xs
xsm
sm
md
lg

โลกไร้ระบบยุติธรรม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์


โจ ไบเดน
คนบ้านเราบ่นเรื่องความเสื่อมโทรมไร้ความน่าเชื่อถือ ไม่มีมาตรฐานของกระบวนการยุติธรรมบางส่วนและมองว่าเป็นอุปสรรคที่จะให้ประเทศมีชื่อเสียงเกียรติภูมิได้รับการยอมรับจากวงการระหว่างประเทศ

การที่ผู้นำรัฐบาลเดินสายในต่างประเทศกว่า 10 ครั้งเรียกร้องให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาและอ้างว่ามีหลายบริษัทยักษ์ใหญ่ให้ความสนใจ แต่สิ่งที่ตามมาไม่เห็นอะไรเกิดขึ้น เป็นชิ้นเป็นอัน

เป็นที่เข้าใจว่าคำตอบรับว่าสนใจจะมาลงทุนในประเทศไทย คงเป็นเพียงการพูดตามมารยาทเพราะการปฏิเสธซึ่งหน้าไม่มีผลดี

ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริหารของบริษัทข้ามชาติตอบให้ผู้นำรัฐบาลของเราก็เป็นเพียงสิ่งที่เรียกกันว่า lip service แค่นั้น โดยทั่วไปคงไม่มีความหมายมากกว่านั้น เว้นแต่จะมีโครงการอะไรน่าสนใจจริงจัง

ปัญหาคือความน่าเชื่อถือในกระบวนการยุติธรรมและไม่ใช่ระดับประเทศไทย ในวงการสากลก็ไม่ต่างกันและเมื่อการละเมิดกฎหมายเกิดขึ้นไม่มีใครทำอะไรได้

ตัวอย่างให้เห็นทุกวันนี้ก็คือ ผู้นำรัฐบาลอิสราเอลสั่งให้กองทัพโจมตีฉนวนกาซาแทบจะทุกตารางนิ้วฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ทุกวันตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคมเว้นเพียงไม่กี่วันในการเจรจาแลกเปลี่ยนตัวประกันกับนักโทษปาเลสไตน์ในคุกอิสราเอล

ชาวปาเลสไตน์ถูกสังหารทุกวันระหว่าง 150 ถึง 250 คนไม่นับกับผู้สูญหายภายใต้ซากตึกอาคารต่างๆ ที่ถล่มลงมา พฤติกรรมของกองทัพอิสราเอลแสดงให้เห็นความเหี้ยมโหดอำมหิตไร้มนุษยธรรมเลือดเย็นในการสังหารเด็ก สตรี และพลเรือนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสงคราม

ยิวสังหารชาวปาเลสไตน์ทุกวันแม้จะมีคำเตือนจากศาลโลกว่าให้ลดละพฤติกรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ลดละการละเมิดกฎหมายอาญาระหว่างประเทศและการสังหารหมู่ประชาชน

รัฐบาลแอฟริกาใต้นำคำร้องไปฟ้องศาลโลกและศาลก็วินิจฉัยว่าพฤติกรรมของกองทัพอิสราเอลแสดงให้เห็นหลักฐานถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างเป็นระบบต่อเนื่องและให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมภายใน 30 วัน

ผลตามมาคืออิสราเอลไม่สนใจยังคงโจมตีพื้นที่ฉนวนกาซาและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนต่อไป ทำลายโครงสร้างต่างๆ ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน มหาวิทยาลัย อาคารบ้านเรือนของประชาชน โบสถ์ สุเหร่า อาคารทำการของรัฐบาลที่เก็บหลักฐานสำมะโนประชากรโดยต้องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และทำลายวัฒนธรรมของปาเลสไตน์

เมื่อไม่มีหลักฐานเอกสารประกอบชาวปาเลสไตน์ก็เหมือนคนไร้รากฐานและไปไหนมาไหนก็ไม่ได้จนกว่าจะมีการพิสูจน์ตัวตน

ทุกวันนี้ผู้นำอิสราเอลและกองทัพอ้างว่าต้องการสังหารและกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธฮามาสให้สิ้นซากเพื่อไม่ให้เป็นภัยกับอิสราเอล แต่ไม่เคยปรากฏหลักฐานว่ากองกำลังติดอาวุธเสียชีวิตภาพที่ชาวโลกได้เห็นคือศพถูกหอผ้า และถูกทำพิธีฝังทุกวัน

ไม่มีสถานที่แห่งไหนจะรอดพ้นจากการสังหารโดยกองทัพอิสราเอลในรูปแบบของการทิ้งระเบิดสะเปะสะปะ การยิงด้วยปืนใหญ่รถถังและการโจมตีโดยทหารราบ

ยอดผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์เกือบจะถึง 28,000 รายซึ่ง 11,000 รายกว่านั้นเป็นเด็กและ 8,000 กว่ารายเป็นสตรีที่เหลือเป็นพลเรือนซึ่งไม่ใช่หน่วยรบ

นี่เป็นการตัดกำลังไม่ให้เด็กชาวปาเลสไตน์ได้เติบโตมาเป็นกองทัพเป็นภัยต่ออิสราเอลและสตรีที่เสียชีวิตไม่มีโอกาสได้ให้กำเนิดบุตรต่อไป ขณะที่โรงพยาบาลทั่วทั้งกาซาถูกทำลายจนไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนในกรณีเจ็บป่วยอาการรุนแรง

กองทัพอิสราเอลได้ทำลายโครงสร้าง และขีดความสามารถด้านบริการทางการแพทย์จนไม่เหลือ

ไม่มีกองทัพชาติใดที่เจตนาโจมตีค่ายผู้ลี้ภัยอย่างจริงจังโดยอ้างว่าชาวบ้านผู้น่าสงสารเหล่านั้นถูกใช้เป็นโล่มนุษย์ของกองกำลังติดอาวุธ ดังนั้นกองทัพอิสราเอลจึงมีสิทธิ์โจมตีโดยไม่จำเป็นต้องระวังและเลือกเป้าหมาย

กองทัพอิสราเอลไม่มีคำว่าผู้บริสุทธิ์และสมควรได้รับการละเว้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายกาชาดหรือฝ่ายผู้ช่วยเหลือชาวบ้านรวมถึงผู้สื่อข่าวก็ถูกสังหารเพื่อไม่ให้รายงานข้อเท็จจริงแก่ชาวโลก

ผู้สื่อข่าวการสู้รบในฉนวนกาซาเสียชีวิตไปมากกว่า 130 รายเจ้าหน้าที่สหประชาชาติและหน่วยกาชาดก็เสียชีวิตมากมายเช่นกัน

ศาลโลกไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากประทับตราบาปให้กับอิสราเอลว่าเป็นชาติที่ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และละเมิดกฎหมายอาญาระหว่างประเทศด้วยพฤติกรรมที่เหี้ยมโหดไร้มนุษยธรรม

ความยุติธรรมระหว่างประเทศไม่มีและไม่เคยมีสำหรับชาวปาเลสไตน์มาตั้งแต่ปี 1948 นับตั้งแต่มาแย่งพื้นที่จากชาวปาเลสไตน์ภายใต้การคุ้มกันของสหรัฐฯ และรัฐบาลในยุโรปรวมทั้งอังกฤษซึ่งเป็นเจ้ากี้เจ้าการเรื่องนี้

สหรัฐฯ เป็นตัวสมรู้ร่วมคิดให้การสนับสนุนอิสราเอลส่งอาวุธผ่านทางเครื่องบินวันละสองถึงสามลำทุกวันไม่หยุด เพื่อให้มั่นใจว่าอิสราเอลมีทั้งกระสุนปืนและระเบิดมากเพียงพอสำหรับปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา

อิสราเอลไม่สนใจคำประณามของชาวโลกในข้อหาเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมสงครามเพราะประธานาธิบดีโจ ไบเดนกำลังสู้ศึกเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนปีนี้ และต้องการแสดงให้คนอเมริกันเห็นว่าตัวเองยังมีน้ำยาเป็นผู้นำประเทศได้ต่อไปแม้จะอยู่ในวัย 80 ปีแล้วก็ตาม

เมื่อระดับชาติไม่มีกระบวนการยุติธรรมที่น่าเชื่อถือได้และบังคับใช้อย่างนี้ จะหวังให้ความสงบสุขและเลี่ยงต่อการทำสงครามเป็นวงกว้างได้อย่างไรอย่างที่สหรัฐฯ กำลังทำอยู่ในเยเมน อิรัก และซีเรียในขณะนี้และเป้าหมายหลักคืออิหร่าน

ชาวปาเลสไตน์จะต้องเสียชีวิตอีกกี่หมื่นรายหรือมากกว่านั้นแล้วจะสิ้นสุดเมื่อไหร่และโจ ไบเดนเท่านั้นที่จะหยุดอิสราเอลได้แต่ก็ไม่ทำเพราะโจ ไบเดนเป็นนักการเมืองที่มือเปื้อนเลือดมาโดยตลอด

ขณะนี้ก่อนละเมิดกฎหมายของสหรัฐฯ โดยการไม่ยอมขออนุมัติจากสภาฯ ในการโจมตีเป้าหมายทั้งในทะเลแดงและตะวันออกกลาง รวมถึงอาชญากรรมที่ถูกกล่าวหาว่าได้ก่อกับลูกชายนายฮันเตอร์

ชะตากรรมของโจ ไบเดน ถ้าพ่ายแพ้การเลือกตั้งน่าจะสมเพชไม่น้อย


กำลังโหลดความคิดเห็น