ปัจจุบันพุทธศาสนาได้แผ่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก ไม่เว้นแม้แต่ประเทศที่มีความเจริญทางวัตถุอย่างสูงสุดจนได้ชื่อว่าเป็นประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา
หนึ่งในผู้ขับเคลื่อนกงล้อแห่งธรรมให้หมุนนำไปสู่วิถีชีวิตของผู้คนในอเมริกาก็คือ ‘ศ.นพ.คงศักดิ์ ตันไพจิตร’ คุณหมอวัย 62 ปี ผู้ชำนาญทางโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันทางโรคข้อ และทางอายุรศาสตร์ ซึ่งเคยเป็นถึงศาสตราจารย์ภาควิชาอายุศาสตร์คลินิก มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี่
ตลอดเวลากว่า 30 ปีของการใช้ชีวิตในต่างแดน คุณหมอคงศักดิ์ได้อุทิศตนในการเป็นวิทยากรเดินสายบรรยายธรรมะให้ฝรั่งต่างชาติได้รับรู้และเข้าใจในหลักธรรมขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งวัดพระศรีรัตนาราม วัดไทยแห่งแรกที่ประกาศเขตพัทธสีมา ณ เมืองเซนต์หลุยส์ เป็นประธานสมัชชาพุทธแห่งมหานครเซนต์หลุยส์ รวมทั้งได้เขียนหนังสือธรรมะทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อสื่อธรรมะให้แพร่หลายอีกทางหนึ่ง
ความภาคภูมิใจในวันนี้ของ ศ.นพ.คงศักดิ์ คือการได้รับรางวัลเสมาธรรมจักร ผู้ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวิสาขบูชา ประจำปี 2551 ประเภทส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
• เป็นมาอย่างไรคะถึงไปเป็นแพทย์ที่อเมริกา
คือผมเป็นเด็กกรุงเทพ จบ ม.8 ที่เตรียมอุดมศึกษา พญาไท แล้วสอบติดแพทย์ที่มหาวิทยาลัยมหิดล หลังเรียนจบภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และเป็นแพทย์ฝึกหัดที่โรงพยาบาลศิริราชอยู่ 1 ปี ในปี 2514 ผมเห็นมีประกาศรับสมัครไปเป็นแพทย์ประจำที่โรงเรียนแพทย์เวลสเตท เมืองดีทรอยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ผมก็ลองสมัครดู โดยสมัครทางไปรษณีย์ ปรากฏว่าทางโน้นเขารับ ผมก็เลยไปเป็นแพทย์ที่เวลสตัน คือที่นี่เขาเป็นโรงพยาบาลที่ใช้สอนนักเรียนแพทย์ด้วย ทำอยู่ที่นี่ได้ปีหนึ่งผมก็ย้ายไปอยู่โรงพยาบาล ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิสซูรี
คือครอบครัวผม พี่ๆน้องๆก็เป็นหมอกันทั้งบ้าน พ่อแม่ผมมีลูก 5 คน ผมเป็นคนที่ 4 ก็เลยเป็นหมอตามพี่ๆด้วย น้องสาวผมก็เป็นหมอ ตอนนี้เป็นศาสตราจารย์อยู่ที่โรงพยาบาล ในเมืองออตโตวา ประเทศแคนาดา ส่วนผมเองเกษียณแล้วก็ออกมาเปิดคลินิกของตัวเองอยู่ที่เมืองเซนหลุยส์ แล้วก็เป็นอาจารย์สอนพิเศษให้แก่นักศึกษาแพทย์ โรงพยาบาลบาร์น ในเมืองเซนต์หลุยส์ด้วย
• คุณหมอมาสนใจธรรมะตอนอยู่ที่อเมริกาหรือว่าอยู่เมืองไทยคะ
ผมผูกพันกับพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็กๆเลยครับ สมัยเด็กๆคุณพ่อคุณแม่จะพาไปวัดบ่อยๆ พาไปฟังธรรมที่ยุวพุทธิกสมาคม ซึ่งตั้งอยู่ภายในวัดกันมาตุยาราม โดยมีอาจารย์ เสถียร โพธินันทะ เป็นผู้บรรยายธรรม ท่านบรรยายเป็นฉากๆโดยไม่มีสคริปเลย โอ้..ผมประทับใจมาก ปัจจุบันผมยังมีเทปการบรรยายธรรมของท่านอยู่เลย นอกจากนั้นสมัยก่อน คุณพ่อผมท่านยังมีหนังสือธรรมะเยอะมาก ทั้งภาษาไทย จีน อังกฤษ ซึ่งเล่มที่ผมชอบมาก ที่สุดคือคำสอนของเหว่ยหลาง ซึ่งเป็นพุทธศาสนาแนวเซน
พออายุ 21 ปี ช่วงที่เรียนแพทย์ปี 1 ก็มาบวชที่วัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งผมโชคดีมากที่ได้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน เป็นพระอุปัชฌาย์ให้ แต่ผมบวชได้ไม่กี่วันก็ไปจำวัดอยู่ที่วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี เลยได้มีโอกาสเรียนกรรมฐานกับหลวงตามหาบัวด้วย ผมก็ไปบิณฑบาตกับท่าน หลวงตาท่านจะอยู่ปลายแถวเพื่อคอยดูแลพระบวชใหม่ พระสมัยนั้นเดินบิณฑบาตกันไกลมาก ไป-กลับ 4 กิโลเมตรได้ ก็ถือว่าเราโชคดีที่บวชแล้วได้เจอครูบาอาจารย์หลายท่าน หลังจากสึกแล้วกลับไปเรียนต่อก็ยังสนใจศึกษาด้านธรรมะมาเรื่อยกระทั่งปัจจุบัน
• ช่วงที่คุณหมอไปอยู่ที่เซนต์หลุยส์ใหม่ๆ ที่นั่นมีวัดไทยหรือยังคะ
ยังไม่มีครับ ผมไปอยู่ที่เซนต์หลุยส์เมื่อปี 2515 แต่วัดไทย คือวัดพระศรีรัตนาราม นี่เพิ่งสร้างเมื่อปี 2526 ถึงปัจจุบันก็ 25 ปีแล้ว คือมีคนไทยที่เขารวมตัวกัน ช่วยกันสร้างวัดนี้ขึ้นมา ซึ่งแกนนำส่วนใหญ่จะเป็นแพทย์ ผมก็เป็นเลขานุการของวัดมาตลอด โดยสถานที่ ซึ่งเป็นวัดนั้นตอนแรกเราเช่าพื้นที่ของอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่ง ต่อมาก็มาซื้อบ้านพร้อมที่ดินแล้วดัดแปลงเป็นวัดแต่สถานที่ไม่ค่อยสะดวก ในปี 2533 เราเลยตัดสินใจย้ายไปที่ใหม่ พอดีมีโบสถ์ฝรั่งแห่งหนึ่งเขาประกาศขาย เราก็ซื้อมาตกแต่งใหม่ให้เป็นวัดไทย คนไทยที่นั่นก็รวบรวมเงินกัน บริจาคบ้าง ให้กู้แบบปลอดดอกเบี้ยบ้าง พอมีคนมาบริจาคเพิ่มก็ใช้คืนไป จนสร้างวัดได้สำเร็จและอยู่มาถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันมีพระอยู่ 4-5 รูป
• แสดงว่าที่นั่นมีคนไทยอยู่เยอะเหมือนกัน
ที่เซนต์หลุยส์และพื้นที่ใกล้คียงคือมิสซูรีและอิลินอยส์ รวมแล้วมีคนไทยประมาณ 200-300 ครอบครัว ก็ประมาณ 500 คน มีทั้งที่เป็นแพทย์ นักธุรกิจ เจ้าของร้านอาหาร เจ้าของดีพาร์ตเมนสโตร์ ทุกครอบครัวก็เข้าวัดกันหมด วัดพระศรีรัตนารามเลยหยั่งรากในเมืองเซนต์หลุยส์มาได้นานถึง 25 ปี
• แล้วมีฝรั่งมาเข้าวัดไทยบ้างไหมคะ
ก็มีพอสมควรนะ คือฝรั่งเขาอ่านหนังสือเยอะและรู้ว่ามันมีวิธีพ้นทุกข์ที่มันแตกต่างจากสิ่งที่เขาเรียนรู้มาตั้งแต่เกิด ส่วนมากเขาจะชอบมานั่งกรรมฐาน คือที่วัดพระศรีรัตนารามเราจะจัดนั่งกรรมฐานทุกคืนวันเสาร์ โดยเป็นการจัดอบรมฟรี ก็จะมีคนมาครั้งละประมาณ 20 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝรั่งนะ พอมาถึงพระอาจารย์ท่านก็สอนเป็นภาษาไทย แล้วผมก็ แปลเป็นภาษาอังกฤษอีกที จากนั้นก็เป็นการปฏิบัติครึ่งชั่วโมง แล้วก็เป็นการถาม-ตอบปัญหาธรรมะอีกครึ่งชั่วโมง ซึ่งในส่วนของการตอบปัญหานั้นส่วนใหญ่ผมจะเป็นคนตอบเอง เพราะผมก็ศึกษาธรรมะมาพอสมควร แต่ถ้าคำถามไหนตอบไม่ได้ผมก็จะให้พระอาจารย์ท่านชี้แจงแล้วผมก็แปลให้ฝรั่งฟังอีกที ส่วนคนไทยที่นั่นจะนิยมทำบุญใส่บาตรมากกว่าการนั่งสมาธิ วันงานบุญใหญ่อย่างวันเข้าพรรษา วันวิสาขบูชา ก็จะมากันเยอะ
• นอกจากคนไทยแล้ว ในเซนต์หลุยส์ยังมีชนชาติอื่นที่นับถือพุทธศาสนาหรือเปล่าคะ
จริงๆแล้วที่เซนต์หลุยส์มีคนที่นับถือพุทธศาสนาเยอะและหลากหลายนิกายมากครับ มีทั้งพุทธแบบเซนที่ชาวญี่ปุ่นเป็นคนก่อตั้ง วัดพุทธแบบจีนซึ่งเป็นมหายานแต่คนก่อตั้งเป็นชาวมาเลเซีย พุทธแบบทิเบต วัดพุทธของชาวญวน วัดของชาวลาว วัดเกาหลี วัดพม่าและกำลังจะมีศูนย์วิปัสสนาของชาวศรีลังกา โดยแต่ละวัดก็จะมีแนวทางปฏิบัติของตัวเอง นอกจากนั้นยังมีฝรั่งกลุ่มหนึ่งที่เขาปฏิบัติตามหลักสติปัฏฐาน 4
เมื่อปี 2542 เราก็เลยตั้งเป็นสมัชชาพุทธแห่งมหานครเซนต์หลุยส์ขึ้นมา โดยเป็นการรวบรวมเครือข่ายพุทธทุกนิกายที่อยู่ในเมืองนี้และในเขตใกล้เคียงเข้าไว้ด้วยกัน และมีจุดประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และร่วมกันเผยแพร่พุทธศาสนาให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ผมในฐานะตัวแทนของวัดพระศรีรัตนารามก็เข้าไปร่วมเป็นกรรมการในสมัชชาฯด้วย
• สมัชชาฯแห่งนี้มีบทบาทอย่างไรบ้างคะ
ก็จะมีการประชุมกันทุกเดือนเพื่อหารือถึงแนวทางในเผยแพร่พุทธศาสนา มีการจัดกิจกรรมต่างๆร่วมกัน เช่น งานวันแห่งสติ ซึ่งเราไปจัดที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน ในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ก็จะมีวิทยากรหลายๆท่านมาบรรยายเกี่ยวกับความหมายและประโยชน์ของสติ นอกจากนั้นก็มีงานวันวิสาขบูชานานาชาติ ซึ่งทั้งสองงานนี้นอกจากชาวเอเชียแล้วฝรั่งก็ให้ความสนใจกันเยอะ อย่างปีนี้แต่ละงานมีฝรั่งเข้ามาร่วมถึง 300 กว่าคน ทีเดียว คือช่วงหลังฝรั่งเขาจะตื่นตัวเรื่องการนั่งสมาธิมาก ไปที่ไหนก็จะมีการจัดนั่งสมาธิเยอะแยะไปหมด เพราะเขาเห็นว่าสมาธิเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ สามารถนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้ ผมเองก็ได้มีโอกาสไปบรรยายให้ฝรั่งฟังค่อนข้างบ่อย
• ที่ผ่านมาได้นำหลักธรรมไปใช้ในการรักษาคนไข้ด้วยหรือเปล่าคะ
ก็มีบ้างครับ คือคนไข้บางรายเป็นโรคเครียด มาปรึกษาว่าเขานอนไม่หลับ ก่อนให้ยาผมก็จะถามว่าทำไมถึงนอนไม่หลับ คิดอะไรอยู่ คือแทนที่จะถามว่าเป็นอะไร ก็ถามว่าคิดอะไรเพื่อที่ได้รู้ว่าเขาทุกข์ใจเรื่องอะไร แรกๆเขาก็จะปฏิเสธก่อนเลยว่าไม่มีอะไร แต่พอคุยไปสักพักก็จะค่อยๆเล่าออกมา หลานไม่ค่อยสบายต้องเข้ารับการผ่าตัด ลูกไม่ค่อยดี สามีก็ใช้ไม่ได้ (หัวเราะ) จากนั้นผมก็แนะนำให้ทำสมาธิอย่างง่ายๆ เช่น กำหนดรู้ว่าตอนนี้กำลังหายใจเข้า-หายใจออก ก็ช่วยให้เขาผ่อนคลายขึ้นและหลับได้ง่ายขึ้น หรือบางคนเขาเจ็บป่วยทางกาย อย่างเป็นมะเร็ง จิตใจก็พลอยห่อเหี่ยวไปด้วย เราก็แนะนำให้เขากำหนดจิต แยกกายกับจิตออกจากกัน มันก็ช่วยให้เขาบรรเทาความเจ็บปวดทางกายไปได้บ้าง ซึ่งหลังจากแนะนำไปบางรายเขาก็หันมาสนใจการนั่งสมาธิอย่างจริงจัง ผมก็จะแนะนำให้เขามานั่งกรรมฐานที่วัดพระศรีรัตนารามซึ่งมีคอร์สปฏิบัติธรรมทุกคืนวันเสาร์
แต่คนไข้บางคนเขาก็ทุกข์เพราะจิตปรุงแต่งนะ อย่างหายใจไม่ออกก็จะคิดว่าโอย...คงเป็นอาการของโรคหัวใจวาย แต่ที่จริงเป็นแค่โรคหืด หรือบางคนปวดหัวก็คิดว่าต้องเป็นมะเร็งที่สมองแน่นอนเลย (หัวเราะขำ) พอคิดในทางร้ายก็เลยเป็นโรคทางใจตามมา อาการก็เลยแย่ลง การนำธรรมะมาใช้ก็จะช่วยให้เขามองทุกอย่างเป็นกลางๆ รู้จักปล่อยวางได้มากขึ้น ความทุกข์ก็น้อยลง พอสุขภาพใจดีขึ้น สุขภาพกายก็ดีขึ้นตามไปด้วย
• ทราบว่าคุณหมอเขียนหนังสือธรรมะด้วย
ครับ ที่ผ่านมาก็มีอยู่ 4 เล่ม เป็นภาษาไทย 2 เล่มคือ หนึ่ง เรื่องจิต สติ กุญแจไขชีวิต ซึ่งเล่มนี้ชี้ให้เห็นว่าสติคือแก่นแกนของการปฏิบัติธรรม พูดถึงวิธีการปฏิบัติธรรมแบบง่ายๆ ตามหลักสติปัฏฐาน 4 จนไปถึงการปฏิบัติธรรมขั้นสูง และสอง เรื่องภาวนาภาษาธรรม เป็นอัตชีวประวัติในทางธรรมของผม ว่าผมมาสนใจธรรมได้อย่างไร การศึกษาและการปฏิบัติธรรมกับครูบาอาจารย์ พร้อมทั้งสอดแทรกคำสอนของครูบาอาจารย์
และภาษาอังกฤษอีก 2 เล่ม คือ เรื่อง Buddhism Answer Life หรือธรรมะไขปัญหาชีวิต เป็นการรวบรวมคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับปัญหาธรรมะที่ผมเคยไปบรรยายให้ฝรั่งฟังในการจัดอบรมและในงานเสวนาต่างๆ เช่น คอร์สปฏิบัติธรรม การอบรมนักเรียนพยาบาล เรื่องธรรมะกับผู้ป่วย หรือบางครั้งก็เป็นการเสวนาระหว่างเพื่อนต่างศาสนิก และอีกเล่มคือเรื่อง Essence of Life’s My Consciousness and Self Awareness หรือแก่นชีวิต สติ และความรู้สึกตัว ซึ่งเล่มนี้พระท่านขอให้ผมเขียนถึงวิธีปฏิบัติธรรมตามหลักสติปัฏฐาน 4 แบบง่ายๆเป็นภาษอังกฤษเพื่อให้ชาวต่างชาติที่สนใจการปฏิบัติธรรมได้มีโอกาสศึกษา รวมถึงการลดความเครียดโดยใช้หลักการมีสติ และแถมท้ายด้วยอัตชีวประวัติของหลวงพ่อเทียน (หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ พระเกจิด้านการวิปัสสนา แห่งวัดสนามใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี)
• แล้วยังทำซีดีธรรมะแจกจ่ายด้วยใช่ไหมคะ
ครับ ก็มีซีดีการบรรยายธรรมของอาจารย์เสถียร โพธินันทะ(ผู้ได้รับยกย่องว่าเป็นปราชญ์ ทางพุทธศาสนา และเป็นผู้บุกเบิกการศึกษาพระพุทธศาสนาแบบมหายาน) ซึ่งผมและเพื่อนๆรวบรวมทุนทรัพย์ช่วยกันจัดทำขึ้นมาแจกให้คนที่สนใจ ก็แจกไปหลายร้อยชุดแล้ว
• เรียกว่านอกจากทำหน้าที่เป็นหมอแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นธรรมทูตอีกด้วย
ครับ ก็ทำนองนั้น (ยิ้มตาเป็นประกาย) ผมก็ดีใจที่มีคนเห็นว่าเราพอจะทำประโยชน์ให้แก่พุทธศาสนาได้ และเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานี้ทางกรมการศาสนาก็เชิญไปรับรางวัลเสมาธรรมจักร ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับพระพุทธศาสนา ประเภทสาขาเผยแพร่ พระพุทธศาสนาในต่างประเทศ ก็เป็นรางวัลหนึ่งที่ผมภาคภูมิใจนะ คือผมแค่อยากจะเผยแพร่คำสอนของพุทธศาสนาให้คนทั่วไปได้รู้และเข้าใจ โดยไม่ได้เลือกว่าเป็นคนไทย หรือชาวต่างชาติ ไม่เลือกว่าจะเป็นชาวพุทธหรือเป็นคนที่นับถือศาสนาอื่น เพียงแค่เขาเปิดใจรับเขาก็จะได้สิ่งดีๆกลับไป
• ครอบครัวมีส่วนช่วยสนับสนุนด้วยไหมคะ
ภรรยาและลูกชาย-ลูกสาวของผมเขาก็สนับสนุนเต็มที่นะ คือเขาก็ชอบทางนี้อยู่แล้ว ก็ไปวัดกันทั้งบ้าน แต่ก่อนลูกผมเขาก็มาช่วยงานที่วัดด้วยแต่ตอนนี้พอมีครอบครัวแล้วเขาก็ไม่ค่อยมีเวลา
• อะไรที่ทำให้คุณหมอทุ่มเทแรงกายแรงใจให้แก่งานด้านพุทธศาสนามาตลอดชีวิตคะ
คือผมคิดว่าตัวเองเติบโตมากับธรรมะ ได้ดีเพราะธรรมะ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่การงาน ฐานะการเงิน หรือชีวิตครอบครัว ก็ล้วนประสบความสำเร็จได้เพราะธรรมะขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ดังนั้นเมื่อมีโอกาสผมก็อยากจะทดแทนคุณของพุทธศาสนา ซึ่งการตอบแทนที่ดีที่สุดก็คือการปฏิบัติบูชา ไม่ว่าจะโดยการช่วยงานวัด การบรรยายธรรม หรือเป็นวิทยากรอบรมกรรมฐาน คือผมเชื่อในเรื่องบุญ เชื่อว่าเมื่อเราทำความดี ผลแห่งความดีนั้นก็จะส่งเสริมให้ชีวิตเราดีขึ้นไปด้วย และเมื่อเราได้สัมผัสผลแล้วว่าธรรมะขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทำให้ชีวิตเรามีความสุขอย่างแท้จริง ผมก็อยากจะบอกต่อไปยังคนอื่นๆด้วย อยากให้เขาพบความสุขจากธรรมะเหมือนกับผม
.........
โอสถทางโลก คือบรรดายาปฏิชีวะทั้งหลาย รวมทั้งโอสถทางธรรม หรือธรรมโอสถ ที่ นพ.คงศักดิ์ ได้ใช้ในการเยียวยารักษาทั้งกายและใจให้กับผู้คนที่ประสบทุกข์ทั้งหลายนั้น ได้พิสูจน์แล้วว่าทำให้ความทุกข์ลดลง และความสุขเพิ่มขึ้น อย่างน้อยๆความสำเร็จในชีวิต ของคุณหมอและครอบครัวก็เป็นประจักษ์พยานยืนยันได้เป็นอย่างดี
ทุกวันนี้ ในวัยเกษียณ นพ.คงศักดิ์ ซึ่งมีคลินิกเป็นของตัวเอง และเป็นอาจารย์พิเศษสอนนักศึกษาแพทย์ ที่โรงพยาบาลบาร์น ในเมืองเซนต์หลุยส์ ยังคงมุ่งมั่นทดแทนคุณของ พุทธศาสนา ด้วยการปฏิบัติบูชา ร่วมแรงร่วมใจเข็นกงล้อแห่งธรรมให้เคลื่อนไปกว้างไกลอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
(จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 92 ก.ค. 51 โดย จินตปาฏิ)