xs
xsm
sm
md
lg

สงครามกลางเมืองอเมริกา...เตรียมรอเอาไว้ได้เลย!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


โดนัลด์ ทรัมป์ ขณะเข้าร่วมประชุมพรรค
ปิดท้ายสัปดาห์นี้...คงหนีไม่พ้นที่จะต้องไปว่ากันเรื่องการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี “โดนัลด์ ทรัมป์” (ที่เผอิญดันไปเรียกติดปากว่า “ทรัมป์บ้า” ซะจนเคย) ด้วยเหตุเพราะเป็นอะไรที่ดังระเบิดเถิดเทิง ดังสนั่นลั่นโลกเป็นอย่างยิ่ง แต่คงไม่น่าจะเสียเวลาไปตั้งคำถาม ไปตั้งข้อสมมติฐานแบบพวกทฤษฎีสมคบคิดอะไรทำนองนั้น ประเภทว่าเป็นการ “จัดฉาก” หรือไม่? เพียงใด? หรือใคร? ร่วมฆ่า ร่วมวางแผน จ้างวาน เพราะสิ่งที่น่าสนใจยิ่งกว่า ก็คือเรื่อง “การเมืองอเมริกา” นั่นแหละทั่น ว่านับจากนี้เป็นต้นไป หรือหลังจากกรณีนี้ มันจะออกหัว ออกก้อย ออกกลาง จะกลับมา “Great Again” หรือมีแต่จะไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี-หนีไม่พ้น กุสะลาธัมมา-อกุสะลาธัมมา อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้...

โดยถ้าจะว่าไปแล้ว...น่าจะเป็นโฆษกเครมลิน หรือโฆษกรัฐบาลรัสเซียอย่าง “นายDmitry Peskov” นั่นแหละ ที่ได้ตั้งข้อสังเกต ได้ให้ข้อสรุปเอาไว้ค่อนข้างที่จะ “เข้าท่า” ที่สุด คือแม้จะไม่เชื่อว่ารัฐบาลของคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ “ทรัมป์” จะมีส่วนรู้เห็น เกี่ยวข้อง กับการลอบสังหารคราวนี้ แต่ก็ได้โยงไปถึง “บรรยากาศ” ต่างๆ ที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาโดยคณะผู้ปกครองอเมริกา อันเป็นตัวนำไปสู่ฉากเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมาจนได้ หรืออย่างที่สำนักข่าว “Sputnik” ของรัสเซีย เขาได้หยิบมาพาดหัว ตั้งคำถาม เอาไว้นั่นแหละว่า “Did American Liberals and Lefties Invite Trump’s Wannabe Assassin” คือถึงไม่ได้ร่วมฆ่า ร่วมวางแผน ร่วมจ้างวาน แต่คงไม่ต่างอะไรไปจากผู้ที่ “ออกบัตรเชิญ” ให้กับผู้ที่ต้องการจะฆ่าอดีตประธานาธิบดีอเมริกันรายนี้ ให้ออกมาลั่นไก ยิงเฉี่ยวหู เฉี่ยวสมอง เบี่ยงไปแค่ไม่กี่เซนติเมตร ก็อาจถึงขั้นเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึง เอาง่ายๆ...

และตามที่เขาได้ไล่เรียงให้เห็นถึง “บรรยากาศ” ที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นมาในลักษณะที่ว่า ก็คงมิอาจปฏิเสธได้เลยแม้แต่น้อยว่ามันคงไม่ต่างไปจากการ “ออกบัตรเชิญ” เอาจริงๆ นั่นแหละ ไม่ว่าตั้งแต่ครั้งที่ “นางHillary Clinton” ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี ค.ศ. 2016 แห่งพรรคเดโมแครต เพิ่งพ่ายแพ้ต่อตัวแทนพรรครีพับลิกันอย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” ไปหมาดๆ บรรดาพวก “ไอดอล” ศิลปิน นักร้อง นักแสดง ที่ถือหาง ที่ยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามอดีตประธานาธิบดีผู้นี้ อย่าง “นางMadonna” ถึงกับออกมาระเบิดอารมณ์ว่าอยากจะ “ระเบิดทำเนียบขาว” เอาเลยถึงขั้นนั้น หรือพระเอกโจรสลัดสุดหล่อ อย่าง “Johnny Depp” ก็เอากะเค้าด้วย เมื่อครั้งไปขึ้นเวทีงานฉลอง “Britain’s Glastonbury Festival” ปี ค.ศ. 2018 ด้วยการพูดวกไปวนมา แบบประเภทตลกแห้ง ตลกโหด ถึงการลอบสังหารประธานาธิบดีอเมริกันโดยนักแสดง ว่าเคยเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ตอนไหน หรือนับจากนี้ต่อไป หรือนักแสดงตลกหญิงแห่งละครเวที อย่าง “Carole Cook” ที่ส่งเสียงเพรียกหาอดีตนักแสดงละครเวที “John Wilkes Booth” ที่เป็นผู้ลงมือสังหารอดีตประธานาธิบดี “Abraham Lincoln” ว่าไปอยู่ซะที่ไหน? ขณะที่เราต้องการเขา ฯลฯ...

อีกทั้งโดยตลอดนับจากนั้นเป็นต้นมา...บรรดานักการเมืองฝ่ายตรงข้ามกับ “ทรัมป์” บรรดาผู้บริจาคให้กับพรรคเดโมแครตหรือกับพวกเสรีนิยมหัวก้าวหน้า บรรดาพวกศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง ไปจนถึงบรรดาสื่อมวลชนประเภท “ลิเบอร่าน” ทั้งหลาย ฯลฯ ต่างก็หันมาตั้งข้อกล่าวหา ด่าประณาม โจมตีอดีตประธานาธิบดีอเมริกันรายนี้ อย่างชนิดไม่เว้นแต่ละวัน แม้จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งให้กับคุณปู่ “โจ ซึมเซา” แห่งพรรคเดโมแครตไปแล้วก็ตาม ไม่ว่าด้วยข้อหาสมคบคิดกับรัสเซีย เป็นผู้ฆ่าประชาธิปไตย เป็นผู้ที่มีลักษณะอาการไม่ต่างอะไรไปจากเผด็จการนาซีอย่าง “ฮิตเลอร์” หรือ “เขาคือ...ภัยคุกคามต่อเสรีภาพ ประชาธิปไตย และต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่อเมริกาเชิดชู บูชา” ดังที่ประธานาธิบดีคนปัจจุบันอย่างคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ได้สรุปไว้เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง...

ด้วยเหตุนี้... “บรรยากาศ” ที่นำไปสู่การคิดจะลอบฆ่า ลอบสังหาร ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันปลายปีนี้อย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” มันจึงถูกสรรค์สร้างขึ้นมาอย่างเป็นระบบและกิจการ ไม่ว่าโดยคำพูด-คำจาของนักแสดงตลกหญิงและนักร้องเพลงแจ๊ส อย่าง “นางLea De Laria” ที่เพิ่งออกมาโพสต์ ออกมาพูดเมื่อช่วงวันที่ 1 ก.ค.ปีนี้นี่เอง ยุให้รัฐบาลอเมริกันหาทางเล่นงานผู้ที่ไม่ต่างอะไรไปจาก “ฮิตเลอร์” อย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” แบบชนิด “Take him the f***out! Blow him up” เอาเลยถึงขั้นนั้น หรือลูกชายของพ่อมดการเงิน “George Soros” ที่ชอบบริจาคเงินให้กับพวกลิเบอร่านทั้งหลาย อย่าง “นายAlexander Soros” ที่ออกมาโพสต์ภาพรูกระสุนปืนเป็นรูๆ ในกระจก และสัญลักษณ์ที่สามารถแปลความถึงความเป็นประธานาธิบดีอเมริกาคนที่ 47 อันหมายถึงอดีตประธานาธิบดี “ทรัมป์” นั่นเอง หรือไม่ต่างอะไรไปจากการยุให้ลอบฆ่า ลอบสังหาร บุคคลผู้นี้ให้สิ้นเรื่อง สิ้นราว ไปซะที...

แม้แต่นักแสดงผิวสี อย่าง “Whoopi Goldberg” ก็เอากะเค้าด้วย โดยระหว่างที่ไปออกรายการทอล์ค โชว์ “The View” ของ “ABC” เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี่เอง เธอถึงกับบอกว่าอยากจะให้อดีตประธานาธิบดีอเมริกันรายนี้ “หายสาบสูญ” (disappear) เอาเลยถึงขั้นนั้น หรือผู้แทนแห่งพรรคเดโมแครต อย่าง “Stacy Plaskett” ที่ถึงกับ “หลุดปาก” กับสำนักข่าว “MSNBC” ว่าคนอย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” ควรจะถูกเด็ดหัว (be shot) ก่อนที่จะมาขออนุญาตแก้คำพูด แก้ตัว ในภายหลัง ไม่ต่างไปจากนักแสดงตลกหญิงอีกรายที่ถือหางพรรคเดโมแครต อย่าง “Kathy Griffin” ที่โพสต์ภาพตัวเองกำลังหิ้วหัวหุ่นโชกเลือดที่มีหน้าตาคล้ายๆ กับ “โดนัลด์ ทรัมป์” ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2017 แล้วยังเอามาตกแต่งให้ดูน่าสยดสยองยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อช่วงปี ค.ศ. 2013 หรือเมื่อไม่กี่ปีนี่เอง ฯลฯ ฯลฯ อะไรต่อมิอะไรเหล่านี้นี่เอง...ที่มันค่อนข้างจะสอดคล้องต้องกัน กับคำพูด คำจา ของอดีตประธานสภาฯ แห่งพรรคเดโมแครต อย่าง “นางNancy Pelosi” คราวล่าสุด ที่ออกมาเรียกร้องให้หาทาง “หยุดยั้งโดนัลด์ ทรัมป์” ให้จงได้ หรือคำพูด คำจา ของประธานาธิบดีพรรคเดโมแครตคนปัจจุบัน คุณปู่ “โจ ซึมเซา” ที่เร่งเร้าให้ “เล็งเป้า” ไปยังคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฝ่ายตรงข้าม หรือทำให้ความพยายามที่จะลอบฆ่า ลอบสังหาร ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งพรรครีพับลิกันรายนี้ มันจึงถูก “ออกบัตรเชิญ” หรือถูก “สร้างสรรค์” ขึ้นมาโดย “บรรยากาศ” เช่นนี้นี่เอง!!!

และในเมื่อผู้ลงมือลอบสังหาร อย่าง “นายThomas Matthew Crooks” ได้ตัดสินใจเหนี่ยวไกปืน ไปตามบรรยากาศ ตามแรงยุ แรงเชียร์ ของพวก “ไอดอล” ศิลปิน นักร้อง นักแสดง หรือพวกที่สนับสนุนฝ่ายเสรีนิยมลิเบอร่าน แห่งพรรคเดโมแครตอย่างไม่คิดจะลังเลใดๆ ต่อไปอีกแล้ว สิ่งเหล่านี้ก็ย่อมก่อให้เกิด “แรงเหวี่ยงในด้านตรงกันข้าม” ไปตามกฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ หรือกฎฟิสิกส์ อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงและปฏิเสธได้ ดังที่บรรดาผู้ที่ให้การสนับสนุน “โดนัลด์ ทรัมป์” แห่ออกมาโพสต์ข้อความไว้ในเว็บไซต์ “The Donald” เมื่อช่วงวันเสาร์ (13 ก.ค.) ที่ผ่านมานั่นแหละ ที่มีตั้งแต่ข้อความที่ว่า “ผมชักสงสัยว่าพวกมันต้องการสงครามจริงๆ” ไปจนถึง “จัดให้พวกมันเลย” หรือ “ผมพร้อมแล้ว...นี่คือฟางเส้นสุดท้ายสำหรับผม” หรือ “สงครามกลางเมือง!!!...ผมพร้อมแล้วที่จะเปิดฉากกับพวกสถุลเดโมแครต” ไปจนกระทั่ง “พวกมันไม่ต้องการมีชีวิตอยู่งั้นก็อย่ามีเลย เราจำเป็นต้องจบสงครามนี้ และสิ่งที่ควรทำหลังสงครามกลางเมืองก็คือ ต้องทำลายและกำจัดเดโมแครตทุกคน หรือใครก็ตามที่อยากจะเป็นเดโมแครต” ฯลฯ ฯลฯ....

หรือพูดง่ายๆ ว่า...แม้ว่าผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งสองฝ่าย อย่าง “โจ ซึมเซา” และ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะออกมาเรียกร้องความสามัคคี ความเป็นอันหนึ่ง-อันเดียวกันของอเมริกา อันเป็นไป “ตามสูตร” การหาเสียง การโฆษณา ที่จำต้องเป็นไปในแนวนี้อย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ แต่โดย “ข้อเท็จจริง” ของ “สังคมอเมริกัน” ที่เคยมีการสำรวจและจัดทำเป็นรายงานไว้อย่างเป็นหลักเป็นฐาน ว่าด้วยเรื่อง “ทัศนะประชาธิปไตยและสังคมอเมริกันต่อการสนับสนุนความรุนแรงทางการเมือง” ตั้งแต่เมื่อปี ค.ศ. 2022 โน่นเลย ได้สรุปไว้ชัดเจนตั้งแต่นั้น ว่าบรรดาอเมริกันชนมากกว่าครึ่ง ต่างเห็นว่า “ทางออก-ทางไป” ของสังคมอเมริกันหนีไม่พ้นต้องอาศัย “ความรุนแรง”อย่างมิอาจปฏิเสธได้อีกต่อไป หรือต่างเต็มไปด้วย “ความเชื่อ” ที่ว่า “สงครามกลางเมืองครั้งใหม่” หนีไม่พ้นต้องอุบัติขึ้นมาในอีก 2-3 ปีข้างหน้าอยู่แล้วแน่ๆ!!!

ส่วนมันจะดุเดือด เลือดพล่าน จะตายโหง-ตายห่า กันไปถึงขั้นไหน??? อันนี้...คงต้องไม่ลืมว่า ตามข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือตามรายงานขององค์กร “SAS” (Small Arms Survey) เมื่อปี ค.ศ. 2022 ได้สรุปเอาไว้ชัดเจนว่าประเทศอเมริกานั้น คือประเทศเดียวในโลกที่มีจำนวนอาวุธปืนมากกว่าจำนวนประชากร หรือบรรดาอเมริกันชนทั้งหลายจำนวน 100 คนต่างมีอาวุธปืนอยู่ในมือเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 120.5 กระบอก ดังนั้น...ไม่ว่า “ทรัมป์บ้า” (ประทานโทษ...ท่านอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์) หรือประธานาธิบดีคนปัจจุบัน “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ เอ๋อ” หรือ “โจ ไบเดน” ก็แล้วแต่จะเรียก จะเป็นฝ่ายชนะ-ฝ่ายแพ้ในการเลือกตั้งปลายปีนี้ แต่โอกาสที่บรรดาอเมริกันชนทั้งหลายจะหันกลับมาปรองดอง สมานฉันท์ สามัคคี น่าจะเป็นไปได้...ยากส์ส์ส์!!! เอามากๆ ด้วยเหตุเพราะ “ประชาธิปไตยอเมริกา” มันได้ถูก “สร้างสรรค์” ให้มี “บรรยากาศ” ออกไปในแนวไม่มึง-ก็กู คงต้องตายไปข้าง อะไรประมาณนั้น เพราะแม้ว่าการรอดตายจากการ “ลอบสังหาร” อาจทำให้ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกันอย่าง “โดนัลด์ ทรัมป์” น่าจะ “ชนะ” แน่ๆ ดังที่อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย “นายDmitry Medvedev” ได้ “ฟันธง-ฟันเฟิร์ม” เอาไว้แล้วล่วงหน้า แต่นั่นก็ยังต้องมีคำสร้อยต่อท้ายไว้ด้วยว่า... ถ้าเขาไม่ถูกลอบสังหารลงไปเสียก่อน หรือไม่ถูกลอบสังหารในเวลาต่อมา!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น