xs
xsm
sm
md
lg

ยุทธศาสตร์แห่งความพ่ายแพ้ของอเมริกา!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทับทิม พญาไท


โจ ไบเดน
เมื่อช่วงวันพฤหัสฯ ที่แล้ว (6 มิ.ย.) มีบทความชิ้นหนึ่งของ “Global Times” ที่น่าสนใจและน่าคิดสะกิดใจเอามากๆ นั่นคือเรื่อง “At D-Day, the call should be for peace, not three-theater warfare” ที่ได้หยิบเอาเรื่องการเดินทางไปร่วมพิธีครบรอบ 80 ปีวัน “D-Day” หรือวันทหารสัมพันธมิตรยกพลขึ้นบกที่หาด “Normandy” เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ของผู้นำอเมริกา ประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” ที่เผอิญมาสอดคล้องต้องกันกับการนำเสนอความคิด ความเห็น ของนักยุทธศาสตร์อเมริกัน ในนิตยสาร “Foreign Affairs” เมื่อช่วงวันพุธที่ 5 มิ.ย. ว่าด้วยเรื่อง “A three-theater Defense Strategy” หรือ “ยุทธศาสตร์แนวรบ 3 ด้าน” ของสหรัฐฯ ที่เสนอให้ประเทศอเมริกาซึ่งพัวพันอยู่กับ “แนวรบยุโรปตะวันออก” และ “แนวรบตะวันออกกลาง” อย่าได้ลืมแนวรบที่ 3 หรือ “แนวรบทะเลจีนใต้” นั่นเอง หรือเสนอให้เตรียมตัวให้พร้อมในการเร่งขวนขวายหาพันธมิตรในแนวรบต่างๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อะไรทำนองนั้น...

ขณะที่ “Global Times” เขากลับเห็นว่า...แม้ฟังดูคล้ายๆ การขู่ขวัญ เขียนเสือให้วัวกลัว แต่ถ้าหากอเมริกาคิดจะทำเช่นนั้นจริงๆ ย่อมมีแต่ “แพ้...กับ...แพ้” ลูกเดียวเท่านั้นเอง หรือมีแต่จะหมดสภาพความเป็น “มหาอำนาจสูงสุดเพียงรายเดียว” อย่างที่ประธานาธิบดีอเมริกันเพิ่งคุยโม้ โอ้อวด ไปเมื่อไม่กี่วันมานี้ เพราะแค่แนวรบ 2 แนว คือยุโรปตะวันออกกับตะวันออกกลาง โดยลักษณะอาการของคุณพ่ออเมริกา ก็ออกไปทาง “รากเขียว-รากเหลือง” แทบหมดรูป หมดร่าง หมดสภาพ หมดสง่าราศี ยิ่งเข้าไปทุกที ถ้าหากคิดจะมาเปิดแนวรบอีกด้านในทะเลจีนใต้ แทนที่จะหวนกลับไปคิดถึง “สันติภาพ” อันเป็นสิ่งที่น่าคิด น่ารำลึกเสียยิ่งกว่า เนื่องในช่วงวาระสำคัญอย่างวัน “D-Day” โอกาสที่จะไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มี ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ!!!

ด้วยเหตุนี้...เปิดฉากสัปดาห์นี้เลยคงต้องขออนุญาตลงลึกในรายละเอียดแบบพอคร่าวๆ ของฉากสถานการณ์ในแนวรบต่างๆ ให้พอเห็นภาพ หรือพอเกิดความเข้าใจต่อยุทธศาสตร์โดยรวม ที่แนวรบแต่ละแนวมันชักจะเกี่ยวข้อง พัวพัน ระหว่างกันและกันแบบชนิดแทบแยกไม่ออกยิ่งเข้าไปทุกที เช่นกรณีที่อเมริกาและพันธมิตรตะวันตก ตลอดไปจนเลขาฯ “NATO” คิดจะ “เปิดไฟเขียว” ให้ตัวตลก-ตัวแทนอย่างยูเครน สามารถนำเอาขีปนาวุธพิสัยไกลที่ตะวันตกมอบให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย โดยหวังจะให้เป็นตัวเปลี่ยนฉากสถานการณ์สงคราม หรือหวังจะบั่นทอน ทำลายศักยภาพของรัสเซียให้หนักๆ เข้าไว้ หรือไม่? อย่างไร? ก็ตามที แต่ทันที...ที่ผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี “ปูติน” ท่านเปรยๆ ขึ้นมาว่า ถ้าหากตะวันตกคิดเช่นนั้น รัสเซียก็ย่อมมีสิทธิที่จะมอบอาวุธร้ายๆ ให้กับผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับอเมริกาและตะวันตกได้เช่นกัน เพียงเท่านี้ก็เล่นเอาคุณปู่ “โจ ซึมเซา” ที่แม้ “สติ-สัมปชัญญะ” แทบไม่อยู่ในร่อง-ในรอย แต่ก็ต้องรีบออกมาป่าวประกาศแบบชนิด “ปากกล้า-ขาสั่น” เมื่อช่วงวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (6 มิ.ย.) ว่า...อาวุธของอเมริกาจะต้องไม่ถูกนำไปใช้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย!!! หรือ... “พวกเขา(ยูเครน)ได้รับอนุญาตให้ใช้ในบริเวณใกล้เคียงชายแดนเท่านั้น เราไม่ได้อนุญาตให้ใช้โจมตีมอสโก หรือวังเครมลิน” เช่นเดียวกับ “พรมเช็ดเท้า” ของอเมริกา อย่าง “Jens Stoltenberg” เลขาธิการ “NATO” ที่รีบออกมาพูดเสียงอ่อน-เสียงหวานว่า “NATO” ไม่มีแผนใดๆ เลย ที่คิดจะส่งกองกำลังเข้าไปในยูเครน...

คือแค่ถ้าหากรัสเซียคิดจะนำเอาขีปนาวุธพิสัยทำการในระดับเดียวกัน ส่งไปให้พวกนักรบจนๆ อย่างพวก “Houthi” หรือพวก “Islamic Resistance” ในอิรัก ที่เพิ่งประกาศความร่วมมือในปฏิบัติการต่อต้านอิสราเอลในสงครามฮามาส ด้วยการร่วมโจมตีเรือต่างๆ ในทะเลแดงและทะเลอาหรับ เมื่อช่วงวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (5มิ.ย.) อันนี้...รับรองได้ว่าบรรดาทวยทหารอเมริกันในเรือบรรทุกเครื่องบิน “USS Dwight D. Eisenhower” ที่แล่นไป-แล่นมา คอยลาดตระเวนเพื่อช่วยปกป้องพันธมิตรอันศักดิ์สิทธิ์อย่างอิสราเอลในน่านน้ำทะเลแดง น่าจะ “หลับไม่ลง” หรือไม่งั้นคงต้อง “ฝันร้าย” วันละ 3 เวลาหลังอาหารอย่างมิพึงสงสัย เพราะแค่ “จรวด” ที่ประดิษฐ์คิดค้น ขึ้นมาเองของพวกนักรบ “Houthi” ซึ่งถูกอเมริกา-อังกฤษรุมถล่มใส่ดินแดนประเทศเยเมนครั้งแล้ว-ครั้งเล่า ก็ยังทำให้บรรดาทหารอเมริกัน “หนาวว์ว์ว์” ระดับแทบเป็นไข้จับสั่นไปแล้วในทุกวันนี้ โดยเฉพาะเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง โฆษกของ “Houthi” อย่าง “นายYahya Saree” ถึงกับกล้าออกมา “สมรักษ์ คำสิงห์” เอาไว้ถึงขั้นว่า ได้ใช้จรวดและโดรนโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบิน “Dwight Eisenhower” ในบริเวณด้านเหนือของทะเลแดงได้อย่างตรงเป้า-แม่นยำ...

แม้หน่วยบัญชาการกลางของอเมริกา (The US Central Command-CENTCOM)จะออกมาปฏิเสธว่ายังเบิร์ดๆ-สบายๆ ไม่ได้โดนอะไรหล่นใส่หัวกบาลเอาเลยแม้แต่น้อย ยังสามารถสกัดกั้นจรวดและโดรนของพวก “Houthi” ได้หมด แต่การที่ต้องถอยกรูดระยะห่างจากฝั่งประเทศเยเมนประมาณ 400 กิโลเมตร ไปตั้งหลักอยู่แถวๆ ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองเจดดาห์ในซาอุดีอาระเบีย ที่อยู่ห่างจากเยเมนประมาณ 800 กิโลเมตร ไม่กล้าเข้ามาใกล้ “รัศมีตีน” ของนักรบจนๆ อย่างพวก “Houthi” ก็พอจะสะท้อนให้เห็นถึงความขนหัวลุก-ขนคอตั้งของกองทัพเรืออเมริกันได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าลองต้องเจอเข้ากับ “จรวดรัสเซีย” ไม่ว่าประเภท “Iskander”, “Avangard” หรือ “Sarmat” ฯลฯ ที่มีความเร็วระดับ Mach 5, Mach 8 ไปจนถึง Mach 12 โน่นเลย แถมยังส่ายไป-ส่ายมาได้อีกต่างหาก โอกาสที่เรือบรรทุกเครื่องบินมูลค่าไม่รู้จะกี่พันกี่หมื่นล้านดอลลาร์ จะไปนอนสงบนิ่งอยู่ใต้ทะเลแดง ทะเลอาหรับ ย่อมมีความเป็นไปได้สูงเอามากๆ...

ยิ่งเมื่อพวกนักรบ “Houthi” ทุกวันนี้...เขาออกจะกระเหี้ยนกระหือรือ กระตือรือร้นเป็นอย่างยิ่ง ในการคิดจะจมเรือบรรทุกเครื่องบินอเมริกา ชนิดที่ผู้นำอย่าง “นายAbdl-Malik al-Houthi” ถึงกับออกมาเน้นย้ำเมื่อช่วงวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (5มิ.ย.) นั่นแหละว่า...“เรือบรรทุกเครื่องบิน Eisenhower ของอเมริกาคือเป้าหมายสำคัญของเรา...ตราบใดเท่าที่เรามีโอกาส” ความหนาวว์ว์ว์ยะเยือกของทหารอเมริกันในทะเลแดง และอาการปากกล้า-ขาสั่นของผู้นำอเมริกา กรณีเปิดไฟเขียวให้ใช้อาวุธอเมริกันโจมตีรัสเซีย อาจสะท้อนให้เห็นถึงความเกี่ยวข้อง พัวพัน ของแนวรบในยุโรปตะวันออกและแนวรบตะวันออกกลางได้เป็นอย่างดี...

ยิ่งเมื่อผู้นำอิสราเอลอย่าง “นายBenjamin Netanyahu” พยายามนำเอา “สงคราม” มาใช้เป็น “เครื่องมือ” ในการดำรงรักษาอำนาจตัวเอง หรือนำมา “เล่นการเมือง” อย่างที่ผู้นำอเมริกาจำต้องออกมายอมรับอย่างน่าชื่นอกตรม ไม่ว่าการบุกถล่มเมือง “Rafah” เข่นฆ่า สังหารล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์อย่างไม่คิดจะรู้เบื่อ แถมทำท่าเตรียมจะเปิดศึกกับพวก “Hezbollah” บริเวณภาคเหนือของอิสราเอลอีกด้วยต่างหาก ไปจนถึงความพยายามสร้างความ “เปรี้ยวมือ-เปรี้ยวตีน” ให้กับอิหร่าน ด้วยการส่งเครื่องบินโจมตีสังหารเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของกองกำลัง “IRGC” ในเมือง “Aleppo” ของซีเรียตายไป 17 บาดเจ็บอีก 15 ราย เมื่อช่วงวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา...

บรรดาสิ่งทั้งหลาย ทั้งปวงเหล่านี้...เลยทำให้แม้แต่พันธมิตรที่เคยเคียงบ่า-เคียงไหล่กับอเมริกาในยุโรปต่างอดรนทนไม่ไหวต้องหันมาประกาศรับรอง “รัฐปาเลสไตน์” กันอย่างเป็นที่คึกครื้น ไม่ว่าสเปน ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก ฯลฯ แถมยังคิดจะหาทางเล่นงานอิสราเอลแบบเดียวกับประเทศแอฟริกาใต้ หรือหันไปสนับสนุนให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ “ICJ” ลากคอผู้นำอิสราเอลเข้าคุกในข้อหา “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” อีกด้วยต่างหาก...

ด้วยเหตุนี้...สำหรับ “แนวรบในทะเลจีนใต้” ก็อย่างที่ “Global Times” เขาว่าเอาไว้นั่นแหละว่า นอกจากญี่ปุ่น-ออสเตรเลียแล้ว ก็แทบไม่มีชาติใดในเอเชียตะวันออก ที่คิดจะ “เห็นควรด้วย” กับคุณพ่ออเมริกา กับแผนยุทธศาสตร์ “A Three-Theater” เอาเลยแม้แต่น้อย หรือต่างหันไปวางตัว “เป็นกลาง” ซะเป็นหลักใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อเห็น “ลางแพ้” ของอเมริกาและพันธมิตรจากแนวรบทั้งสองแนว อย่างเห็นได้โดยชัดเจนยิ่งขึ้นเรื่อยๆ โอกาสที่จะยุอินเดียให้ร่วมหัว-จมท้ายกับการเป็นกลุ่มพันธมิตร “QUAD” หรือโอกาสที่จะทำให้ “AUKUS” กลายเป็น “NATO แห่งเอเชีย” ยิ่งแทบ “เป็ง-ปาย-ม่าย-ล่าย” ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...

อันนี้นี่เอง...ที่ทำให้ความเป็น “มหาอำนาจสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว” หรือความเป็น “ประเทศที่ประชาชาติใดๆ จะขาดเสียมิได้” ดังที่คุณปู่ “โจ ซึมเซา” หรือ “โจ วิตถาร” ก็แล้วแต่ ออกมาป่าวประกาศด้วยความภูมิอก-ภูมิใจที่โรงเรียนนายร้อยเวสต์ปอยต์เมื่อไม่กี่วันมานี้ มันจึงแทบไม่ต่างไปจากการ “ละเมอ” หรือการแสดงออกถึงความ “ป้ำๆ-เป๋อๆ” ด้วยเหตุเพราะไม่ว่าจะดูจากแนวรบด้านไหนต่อด้านไหน ก็น่าจะพอมองเห็นถึง “ความเสื่อมถอย” ของอเมริการะดับไปไม่กลับ-หลับไม่ตื่น-ฟื้นไม่มีด้วยกันทั้งสิ้น เหลือแต่รอจังหวะ-เวลาว่าเมื่อไหร่ถึงจะเอา “น้ำมะพร้าว” มาล้างหน้า แล้วสวดกุสลา ธัมมา-อกุสลา ธัมมา ก่อนแบกขึ้นเมรุ เพื่อเผาหลอกหรือเผาจริง กันไปตามสภาพ...นั่นแล!!!


กำลังโหลดความคิดเห็น