึงทำให้รัฐมนตรีที่มีอยู่นั้นต้องควบหลายกระทรวง จึงมีภารกิจที่กรุงเทพฯเสียมากกว่า จึงมาเยี่ยมท่านช้าไปหน่อย แต่ได้พยายามจัดตารางเวลา จึงได้มาวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การร่วมรับฟังการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนจากอุทกภัยน้ำท่วมได้มีข้อจำกัดในเรื่องของระเบียบของราชการที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2551 โดยเกษตรกรที่ได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการ เกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนด้านพืช ด้านปศุสัตว์ และด้านประมงกับกรมที่เกี่ยวข้องก่อนเกิดภัย จึงกลายอุปสรรคในการเข้าไปช่วยเหลือของราชการ ซึ่งก่อเกิดผลเสียทางสังคมจิตวิทยา ที่ทางราชการพยายามสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชานส่วนใหญ่ในพื้นที่
ด้าน นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส จึงได้มีการเสนอให้กระทรวงการคลังชะลอการบังคับใช้หลักเกณฑ์ เฉพาะการที่กำหนดว่าเกษตรที่จะได้รับการช่วยเหลือจากราชการได้จะต้องขึ้นทะเบียนกับทางราชการนั้น ไปใช้บังคับกับการเกิดอุทกภัยในปีต่อไป เพื่อที่ทางราชการจะได้มีเวลาในการแจ้งประชาสัมพันธ์ให้กับเกษตรกร กำหนดหลักเกณฑ์ว่าเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนจะได้รับสิทธิการช่วยเหลือจำนวนเต็มอัตรา
สำหรับผู้ไม่ลงทะเบียนได้รับความช่วยเหลือเพียง 70-80% โดยขอให้รัฐบาลสั่งการให้กระทรวงการคลังเร่งการพิจารณาภายใน 7 วัน เพื่อที่ทางจังหวัดจะได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่เกษตรกรผู้ประสบภัยได้โดยเร็ว นอกจากนั้น ยังมีปัญหาการเลี้ยงปลาเก๋าในกระชังของชาวตำบลโคกเคียน อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ได้รับความเสียหายมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 4 ล้านบาท
นายนที เปรมรัศมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีได้รับที่จะเร่งให้ทางอธิบดีรีบนำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณาเป็นการด่วน ในการจะให้ทางการคลังชะลอการบังคับใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าว
นอกจากนั้น ปลัดสำนักงานนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดในแต่ละจังหวัดให้มีการควบคุมดูแลในการใช้งบประมาณทดลองจ่าย จังหวัดละ 50 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วน เพราะที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนว่า มีบางอำเภอได้นำเงินไปใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์เป็นจำนวนมาก เช่นการนำเงินไปสร้างถนนลูกรังเป็นต้น ซึ่งไม่เข้าข่ายความเดือดร้อนเร่งด่วน
หลังจากนั้น รักษาการนายกฯพร้อมคณะได้ลงพื้นที่หมู่ 1 ตำบลปะกาฮะรัง และหมู่ 8 ตำบลบาราเฮาะ อำเมือง จังหวัดปัตตานี เพื่อนำถุงยังชีพแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วมทั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จึงทำประชาชนแสดงความยินดี และเข้ามารับเป็นจำนวนมาก ซึ่งขณะนี้บางส่วนได้กลับสู่สภาพปกติแล้ว