นราธิวาส - พิษน้ำท่วมนราธิวาส ปลาในกระชังตายเป็นเบือ เสียหายนับล้านบาท ขณะที่เรือประมงจอดเทียบท่าชายฝั่งยังอับปางจากคลื่นทะเลแรง
วันนี้ (7 ธ.ค.) ความคืบหน้าเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมและผลกระทบจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้าเริ่มมีเมฆฝนที่มืดครึ้มแพรปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาระลอก 2 บ้าง แต่ไม่หนักมากนัก ทำให้ภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนของราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตร โดยภาพรวมมีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแม่น้ำสายหลัก 3 สายคือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนราและแม่น้ำสายบุรี ที่เจ้าหน้าที่ได้เร่งระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทยด้านอำเภอเมืองของจังหวัดนราธิวาส
จนส่งผลกระทบต่อราษฎรที่ยึดอาชีพเลี้ยงปลากะพง และปลาเก๋า ในกระชัง จำนวนทั้งสิ้นกว่า 550 กระชัง ซึ่งอาศัยอยู่แถบชุมชนชายทะเล เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำจืดไหลทะลักลงสู่ทะเล จนน้ำในบริเวณดังกล่าวมีสภาพกร่อย ปลาในกระชังที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ซึ่งอยู่ในระหว่างเตรียมจับขายสู่ท้องตลาดต่างประเทศและในประเทศ จำนวนนับ 1,000,000 ตัว ต้องตายเป็นเบือ และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณกว่า 1-2 วันที่ผ่านมาแล้ว
นายมะรอนิง รอแม อายุ 47 ปี เจ้าของปลาในกระชังชุมชนชายทะเล อ.เมือง จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านที่เลี้ยงปลาในกระชังเป็นจำนวนมากหมดเนื้อปะดาตัว โดยปลาที่ชาวประมงพื้นที่บ้านเลี้ยงเป็นปลาเศรษฐกิจ ตัวปลากำลังโต แค่รอเพียงอีก 1 เดือน จะสามารถส่งขายได้ แต่ดวงไม่ดีต้องมาประสบภาวะน้ำท่วมจนเสียหาย แถมไม่สามารถที่จะนำเรือประมงขนาดเล็กออกไปจับปลากลางทะเลได้ เพราะลมมรสุมในทะเลกำลังแรง ขณะนี้ประมงพื้นบ้านหลายพันครอบครัวกำลังเดือดร้อน จึงขอวิงวอนให้หน่วยงานที่ราชการที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
นอกจากนี้ จากการตระเวนตรวจสอบบริเวณปากอ่าวหาดนราทัศน์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จากภาวะคลื่นและกระแสลมแรง ยังส่งผลทำให้เรือประมงที่จอดเทียบท่าแถบชายฝั่ง ยังถูกคลื่นและกระแสลมแรงพัดกรรโชกจนเรือประมงอับปางไปแล้วอีก 1 ลำ โดยทางกรมอุตุวิทยา ได้แจ้งเตือนให้เรือเล็กงดออกจากฝั่งในระยะนี้
วันนี้ (7 ธ.ค.) ความคืบหน้าเกี่ยวกับภาวะน้ำท่วมและผลกระทบจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า บรรยากาศโดยทั่วไปบนท้องฟ้าเริ่มมีเมฆฝนที่มืดครึ้มแพรปกคลุมพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และมีฝนตกลงมาระลอก 2 บ้าง แต่ไม่หนักมากนัก ทำให้ภาวะน้ำท่วมขังบ้านเรือนของราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตร โดยภาพรวมมีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งแม่น้ำสายหลัก 3 สายคือ แม่น้ำสุไหงโก-ลก บางนราและแม่น้ำสายบุรี ที่เจ้าหน้าที่ได้เร่งระบายลงสู่ทะเลอ่าวไทยด้านอำเภอเมืองของจังหวัดนราธิวาส
จนส่งผลกระทบต่อราษฎรที่ยึดอาชีพเลี้ยงปลากะพง และปลาเก๋า ในกระชัง จำนวนทั้งสิ้นกว่า 550 กระชัง ซึ่งอาศัยอยู่แถบชุมชนชายทะเล เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ที่ได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำจืดไหลทะลักลงสู่ทะเล จนน้ำในบริเวณดังกล่าวมีสภาพกร่อย ปลาในกระชังที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ซึ่งอยู่ในระหว่างเตรียมจับขายสู่ท้องตลาดต่างประเทศและในประเทศ จำนวนนับ 1,000,000 ตัว ต้องตายเป็นเบือ และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วบริเวณกว่า 1-2 วันที่ผ่านมาแล้ว
นายมะรอนิง รอแม อายุ 47 ปี เจ้าของปลาในกระชังชุมชนชายทะเล อ.เมือง จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า จากภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านที่เลี้ยงปลาในกระชังเป็นจำนวนมากหมดเนื้อปะดาตัว โดยปลาที่ชาวประมงพื้นที่บ้านเลี้ยงเป็นปลาเศรษฐกิจ ตัวปลากำลังโต แค่รอเพียงอีก 1 เดือน จะสามารถส่งขายได้ แต่ดวงไม่ดีต้องมาประสบภาวะน้ำท่วมจนเสียหาย แถมไม่สามารถที่จะนำเรือประมงขนาดเล็กออกไปจับปลากลางทะเลได้ เพราะลมมรสุมในทะเลกำลังแรง ขณะนี้ประมงพื้นบ้านหลายพันครอบครัวกำลังเดือดร้อน จึงขอวิงวอนให้หน่วยงานที่ราชการที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน
นอกจากนี้ จากการตระเวนตรวจสอบบริเวณปากอ่าวหาดนราทัศน์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส จากภาวะคลื่นและกระแสลมแรง ยังส่งผลทำให้เรือประมงที่จอดเทียบท่าแถบชายฝั่ง ยังถูกคลื่นและกระแสลมแรงพัดกรรโชกจนเรือประมงอับปางไปแล้วอีก 1 ลำ โดยทางกรมอุตุวิทยา ได้แจ้งเตือนให้เรือเล็กงดออกจากฝั่งในระยะนี้
