ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กล่าวภายหลังการเข้ารับรางวัล ว่า แอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" ถูกพัฒนาขึ้น โดยผสมผสานเทคโนโลยีการสำรวจจากดาวเทียม ร่วมกับข้อมูลจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศภาคพื้นดิน แบบจำลองทางภูมิอากาศ และข้อมูลแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน มานำเสนอให้อยู่ในรูปแบบของตัวเลข และค่าสีในระดับต่าง ๆ ตามระดับความรุนแรงของเหตุการณ์ เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามและตรวจสอบปริมาณฝุ่น PM2.5 ได้แบบเรียลไทม์ชั่วโมงต่อชั่วโมง และคาดการณ์ล่วงหน้าได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั้งประเทศไทย อีกทั้ง แอปพลิเคชัน เช็คฝุ่น ยังถูกออกแบบมาเพื่อความเท่าเทียมในการเข้าถึงข้อมูลกับกลุ่มคนทุกระดับ โดยเฉพาะผู้พิการทางสายตา ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลคุณภาพอากาศได้อย่างสะดวก
ภายหลังจากแอปฯ เปิดให้บริการ พบว่า ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานในวงกว้าง สามารถช่วยส่งเสริมการตัดสินใจเชิงสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรค ระบบทางเดินหายใจ หรือโรคหัวใจ นอกจากนี้ ยังช่วยสนับสนุนการทำงานของหน่วยงานรัฐในการเฝ้าระวังและบริหารจัดการคุณภาพอากาศในระยะยาว ส่งผลให้แอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" กลายเป็นเทคโนโลยีดิจิทัลที่สะท้อนให้เห็นถึงการออกแบบที่เป็นมิตรกับคนทุกกลุ่ม รวมถึงสร้างความเท่าเทียมในการเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
สำหรับแอปพลิเคชัน "เช็คฝุ่น" เริ่มให้บริการตั้งแต่ปลายปี 2564 ดาวน์โหลดใช้งานได้ทั้งระบบ iOS ผ่าน App Store และระบบ Android ผ่าน Play Store โดยมีฟีเจอร์หลักๆ คือ ดูปริมาณฝุ่น PM2.5 ณ ตำแหน่งปัจจุบันของผู้ใช้งาน ดูข้อมูลฝุ่น PM2.5 ได้แบบชั่วโมงต่อชั่วโมง และแบบเฉลี่ย 24 ชม. ตามมาตรฐานการรายงานคุณภาพอากาศ หรือสามารถดูค่าเฉลี่ยรายชั่วโมงได้ เพื่อวางแผนทำกิจกรรมประจำวัน มีการสรุปเป็นรายอำเภอ รายจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของฝุ่นกับปัจจัยต่าง ๆ เพื่อคาดการณ์อนาคต และสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ประมาณ 3 ชั่วโมง ทั้งนี้ ในช่วงที่ประเทศไทยประสบปัญหาวิกฤติ PM2.5 จำนวนมาก มีผู้เข้าใช้บริการแอปพลิเคชั่นกว่า 2 แสนครั้งต่อวัน และแอปพลิเคชั่นนี้ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับ PM2.5 ของประชาชนไปแล้ว ด้วยการนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องและรวดเร็ว ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว
ทั้งนี้แม้ว่าแอปพลิเคชันดังกล่าวจะไม่สามารถกำจัดปัญหาฝุ่นละอองได้โดยตรง แต่การมีข้อมูลที่โปร่งใสและเข้าถึงได้ง่ายจะช่วยให้สังคมตื่นตัวและตระหนักถึงปัญหามากขึ้น ส่งผลให้เกิดการออกนโยบายควบคุมมลพิษ และกระตุ้นให้ภาคเอกชนและประชาชนมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยมลพิษ เช่น ลดการเผาในที่โล่ง การหันมาใช้พลังงานสะอาด และสนับสนุนระบบขนส่งสาธารณะ
แอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” เป็นอีกหนึ่งผลผลิตภายใต้นโยบาย GI for All ของ GISTDA ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อบรรเทาและแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนในระดับพื้นฐาน ด้วยความสามารถในการให้ข้อมูลที่รวดเร็ว แม่นยำ และเข้าถึงง่าย แอปฯ นี้จึงไม่เพียงเป็นเครื่องมือในการติดตามมลพิษทางอากาศเท่านั้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการวางรากฐานเพื่อสุขภาพที่ยั่งยืนของคนไทยทั้งประเทศ