เปิดฉากสัปดาห์นี้...ด้วยความรู้สึกค่อนข้างขนลุก-ขนพอง ทั้งหวาดเสียว ทั้งสยดสยองมิใช่น้อย เนื่องจากฉากสถานการณ์ความเป็นไปใน “แนวรบ” สำคัญๆ ในแต่ละด้าน ไม่ว่ายุโรปตะวันออก-ตะวันออกกลาง-ไปจนถึงทะเลจีนใต้ มันชักจะเต็มไปด้วย “เงื่อนไข” และ “เหตุปัจจัย” อันจะนำไปสู่การ “จุดระเบิด” ที่สามารถส่งผลให้ “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” ลุกพึ่บบ์บ์บ์ๆ พั่บบ์บ์บ์ๆ ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ย่อมได้!!!
โดยถ้าจะไล่มาจาก “แนวรบยุโรปตะวันออก” นับตั้งแต่ช่วงวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา...ถือเป็นช่วงเวลาครบเทอม ครบ 5 ปีแห่งการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของ “นายVolodymyr Zelensky” ตัวตลก-ตัวแทนแห่งยูเครน ที่ไม่คิดเปิดโอกาสให้มี “การเลือกตั้ง” กันใหม่ แต่หันไปใช้อำนาจตาม “กฎอัยการศึก” ในการดำรงรักษาตำแหน่งกันแทนที่ ดังนั้น...เพื่อให้อำนาจ บทบาทของตัวเอง มีโอกาสสืบเนื่องยาวนานได้ต่อไป ก็มีแต่จะต้องอาศัย “สงคราม” กับหมีขาวรัสเซีย นั่นแหละเป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ประคับประคองสถานะของตัวเองไปโดยตลอด อันทำให้ไม่เพียงแต่การผ่อนคลาย การคลี่คลายความขัดแย้งในแนวรบด้านนี้แทบไม่มีโอกาสทุเลาเบาบางลงไปได้เลย แต่กลับจะยิ่งก่อให้เกิดความกระเหี้ยนกระหือรือ ในการสร้างความเร่าร้อน รุนแรง ให้หนักหน่วง หนักหนา-สาหัสยิ่งขึ้นไปใหญ่ ยิ่งถ้าหากสามารถชักลาก “NATO” ทั้ง “NATO” หรือมหาอำนาจสูงสุดอย่างคุณพ่ออเมริกาให้เข้ามาร่วมหัว-จมท้ายในการเผชิญหน้ากับรัสเซียโดยตรง ก็ยิ่งจะส่งผลให้สถานะของตัวเองยิ่งโดดเด่นเป็นสง่า ยิ่งใหญ่และเกรียงไกร ยิ่งขึ้นไปเท่านั้น...
ด้วยเหตุนี้...แม้ว่าตัวเองจะ “แพ้แล้ว” กองทัพยูเครนแทบหมดสภาพที่จะสู้รบปรบมือใดๆ ได้อีก แต่ความพยายามในการสร้างบรรยากาศแห่ง “สงคราม” ให้เร่าร้อน รุนแรง หรือให้เกิดการเผชิญหน้าโดยตรงระหว่างโลกตะวันตกกับรัสเซียให้จงได้ จึงทำให้ฉากสถานการณ์ในแนวรบด้านนี้ ยิ่งน่าหวาดเสียว น่าสยดสยอง ยิ่งเข้าไปทุกที โดยเฉพาะเมื่อมีความพยายามที่จะใช้อาวุธร้ายๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตก โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียแบบคราวแล้ว-คราวเล่า อย่างเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานี่เอง (23 พ.ค.) การยิงจรวด “ATACMS” ที่ได้รับจากสหรัฐฯ เข้าไปยังเมือง “Alushta” ในดินแดนไครเมียแม้ฝ่ายรัสเซียจะยิงสกัดได้ 3 ลูก แต่ส่วนที่เล็ดรอดก็ส่งผลให้พลเรือนรัสเซียเด๊ดสะมอเร่ย์ อิน เดอะ เท่งทึงไป 2 ราย นั่นยังไม่นับรวมไปถึงการโจมตีสถานที่อยู่อาศัย สาธารณูปโภค ฯลฯ ในอีกหลายต่อหลายพื้นที่...
แม้ว่าผู้สนับสนุนอาวุธร้ายๆ อย่างคุณพ่ออเมริกา...จะแสดงท่าทีไม่ค่อยเห็นด้วยกับการนำเอาอาวุธเหล่านี้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ด้วยเหตุเพราะไม่อยากเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย แต่สิ่งเหล่านี้...ในสายตาของรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย อย่าง “นายSergey Lavrov” แล้ว เห็นว่าเป็นแค่ “Tricks” หรือเป็นกลอุบายของคุณพ่ออเมริกาซะล่ะมากกว่า เนื่องจากไม่เพียงแต่สภาคองเกรส กำลังเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกัน อนุมัติให้ยูเครนใช้อาวุธร้ายๆ เหล่านี้โจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซียได้ตามที่ต้องการ รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศอเมริกัน “นายAntony Blinken” ก็ยังเพียรพยายามผลักดันให้ผู้นำของตัวเองเปิดไฟเขียวให้กับยูเครนในการกระทำการดังกล่าว นอกเหนือไปจากนั้นพันธมิตรเคียงบ่า-เคียงไหล่ระดับ “สุนัขพูเดิล” ของอเมริกา อย่างรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ “นายDavid Cameron” ยังออกมาเน้นย้ำแบบตรงไป-ตรงมา ว่ายูเครนมีสิทธิ์ที่จะใช้อาวุธเหล่านี้โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซียด้วยเหตุนี้...รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียท่านเลยต้องฟันธง-ฟันเฟิร์มกับบรรดาผู้สื่อข่าวเมื่อช่วงวันศุกร์ที่ผ่านมา (24 พ.ค.) เอาไว้ประมาณว่า... “ตะวันตกพร้อมแล้ว...ที่จะก่อสงครามกับรัสเซีย!!! และอาวุธที่เขาส่งไปสนับสนุนยูเครน ก็กำลังถูกนำมาใช้โจมตีดินแดนต่างๆ ที่ลึกเข้าไปในประเทศเรา”
ส่วนแนวรบในตะวันออกกลาง...ก็คงไม่ได้ผิดแผกแตกต่างไปจากกันสักเท่าไหร่ ด้วยเหตุเพราะโดยสถานะของผู้นำอิสราเอล อย่าง “นายBenjamin Netanyahu” นั้น เผลอๆ อาจหนักยิ่งกว่า “นายVolodymyr Zelensky” เสียด้วยซ้ำ โอกาสที่คณะรัฐมนตรีสงครามจะพังพินาศและตัวเองหมดบทบาทที่จะเป็นผู้นำประเทศอีกต่อไป ไม่ว่าจะหวนกลับไปเลือกตั้งกันใหม่ หรือจะยื้อไป-ยื้อมากันในแบบไหน? ลักษณะไหน? ก็ตามที แถมยังอาจ “ติดคุก” ภายในประเทศตัวเอง ไม่ก็เพราะโดนออกหมายจับในประเทศกว่า 120 ประเทศ ตามกฎหมายของ “ICC” หนทางที่จะอยู่รอดปลอดภัย ไปอีกสักพักใหญ่ๆ หรือต่อเนื่อง ยาวนาน ไปถึงขั้นไหนต่อขั้นไหน ก็มีแต่ต้องหาทางทำให้ “สงคราม” ลุกลามบานปลาย ขยายวง จากพื้นที่เล็กๆ อย่างฉนวนกาซา เลยไปถึงซีเรีย เลบานอน หรือไม่ก็ถึงพี่เบิ้มแห่งตะวันออกกลางอย่างอิหร่านโดยตรง เพื่อที่จะให้มหามิตรอย่างคุณพ่ออเมริกาไม่อาจเอามือซุกหีบได้อีกต่อไป ต้องโดดเข้ามาร่วมวง ร่วมฉิบหาย-วายวอด อย่างมิอาจปฏิเสธและหลีกเลี่ยงได้ อันจะส่งผลให้ “ตัวกูเอง” สามารถอยู่ยาว ยืนยง คงทน ในฐานะ “Mr.Security” ไม่ว่าบรรดาชาวอิสราเอลจะเบื่อขี้หน้า เหม็นขี้หน้า เพียงใดก็ตามที...
สำหรับแนวรบในทะเลจีนใต้นั้น...ช่วงวัน-สองวันที่ผ่านมา (20 พ.ค.) ระหว่างพิธีสาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของไต้หวัน “นายLai Ching-te” ท่านจะน็อตหลุด น็อตหลวม ด้วยเหตุผล-กลใดก็มิอาจทราบได้ชัดเจน แต่โดยสปีชหรือสุนทรพจน์ในพิธีการดังกล่าว ได้ก่อให้เกิดความร้อนเร่า ร้อนแรง ปานประดุจการกระตุกหนวดมังกรออกมาเป็นขยุ้มๆ เอาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าการเน้นย้ำว่าจะต้องหาทางทำให้ “ไต้หวันเป็นอิสระ” ให้จงได้ แม้ต้องอาศัย “กองกำลังต่างชาติ” ก็ตามด้วยคำพูด คำจา ที่แทบไม่ต่างอะไรไปจาก “คำประกาศแยกดินแดน” อย่างเห็นได้โดยชัดเจน ส่งผลให้พญามังกรจีนเลยย่อมมิอาจนิ่งเฉยใดๆ ได้อีกต่อไป ต้องสะบัดหัว สะบัดหาง ต้องเปิดฉากการซ้อมรบครั้งใหญ่ ภายใต้ชื่อรหัส “The Joint Sword-2024A” อันถือเป็นการซ้อมรบที่น่าหวาดหวั่นขวัญสยองเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เพียงแต่เป็นการขนกำลังทางบกทางทะเล ทางอากาศ ของกองทัพปฏิวัติประชาชน (PLA) เข้าร่วมปฏิบัติการโดยพร้อมเพรียงกัน แต่ยังเป็นการเคลื่อนกำลังแทบทั้งหมด เข้าปิดล้อมเกาะไต้หวันทุกทิศทุกทาง ไม่ว่าด้านเหนือ ด้านใต้ ตะวันออก ตะวันตก รวมทั้งเกาะเล็กเกาะน้อยไม่ว่าเกาะ Kimmen, Matsu, Wuqui, Dongyin ตั้งแต่ช่วงวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา (23-24 พ.ค.)...
สรุปรวมความแล้ว...ไม่ว่า “แนวรบ” ด้านไหนต่อด้านไหน ล้วนแล้วแต่สามารถก่อให้เกิดอาการเตร่งเตรง เตร่งต๋อย ไฟไหม้มูลฝอยดังพรึ่บบ์บ์บ์!!! ได้ทุกเมื่อ หรือล้วนแล้วแต่มีผู้พร้อมที่จะ “จุดชนวน” เพื่อให้ “ไฟนรกสุดขอบฟ้า” ลุกลามบานปลาย ไหม้ลามทุ่ง ไม่ว่าจะผู้นำยูเครน อย่าง “นายVolodymyr Zelensky” ผู้นำอิสราเอลอย่าง “นายBenjamin Netanyahu” หรือแม้แต่ผู้นำรายใหม่แห่งไต้หวัน อย่าง “นายLai Ching-te” ก็ตาม อันเนื่องมาจาก “ผลประโยชน์ของตัวกูเอง” นั่นแหละเป็นสำคัญ อีกทั้งบรรดาชาติผู้สนับสนุน ส่งเสริม กลุ่มบุคคลดังกล่าว ต่างก็เต็มไปด้วยผู้นำประเภทที่อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย “นายDmitry Medvedev” ท่านเรียกขานไว้ในนามพวก “Infantile Morons” หรือพวกที่ระดับสติปัญญาพอๆ กับเด็กทารกอะไรประมาณนั้น คือแทนที่จะหาทางระงับยับยั้ง หาทางออก ทางไป เพื่อไม่ให้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเตลิดเปิดเปิงไปไกลยิ่งไปกว่านี้ แต่กลับหันไปเติมฟืน เติมไฟ ปลุกกระตุ้น ยั่วยุ รื้อสะพานถอยหลัง จนยากที่จะประนีประนอม ยากที่จะหาทางพูดคุยเจรจากันได้ง่ายๆ...
ด้วยเหตุนี้...โอกาสที่บรรดาชาวโลก หรือบรรดาประเทศ “หญ้าแพรก” อย่างไทยแลนด์ แดนสยาม ของหมู่เฮาทั้งหลาย จะมีโอกาสได้เห็น “อภิมหาสงคราม” ระดับ “สงครามโลกครั้งที่ 3” หรือเผลอๆ อาจถึงขั้น “สงครามนิวเคลียร์” ในอีกไม่นาน-ไม่ช้าไม่ใกล้-ไม่ไกล ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เอาเลย!!! โดยมันจะมีจุดเริ่มต้นอยู่ที่ “แนวรบ” ด้านไหน??? ก็คงไม่ถึงกับต้องเสียเวลาวิเคราะห์แยกแยะอะไรกันมากมาย เพราะมันมีโอกาส “เป็นไปได้” ในทุกๆ แนวรบ...นั่นแล...