xs
xsm
sm
md
lg

บทความ

x

กลุ่มอาการหลังวัคซีนโควิด (ตอนที่ 2)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา



ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่
คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์


[อ่าน กลุ่มอาการหลังโควิด (ตอนที่ 1)]

ประโยชน์ของวัคซีนก็คือป้องกันโรค รวมทั้งลดอาการหนัก การตายและในขณะเดียวกันจำเป็นต้องทราบผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนในระยะเวลาต่างๆ ตั้งแต่ได้รับวัคซีนนาทีแรกจนกระทั่งถึงระยะกลางเป็นสัปดาห์และระยะยาวเป็นเดือนและสิ่งที่ทอดยาวไปเป็นปี

วัคซีนโควิดเช่นกันในช่วงที่มีการระบาดรุนแรงจำเป็นต้องใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน และเป้าหมายของทุกประเทศรวมทั้งประเทศไทยด้วยก็คือให้ทุกคนได้รับวัคซีนทั้งนี้เพื่อทำให้ระบบสาธารณสุขไม่พังพาบ จนรับผู้ป่วยโควิดไม่ไหว แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องมีระบบในการรองรับเพื่อประเมินผลข้างเคียงเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในคนที่ได้รับวัคซีนโดยที่เป็นคนที่ยังสุขภาพดีแข็งแรงจนกระทั่งมีโรคประจำตัวอื่นๆ

รายงานจากประเทศสหรัฐที่ถือว่าเป็นรายงานสำคัญอีกชิ้น มาจากคณะทำงาน แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ 20 คนด้วยกันนำโดย Harlan M Krumholz และ Yilun Wu จาก Yale School of Medicine และ School of Public Health และจาก University of Toronto จาก University of Chicago จาก Purdue University จาก Icahn School of Medicine at Mount Sinai และจาก Howard Hughes Medical Institute รายงานชิ้นนี้ยังอยู่ในระดับ medRxiv preprint รายงานวันที่ 10 พฤศจิกายน 2023

กระบวนการประกอบไปด้วยการรวบรวมรายละเอียดจากผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 241 รายอายุ 18 หรือมากกว่าที่สมัครใจรายงานอาการหลังจากที่ได้รับวัคซีนโควิดเอ็มอาร์เอ็นเอ โดยเข้าโปรแกรม LISTEN (the online Yale Listen to Immune, Symptom and Treatment Experiences Now) ช่วงเวลาตั้งแต่พฤษภาคม 2022 จนกระทั่งถึงกรกฎาคม 2023

อายุเฉลี่ยของผู้ที่ได้รับผลกระทบอยู่ที่ 46 ปี (38-56) มีผู้หญิง 192 รายและ 209 เป็นคนผิวขาวที่ไม่ใช่ฮิสแพนิค และ 211 รายอยู่ในประเทศสหรัฐ โดยที่ 127 รายได้รับวัคซีนไฟเซอร์ และ 86 รายได้รับวัคซีนโมเดอร์นา
ระยะเวลาเฉลี่ยจากที่ได้รับวัคซีนจนกระทั่งเกิดอาการอยู่ที่สามวัน (1-8วัน) ระยะเวลาจากที่ได้รับวัคซีนจนกระทั่งจนจบโครงการอยู่ที่ 595 วัน (417-661วัน) การประเมินคุณภาพชีวิตโดยใช้ Euro-QoL visual analogue scale score อยู่ที่ 50 (39-70) และการประเมิน ดูที่ความสามารถในการเดินเหิน การทำงานการดูแลตัวเอง การใช้ชีวิตประจำวัน ระดับของความปวด ความไม่สบายและระดับของความวิตกกังวลและความหดหู่ซึมเศร้า

อาการที่พบมากที่สุดคือไม่สามารถเคลื่อนไหวออกกำลังได้ถึง 71% มีอาการเหนื่อยล้าง่ายผิดปกติ 69% มีอาการชา 63% มีอาการสมองคิดอะไรไม่ออก(brain fog) 63% และอาการที่เกิดจากเส้นประสาทส่วนปลายผิดปกติ 63% ในช่วงสัปดาห์ก่อนที่จะทำการปิดโครงการ ผู้ได้รับผลกระทบยังคงรายงานความรู้สึกไม่สบายอยู่ถึง 93% มีความกลัว 82% และชีวิตเต็มไปด้วยความกังวล 81% ความรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะช่วยได้แล้ว 80% วิตกกังวล 76% ความหดหู่ซึมเศร้า 76% ความรู้สึกไร้ความหวัง 72% และความรู้สึกหมดคุณค่าของตนเอง 49%

ผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้รายงานว่าได้ใช้กระบวนการ วิธีการต่างๆ ในการรักษาโดยเฉลี่ยแล้ว 20 วิธีด้วยกัน (13-30)

ความสำคัญของรายงานนี้อยู่ที่ไม่เพียงแต่ลองโควิดเท่านั้น แต่มีผู้ได้รับผลกระทบของวัคซีนในลักษณะเดียวกันกับลอง โควิด และการรักษาเต็มไปด้วยความยากลำบากและแพทย์จะจนปัญญาเนื่องจากลักษณะอาการเหล่านี้ไม่ได้เจาะจงกับระบบใดระบบหนึ่งชัดเจนแต่เป็นกลุ่มอาการและสะท้อนให้เห็นถึงความแปรปรวนที่เกิดขึ้นจากการควบคุมที่ผิดปกติในสมอง

สำหรับหมอเองนั้นได้รับผลกระทบเช่นกันรวมกระทั่งถึงมีการอักเสบในสมองและมีโปรตีน อัลไซเมอร์ขึ้น สิ่งที่ปฏิบัตินั้นและได้ผลภายในระยะเวลา 5 เดือน จนสามารถขจัดโปรตีนพิษออกได้หมด ก็คือเข้าใกล้มังสวิรัติ ผักผลไม้ กากใย งดเนื้อสัตว์มทานแต่กุ้ง หอย ปู ปลา เดิน 10,000 ก้าวตากแดด และพร่ำบอกคนป่วยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นคนที่ปกติหรือคนที่เจ็บป่วยไปแล้ว ให้ปฏิบัติดังกล่าวและต้องลงทุนด้วยตนเองไม่ใช่ใช้ยาอย่างเดียว และ ข้อสำคัญก็คือ รักษาศักดิ์ศรีของตนเอง ทำในสิ่งที่พึงกระทำ สามารถเงยหน้ามองฟ้า ได้อย่างองอาจและทระนง

[ย้อนอ่าน กลุ่มอาการหลังโควิด (ตอนที่ 1)]


กำลังโหลดความคิดเห็น