xs
xsm
sm
md
lg

ยิวยังไม่หยุดฆ่าคนปาเลสไตน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



สงครามระหว่างกองกำลังฮามาสของชาวปาเลสไตน์และกองทัพอิสราเอล ผ่านไปกว่าหนึ่งเดือนปรากฏว่าสมรภูมิหลักคือการทำลายโรงพยาบาลในพื้นที่ฉนวนกาซา โดยอิสราเอลถือว่าเป็นเป้าหมายหลัก

อ้างว่าเป็นแหล่งซุ่มซ่อนของกองกำลังฮามาส ใต้ดินพื้นที่โรงพยาบาลโดยใช้รถถังหลายคันปิดล้อมและส่งหน่วยคอมมานโดเข้าไปค้นหาพร้อมกับมีข่าวการสู้รบดุเดือด

ที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลได้อ้างว่าสามารถสังหารกลุ่มก่อการร้ายตามคำกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลนายเบนจามิน เนทันยาฮู จำนวนมากแต่ไม่สามารถพิสูจน์ได้โดยสื่อต่างๆ รวมทั้ง BBC

ไม่เห็นศพของกองกำลังฮามาส มีแต่ศพของเด็กและผู้หญิงซึ่งเป็นเหยื่อกระสุนและระเบิดของกองทัพอิสราเอลซึ่งจะสร้างความสยองขวัญให้กับชาวโลก

ช่วงนี้กองทหารอิสราเอลได้มุ่งโจมตีโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่สุดในฉนวนกาซามีคนไข้หลายพันคนรวมทั้งผู้ที่หลบภัยสงคราม

ก่อนหน้านี้อิสราเอลได้โจมตีอาคารไอซียูของโรงพยาบาลจนพังทลายไม่สามารถให้บริการได้ วันก่อนเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องฝัง 200 ศพของเหยื่อการระเบิดในโรงพยาบาลและที่ได้รับบาดเจ็บโดยไม่สามารถรักษาได้

โรงพยาบาลสิ้นสภาพไม่สามารถให้การรักษาผู้ป่วยบาดเจ็บได้เพราะขาดพลังงาน ยา อาหารและน้ำ นอกจากอุปกรณ์จำเป็นต่างๆ ที่เสียหายจากการถูกทิ้งระเบิด

ในฉนวนกาซามีโรงพยาบาล 35 แห่งและถูกกองทัพอิสราเอลโจมตีทำลายไปแล้ว 18 แห่งเพื่อไม่ต้องการให้เป็นแหล่งที่ซุ่มซ่อนของกลุ่มติดอาวุธฮามาส แต่เป็นคำอ้างเลื่อนลอย เพราะนักบินไม่สามารถแยกแยะว่าใครเป็นเป้าหมายหรือพลเรือน

มีคำเตือนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าให้ทหารอิสราเอลระวังในการจู่โจมบุกเข้าไปในโรงพยาบาลอัล-ชิฟา เพื่อป้องกันการสูญเสียพลเรือน แต่ทหารอิสราเอลไม่ฟังเพราะรับคำสั่งจากผู้นำทหารและนายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเท่านั้น

คำเตือนของสหรัฐฯ จึงเป็นเหมือนการขยิบตาให้กองทัพอิสราเอลเดินหน้าต่อไปเพราะผู้นำทำเนียบขาว โจ ไบเดนประกาศว่าอิสราเอลไม่หยุดยิงและต้องเดินหน้าต่อไปโดยการสนับสนุนของสหรัฐฯ อย่างเต็มที่ ทั้งอาวุธซึ่งคนให้ทุกวันทดแทนกับการใช้โดยกองทัพอิสราเอล

การโจมตีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ครั้งนี้ยังมีประชาชนตกค้างอยู่หลายพันคน โดยกองทัพอิสราเอลอ้างว่าได้ขนย้ายประชาชนออกไปบางส่วน แต่ที่เหลือยังต้องเสี่ยงชีวิตเพราะไม่สามารถช่วยตัวเองได้

แม้แต่แพทย์และพนักงานโรงพยาบาลก็ยังไม่ปลอดภัยไม่อยู่ในข่ายที่จะรอดพ้นจากการโจมตีของกองทัพอิสราเอล โดยทหารอิสราเอลมองว่าชาวปาเลสไตน์ทุกคนสนับสนุนกลุ่มฮามาส

จากเจตนาที่แท้จริงของการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลก็คือ การขับไล่ชาวปาเลสไตน์ให้พ้นไปจากฉนวนกาซา ที่ผ่านมาจึงโจมตีมัสยิด โบสถ์คริสต์ โรงเรียนและค่ายผู้ลี้ภัยรวมถึงโครงสร้างสาธารณูปโภคแม้แต่อ่างเก็บน้ำเพื่อให้เกิดความอดอยาก

ดังนั้น สหรัฐฯ และอิสราเอลจึงถูกกล่าวหาโดยประชาคมโลกว่าได้กระทำอาชญากรรมสงคราม การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ การสังหารหมู่ การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและกฎมนุษยธรรม ทำทุกอย่างเพื่อหวังผล

สภาพที่เป็นอยู่อิสราเอลมองว่าชาวปาเลสไตน์เป็น Human Animals คือเป็นคนที่อยู่ในระดับเดียวกับสัตว์จึงเป็นการเหยียดหยามเชื้อชาติและความเป็นคน

อิสราเอลไม่สนใจต่อคำประณามของประชาคมโลก ไม่สนใจคำเตือนขององค์การสหประชาชาติและแม้กระทั่งศาลโลกและศาลอาญาระหว่างประเทศ โดยอ้างว่าอิสราเอลไม่ขึ้นต่อใครถ้าจะต้องปกป้องประเทศ

การสังหารโหดประชาชนไปมากกว่า 11,000 รายและมีเด็กเสียชีวิตมากกว่า 4,500 ราย ผู้หญิงเสียชีวิตกว่า 3,000 รายและเด็กสูญหายอีกกว่า 2,500 ราย จึงมากกว่าจำนวนที่กองกำลังฮามาสได้สังหารชาวอิสราเอลและคนชาติอื่นๆ แค่ 1,200 ราย

การลงโทษแบบยกเล้าเหมาเข่ง collective punishment จึงเป็นการกระทำที่เลือดเย็นอำมหิต ลดคุณค่าของความเป็นคนชาติอื่นและมองว่าอิสราเอล หรือคนยิวอยู่เหนือชนชาติอื่น

พฤติกรรมเหี้ยมโหดทำให้สหรัฐฯ และอิสราเอลถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก ซึ่งเป็นสมาชิกสหประชาชาติมีอยู่ 193 ประเทศ

ขณะนี้ยังมีการต่อรองว่าจะมีการแลกเปลี่ยนตัวประกัน อิสราเอลกับนักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกขังอยู่มากกว่า 6,000 รายโดยไม่มีการไต่สวนความผิดในคุกอิสราเอล จึงเป็นการกักขังโดยผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

จำนวนคนแลกเปลี่ยนยังอยู่ในขั้นเจรจากันอยู่แต่อิสราเอลอยากจะรู้ว่ารายชื่อของตัวประกันนั้นมีใครอยู่บ้าง โดยเฉพาะสตรีและเด็ก

ดังนั้นการแลกเปลี่ยนตัวประกันอิสราเอลกับนักโทษปาเลสไตน์ อาจไม่รวมตัวประกันชาติอื่นเช่น พลเมืองอเมริกัน ฝรั่งเศส อังกฤษ และไทย

ที่ผ่านมา คนไทยเสียชีวิตมากที่สุดในบรรดาเหยื่อตัวประกันซึ่งเป็นผู้ใช้แรงงานอยู่ใกล้แนวฉนวนกาซามากที่สุดเพียง 5 กิโลเมตร และบางส่วนรับงานรักษาความปลอดภัยให้แรงงานไทยโดยมีปืนลูกซองเป็นอาวุธคุ้มครอง

จากนี้ไปคงจะยังมีการสู้รบถ้าไม่มีการหยุดยิง 5 วันตามที่กลุ่มฮามาสได้เรียกร้องเพื่อเปิดช่องทางให้กลุ่มมูลนิธิช่วยเหลือต่างๆ ได้นำสิ่งของจำเป็นไปให้ชาวปาเลสไตน์

ชะตากรรมของชาวปาเลสไตน์ จึงขึ้นอยู่กับแรงกดดันของประชาคมโลกว่าจะให้กองทัพอิสราเอลหยุดสังหารประชาชนและเด็กเร็วแค่ไหน

ถ้าอิสราเอลยังไม่หยุดยั้งการสังหารหมู่และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ การสู้รบอาจจะลามไปพื้นที่อื่นและทำให้ยากต่อการประเมินว่าจะสิ้นสุดอย่างไร กี่ชีวิตต้องดับสิ้นไปเพราะสงคราม


กำลังโหลดความคิดเห็น