ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากกองทัพอิสราเอลเปิดฉากโจมตีพื้นที่ฉนวนกาซารอบใหม่มีผู้เสียชีวิตกว่า 700 รายแม้จะมีคำเตือนจากสหรัฐฯ ว่าให้ระวังเป้าหมายที่เป็นพลเรือน
อิสราเอลยังคงอ้างว่าจะต้องกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธฮามาส ซึ่งเป็นข้ออ้างที่ทหารอิสราเอลใช้โจมตีเป้าหมายทุกประเภทโดยไม่เลือก
อิสราเอลยังคงใช้วิธีการลงโทษแบบเหมารวมคือไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเช่นค่ายผู้ลี้ภัย โรงพยาบาล บ้านเรือนที่ อยู่อาศัย หรือจุดสำคัญทางศาสนา
แม้กระทั่งรถพยาบาลก็เป็นเป้าหมายโดยทหารอิสราเอลอ้างว่ามีพวกฮามาสซ่อนตัวอยู่
การโจมตีระลอกใหม่กองทัพอิสราเอลเน้นพื้นที่ตอนใต้ของฉนวนกาซาคือเมืองข่าน ยูนิส หลังจากทำลายเมืองกาซาซิตี้ในตอนเหนือจนสิ้นสภาพแล้ว
กองทัพอิสราเอลและผู้นำการเมืองยังคงไม่ใส่ใจต่อผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนเพราะที่ผ่านมายอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 15,800 ราย สองในสามเป็นผู้หญิงและเด็ก
จะเห็นได้ว่าแผนของกองทัพอิสราเอลคือการขับไล่ชาวปาเลสไตน์ให้ออกไปจากฉนวนกาซาโดยไล่ต้อนผู้คนกว่า 2 ล้านคน ไปกระจุกตัวด้านพรมแดนอียิปต์
ช่วงแรกของการโจมตีอิสราเอลชาวปาเลสไตน์ย้ายจากตอนเหนือไปภาคใต้ และได้ทำลายโรงพยาบาลรวมทั้งอาคารบ้านเรือน จนทำให้เมืองไม่ใช่ที่อยู่อาศัยได้
จากนั้นได้ปฏิบัติการทิ้งระเบิดโจมตีทางตอนใต้ของฉนวนกาซา อ้างแบบเดียวกันว่าต้องการจะกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธทั้งที่ไม่สามารถจัดการในตอนเหนือของฉนวนกาซาได้
ดังนั้นจะมีคำถามว่าถ้าต้องการจะกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธฮามาส แล้วจะต้องฆ่าพลเรือนอีกเท่าไหร่เพราะไม่มีที่ไหนปลอดภัยสำหรับชาวปาเลสไตน์แม้กระทั่งค่ายผู้ลี้ภัยก็ยังโดนโจมตี
ดังนั้นปฏิบัติการของทหารอิสราเอลคงกินเวลาหลายเดือนหรืออาจจะเป็นปีกว่าจะกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธตามคำประกาศของผู้นำรัฐบาลอิสราเอล
คำถามมีอยู่ว่าประชาคมโลกจะยอมทนกับการสังหารหมู่ประชาชนชาวปาเลสไตน์และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โดยเป็นอาชญากรรมสงครามได้อีกนานเท่าไหร่
และกลุ่มประเทศอาหรับมุสลิมจะทนให้ประชาชนในฉนวนกาซาและฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดนถูกกองทัพอิสราเอลสังหารและจับกุมคุมขังได้อีกนานเท่าไหร่
และสงครามมีโอกาสขยายตัวหรือไม่ ถ้ากองหลังติดอาวุธอื่นๆ ในจอร์แดน อิรัก เยเมน และประเทศอื่นๆ เข้าร่วมด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ ในเลบานอน ซึ่งมีกำลังรบและอาวุธสู้กับอิสราเอลได้
ที่น่าสงสารคือประชาชนปาเลสไตน์ที่ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะเป็นองค์การสหประชาชาติหรือใครที่จะห้ามอิสราเอลไม่ให้โจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมาย
รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงทำตัวเป็นพวกปากว่าตาขยิบ ปากนั้นห้ามอิสราเอลให้ระวังเป้าหมายที่เป็นพลเรือน แต่ก็ยังให้การสนับสนุนอาวุธเต็มที่ ไม่ให้ขาดแคลน
สหรัฐฯ จึงไม่สนใจข้อกล่าวหาว่าได้ร่วมกับอิสราเอลกระทำอาชญากรรมสงคราม ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ สังหารหมู่และละเมิดกฎหมายสากล
รัฐบาลอิสราเอลจะต้องรับผิดชอบอย่างไรเมื่อกำลังถูกโดดเดี่ยวโดยประชาคมโลกเพราะความอำมหิตเลือดเย็นในการฆ่าประชาชนกว่า 15,000 ราย
ทั้งยังมีผู้บาดเจ็บในสภาพต่างๆ และอาจเป็นผู้พิการมากกว่า 30,000 ราย ซึ่งสองในสามก็เป็นเด็ก และสตรี ซึ่งเป็นเป้าหมายของการลดจำนวนประชากร
หลายประเทศได้เรียกทูตกลับเพื่อเป็นการประท้วงอิสราเอลแต่ก็ไม่ได้มีความหมาย รัฐบาลอิสราเอล และกองทัพยังคงตั้งใจที่จะกวาดล้างชาวปาเลสไตน์ให้พ้นจากฉนวนกาซา
โอกาสที่จะมีการหยุดพักรบรอบใหม่คงไม่เกิดขึ้นเพราะฝ่ายกลุ่มฮามาสประกาศว่าจะไม่ยอมเจรจาอีก โดยประเทศกาตาร์และอียิปต์คงจะไม่เป็นตัวกลางอีกแล้ว
โอกาสที่สงครามจะขยายตัวออกนอกพื้นที่ฉนวนกาซาก็มีความเป็นไปได้ ทุกวันนี้มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มติดอาวุธในเลบานอนกับกองทัพอิสราเอลประปราย
ความเสียหายจากสงครามจึงมีราคาแพงไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปาเลสไตน์ซึ่งถูกโจมตีจนบ้านเมืองย่อยยับ ขณะที่อิสราเอลต้องมีค่าใช้จ่ายแพงสูงถึง 1 หมื่นล้านบาทต่อวัน
แต่การสูญเสียของพลเมืองปาเลสไตน์สะท้อนให้เห็นความโหดร้ายจากการกระทำของกองทัพอิสราเอล ซึ่งองค์การยูนิเซฟประกาศว่าเป็นการทำสงครามกับเด็กซึ่งเป็นเหยื่อมากที่สุด
ผู้นำรัฐบาลสหรัฐฯ นายโจ ไบเดนจึงไม่มีทางเลือกนอกจากจะต้องสนับสนุนอิสราเอลให้เต็มที่ตามคำประกาศเพราะยิวคือหัวใจสำคัญ ในการเมืองและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
ชาวยิวในสหรัฐฯ จึงมีอำนาจในหน่วยงานทุกแห่งโดยเฉพาะในสภาผู้แทนและวุฒิสภารวมถึงกระทรวงสำคัญเช่นกระทรวงการต่างประเทศที่กำหนดนโยบายสนับสนุนอิสราเอล
นักการเมืองอเมริกันได้รับเงินช่วยเหลือจากกลุ่มทุนยิว ซึ่งคุมธุรกิจด้านการเงินการคลัง ดังนั้นจึงมีอิทธิพลในด้านงบประมาณช่วยเหลือกองทัพอิสราเอลไม่อั้น
กลุ่มชาติอาหรับและมุสลิมเริ่มมีปฏิกิริยาไม่พอใจต่อการสังหารประชาชนในฉนวนกาซา ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าจะมีการแสดงออกมากกว่านี้
ฝ่ายติดอาวุธในประเทศใกล้เคียงคงจะเริ่มโจมตีเป้าหมายเช่นค่ายทหารสหรัฐฯ ในอิรักและซีเรีย รวมถึงอิสราเอลซึ่งกลุ่มกบฏฮูตีในเยแมน ได้ปฏิบัติการยึดเรือที่ชาวอิสราเอลเป็นเจ้าของและใช้จรวดโจมตีเป็นระยะ
สงครามระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์จะหยุดหรือลุกลามต่อไปอยู่ที่ทางออกซึ่งจะต้องเป็นสองรัฐ โดยมีอธิปไตยแต่คงเป็นเรื่องยากเพราะอิสราเอลไม่ยอมให้ปาเลสไตน์เป็นรัฐอิสระ
ดังนั้น ทั้งสองเชื้อชาติคงต้องเข่นฆ่ากันต่อไป จนฝ่ายใดสิ้นสภาพถาวร