ในวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา นายดมิทรี เมดเวเดฟ (@MedvedevRussiaE) รองประธานสภาความมั่นคงของรัสเซียเขียนข้อความทวิตเตอร์ว่า: “อิสราเอลเลื่อนปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซาต่อไป ส่วนใหญ่เป็นเพราะแรงกดดันและความหวาดหวั่นของสหรัฐฯ ต่อเสียงโวยวายของกลุ่มซีกโลกใต้ อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรถูกหลอก ปฏิบัติการภาคพื้นดินจะเกิดขึ้น และผลที่ตามมาจะยากลำบากและนองเลือด โมเลค (Moloch) เรียกร้องการบูชายัญมากขึ้นเรื่อยๆ และกลไกของความรุนแรงที่ตอบโต้ซึ่งกันและกันจะค่อยๆ ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี”
คนส่วนมากจะอ่านข้อความนี้ผ่านไปว่า เป็นเพียงความเห็นอดีตประธานาธิบดีของรัสเซีย โดยไม่สะดุดใจกับคำว่าโมเลค (Moloch) หรือเทพเจ้าของพวกเคนาน ที่พวกยิวโบราณสมัยพระคัมภีร์เก่านับถือ และใช้เด็กบูชายัญให้เทพเจ้าองค์นี้
เมดเวเดฟเขียนชัดเจนว่าเทพเจ้าโมเลคเรียกร้องการบูชายัญมากขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับรายงานว่ามีเด็กปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 3,000 จากการบอมบ์ฉนวนกาซาของกองทัพอิสราเอล เพื่อตอบโต้กลุ่มฮามาสที่เปิดฉากโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยที่อิสราเอลไม่ได้รู้สึกร้อนรู้สึกหนาวกับการตายของเด็กแม้แต่น้อย
Sanjana Karanth ผู้สื่อข่าวของ HUFFPOST รายงานว่า
จำนวนเด็กชาวปาเลสไตน์ที่ถูกสังหารในฉนวนกาซาในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกินจำนวนเด็กที่เสียชีวิตในเขตความขัดแย้งทั่วโลกอย่างเป็นทางการในแต่ละปีตั้งแต่ปี 2019 ตามรายงานของกลุ่มสิทธิมนุษยชน
นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และการตอบโต้อย่างต่อเนื่องของอิสราเอลต่อฉนวนกาซาที่กลุ่มฮามาสควบคุม มีรายงานว่ามีเด็กอย่างน้อย 3,257 รายถูกสังหาร ตามรายงานขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Save the Children จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในอิสราเอลและฉนวนกาซาตามลำดับ เด็กเหล่านั้น 29 คนถูกสังหารในอิสราเอล 33 คนในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง และ 3,195 คนในฉนวนกาซา
เพื่อเปรียบเทียบยอดผู้เสียชีวิตต่อปีของเด็กในความขัดแย้งทั่วโลกในปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 3,000 ราย ในช่วง 3 สัปดาห์ จำนวนผู้เสียชีวิตของเด็กในฉนวนกาซาเกินจำนวนดังกล่าว และตัวเลขจริงในฉนวนกาซามีแนวโน้มสูงกว่านี้ โดยมีเด็กอีก 1,000 คนรายงานว่าสูญหายและมีแนวโน้มว่าจะถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อม มีเด็กคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของประชากร และมากกว่า 40% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดในฉนวนกาซา ตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในขณะที่กองทัพอิสราเอลเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้าไปในดินแดนดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าเป็น “ระยะที่สอง” ของการโจมตีประเทศนี้
กลุ่มสิทธิมนุษยชนเปรียบเสมือนการโจมตีฉนวนกาซาที่กำลังเกิดขึ้นกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หลายคนเรียกร้องให้หยุดยิง โดยสังเกตว่าการโจมตีทางอากาศ การปิดล้อม คำสั่งอพยพ และขณะนี้ปฏิบัติการภาคพื้นดินกำลังทำให้พลเรือนเสียชีวิตและทรมานจำนวนมาก
“ความรุนแรง 3 สัปดาห์ทำให้เด็กๆ ขาดครอบครัวและต้องทนทุกข์ทรมานในชีวิตในอัตราที่ไม่อาจจินตนาการได้ ตัวเลขดังกล่าวน่าสลดใจ และความรุนแรงไม่เพียงแต่ดำเนินต่อไปแต่ยังขยายวงกว้างขึ้นในฉนวนกาซาในขณะนี้ เด็กจำนวนมากยังคงตกอยู่ในความเสี่ยงร้ายแรง” เจสัน ลี ผู้อำนวยการองค์กร Save the Children ประจำประเทศในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง กล่าว
“การตายของเด็กคนหนึ่งนั้นมากเกินไป แต่สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดสัดส่วนที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก การหยุดยิงเป็นวิธีเดียวที่จะรับประกันความปลอดภัยของพวกเขา” เขากล่าวต่อ “ประชาคมระหว่างประเทศต้องให้ผู้คนมาก่อนการเมือง ทุกๆ วันที่ใช้ในการโต้วาทีทำให้เด็กๆ เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เด็กๆ จะต้องได้รับการคุ้มครองตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาแสวงหาความปลอดภัยในโรงเรียนและโรงพยาบาล”
ย้อนกลับไปในปี 1998 ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถาม มาเดอลิน อัลไบรท์ (Madeline Albright) อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เป็นยิวอเมริกัน ในรายการ CBS News ว่า: “เราได้ยินว่าเด็กครึ่งล้านคนตายในอิรัก มันมากกว่าเด็กที่ตายในฮิโรชิมาเสียอีก คำถามคือมันคุ้มค่าหรือไม่”
อัลไบรท์ตอบว่า : “ฉันคิดว่ามันเป็นการเลือกที่ยากลำบาก แต่ฉันมันคุ้มค่า”
อัลไบรท์พูดหน้าตาเฉย โดยไม่มีอาการสะทกสะท้านกับการตายของเด็กอิรักครึ่งล้านคนที่เกิดจากการทำสงครามของสหรัฐฯ คล้ายกับผู้นำของอิสราเอลคนปัจจุบัน นายเบนจามิน เนทันยาฮู ที่ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนกับการสูญเสียของชีวิตเด็กจำนวนมากผิดปกติในการทำสงครามกับปาเลสไตน์ ทั้งๆ ที่มีกระแสอย่างท่วมท้นจากนานาชาติผ่านมติของยูเอ็นให้ทุกฝ่ายหยุดยิง เพื่อเลี่ยงการสูญเสียของเด็ก ผู้หญิง และประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเพื่อให้มีการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม แต่เนทันยาฮูไม่ได้ใส่ใจในแรงกดดัน
นายเมดเวเดฟบอกเป็นนัยว่า มันเป็นการบูชายัญเด็กต่อเทพเจ้าโมเลค ที่กระหายเลือดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับว่ายังมีคนบูชาเทพเจ้าโมเลคอยู่
การบูชายัญเด็กต่อเทพเจ้าโมเลคเป็นพิธีกรรมของพวกเคนาน ซึ่งเป็นอาณาจักรของเผ่าพันธุ์ยิวเก่าแก่เผ่าพันธุ์หนึ่งที่อาศัยอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ในปัจจุบัน เคนานเป็นชื่อของลูกชายคนหนึ่งของแฮม ที่เป็นลูกของโนอาห์อีกต่อหนึ่ง
พระเจ้าได้บอกให้โนอาห์สร้างเรือเพื่อบรรทุกครอบครัว สัตว์และพืชพันธุ์ต่างๆ เพื่อพ้นภัยจากน้ำท่วมโลก ระหว่างอยู่บนเรือ โนอาห์นอนหลับกางเกงหลุดหลุ่ย เคนานเห็นปู่นอนแก้ผ้าอดไม่ได้ จึงเข้าไปกระทำชำเรา โนอาห์รู้ตัวตื่นขึ้นมา รู้สึกโกรธแค้นเคนานมาก สาปแช่งให้เคนานฉิบหาย
ผู้ที่สืบเชื้อสายจากเคนานจึงเป็นตัวแทนความชั่วร้ายของโลกตั้งแต่นั้นมา
ในพระคำภีร์ไบเบิลเก่า พระเจ้าพูดกับโมเสสในบทเลวีนิติ 18 ว่า: “ห้ามถวายลูกหลานของเจ้าให้โมเลคโดยให้ลุยไฟ ห้ามทำให้พระนามพระเจ้าของเจ้าเสื่อมเกียรติ เราคือยาห์เวห์”
ในบทเลวีนิติ 20: “โทษของการไม่เชื่อฟัง พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า คนอิสราเอลคนใดหรือคนต่างด้าวคนใดที่อาศัยอยู่ในอิสราเอล ผู้ที่มอบลูกหลานของตนให้แก่พระโมเลค ผู้นั้นต้องมีโทษถึงตาย ให้ราษฎรเอาหินขว้างเขาเสียให้ตาย 3 ตัวเราเองจะหมายหน้าผู้นั้นไว้ และจะอเปหิเขาจากท่ามกลางชนชาติของตน เพราะว่าเขาได้ให้ลูกของเขาคนหนึ่งแก่พระโมเลค กระทำให้สถานศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นมลทิน และกระทำให้นามบริสุทธิ์ของเราเป็นที่เหยียดหยาม และถ้าราษฎรหลับหูหลับตา เรื่องชายคนที่ให้ลูกหลานแก่พระโมเลคนั้นเสีย ไม่ขว้างเขาให้ตาย เราจะหมายหน้าชายคนนั้น และสู้กับครอบครัวของเขา และอเปหิเขาเสียจากชนชาติของตน ทั้งตัวเขาก็ดีและผู้ใดที่ทำตาม เขาในการเล่นชู้กับพระโมเลคนั้นก็ดี
พระเจ้าฝ่ายสว่างของชาวยิวประณามโมเลค แต่ก็ยังมีชาวยิวที่นับถือโมเลค หรือพระเจ้าสายดำ
วิกิลีกส์ มีการเผยแพร่อีเมลของฮิลลารี คลินตันในสมัยที่เธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อชี้ให้เห็นว่าเธอมีการกระทำที่ไม่ดีไม่ชอบ หนึ่งในอีเมลลงวันที่ 31 กรกฎาคมปี 2015 เขียนโดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Tri เขียนฮิลลารีว่า: “With fingers crossed, the old rabbit’s foot out of the box in the attic, I will be sacrificing a chicken in the backyard to Moloch…” ซึ่งแปลความได้ว่า เขาเตรียมที่จะบูชายัญไก่ หรือ chicken อาจจะแปลความเป็นอย่างอื่นก็ได้ เพื่อสังเวยเทพเจ้าโมเลค
สงครามปาเลสไตน์ ซึ่งมีแนวโน้มจะพัฒนากลายเป็นสงครามภูมิภาค และสงครามโลกจะไม่จบลงไม่ได้ง่ายๆ ตราบใดที่เทพเจ้าโมเลคยังคงเรียกร้องการบูชายัญมากขึ้นเรื่อยๆ
คนส่วนมากจะอ่านข้อความนี้ผ่านไปว่า เป็นเพียงความเห็นอดีตประธานาธิบดีของรัสเซีย โดยไม่สะดุดใจกับคำว่าโมเลค (Moloch) หรือเทพเจ้าของพวกเคนาน ที่พวกยิวโบราณสมัยพระคัมภีร์เก่านับถือ และใช้เด็กบูชายัญให้เทพเจ้าองค์นี้
เมดเวเดฟเขียนชัดเจนว่าเทพเจ้าโมเลคเรียกร้องการบูชายัญมากขึ้นเรื่อยๆ สอดคล้องกับรายงานว่ามีเด็กปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วกว่า 3,000 จากการบอมบ์ฉนวนกาซาของกองทัพอิสราเอล เพื่อตอบโต้กลุ่มฮามาสที่เปิดฉากโจมตีอิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยที่อิสราเอลไม่ได้รู้สึกร้อนรู้สึกหนาวกับการตายของเด็กแม้แต่น้อย
Sanjana Karanth ผู้สื่อข่าวของ HUFFPOST รายงานว่า
จำนวนเด็กชาวปาเลสไตน์ที่ถูกสังหารในฉนวนกาซาในช่วง 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เกินจำนวนเด็กที่เสียชีวิตในเขตความขัดแย้งทั่วโลกอย่างเป็นทางการในแต่ละปีตั้งแต่ปี 2019 ตามรายงานของกลุ่มสิทธิมนุษยชน
นับตั้งแต่กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม และการตอบโต้อย่างต่อเนื่องของอิสราเอลต่อฉนวนกาซาที่กลุ่มฮามาสควบคุม มีรายงานว่ามีเด็กอย่างน้อย 3,257 รายถูกสังหาร ตามรายงานขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Save the Children จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในอิสราเอลและฉนวนกาซาตามลำดับ เด็กเหล่านั้น 29 คนถูกสังหารในอิสราเอล 33 คนในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง และ 3,195 คนในฉนวนกาซา
เพื่อเปรียบเทียบยอดผู้เสียชีวิตต่อปีของเด็กในความขัดแย้งทั่วโลกในปี 2022 อยู่ที่ประมาณ 3,000 ราย ในช่วง 3 สัปดาห์ จำนวนผู้เสียชีวิตของเด็กในฉนวนกาซาเกินจำนวนดังกล่าว และตัวเลขจริงในฉนวนกาซามีแนวโน้มสูงกว่านี้ โดยมีเด็กอีก 1,000 คนรายงานว่าสูญหายและมีแนวโน้มว่าจะถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง
ในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกปิดล้อม มีเด็กคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของประชากร และมากกว่า 40% ของผู้เสียชีวิตทั้งหมดในฉนวนกาซา ตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นในขณะที่กองทัพอิสราเอลเปิดปฏิบัติการภาคพื้นดินเข้าไปในดินแดนดังกล่าว ซึ่งนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าเป็น “ระยะที่สอง” ของการโจมตีประเทศนี้
กลุ่มสิทธิมนุษยชนเปรียบเสมือนการโจมตีฉนวนกาซาที่กำลังเกิดขึ้นกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หลายคนเรียกร้องให้หยุดยิง โดยสังเกตว่าการโจมตีทางอากาศ การปิดล้อม คำสั่งอพยพ และขณะนี้ปฏิบัติการภาคพื้นดินกำลังทำให้พลเรือนเสียชีวิตและทรมานจำนวนมาก
“ความรุนแรง 3 สัปดาห์ทำให้เด็กๆ ขาดครอบครัวและต้องทนทุกข์ทรมานในชีวิตในอัตราที่ไม่อาจจินตนาการได้ ตัวเลขดังกล่าวน่าสลดใจ และความรุนแรงไม่เพียงแต่ดำเนินต่อไปแต่ยังขยายวงกว้างขึ้นในฉนวนกาซาในขณะนี้ เด็กจำนวนมากยังคงตกอยู่ในความเสี่ยงร้ายแรง” เจสัน ลี ผู้อำนวยการองค์กร Save the Children ประจำประเทศในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง กล่าว
“การตายของเด็กคนหนึ่งนั้นมากเกินไป แต่สิ่งเหล่านี้ถือเป็นการละเมิดสัดส่วนที่ยิ่งใหญ่อย่างมาก การหยุดยิงเป็นวิธีเดียวที่จะรับประกันความปลอดภัยของพวกเขา” เขากล่าวต่อ “ประชาคมระหว่างประเทศต้องให้ผู้คนมาก่อนการเมือง ทุกๆ วันที่ใช้ในการโต้วาทีทำให้เด็กๆ เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ เด็กๆ จะต้องได้รับการคุ้มครองตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาแสวงหาความปลอดภัยในโรงเรียนและโรงพยาบาล”
ย้อนกลับไปในปี 1998 ผู้สื่อข่าวได้ตั้งคำถาม มาเดอลิน อัลไบรท์ (Madeline Albright) อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เป็นยิวอเมริกัน ในรายการ CBS News ว่า: “เราได้ยินว่าเด็กครึ่งล้านคนตายในอิรัก มันมากกว่าเด็กที่ตายในฮิโรชิมาเสียอีก คำถามคือมันคุ้มค่าหรือไม่”
อัลไบรท์ตอบว่า : “ฉันคิดว่ามันเป็นการเลือกที่ยากลำบาก แต่ฉันมันคุ้มค่า”
อัลไบรท์พูดหน้าตาเฉย โดยไม่มีอาการสะทกสะท้านกับการตายของเด็กอิรักครึ่งล้านคนที่เกิดจากการทำสงครามของสหรัฐฯ คล้ายกับผู้นำของอิสราเอลคนปัจจุบัน นายเบนจามิน เนทันยาฮู ที่ไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนกับการสูญเสียของชีวิตเด็กจำนวนมากผิดปกติในการทำสงครามกับปาเลสไตน์ ทั้งๆ ที่มีกระแสอย่างท่วมท้นจากนานาชาติผ่านมติของยูเอ็นให้ทุกฝ่ายหยุดยิง เพื่อเลี่ยงการสูญเสียของเด็ก ผู้หญิง และประชาชนผู้บริสุทธิ์ และเพื่อให้มีการช่วยเหลือทางมนุษยธรรม แต่เนทันยาฮูไม่ได้ใส่ใจในแรงกดดัน
นายเมดเวเดฟบอกเป็นนัยว่า มันเป็นการบูชายัญเด็กต่อเทพเจ้าโมเลค ที่กระหายเลือดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คล้ายกับว่ายังมีคนบูชาเทพเจ้าโมเลคอยู่
การบูชายัญเด็กต่อเทพเจ้าโมเลคเป็นพิธีกรรมของพวกเคนาน ซึ่งเป็นอาณาจักรของเผ่าพันธุ์ยิวเก่าแก่เผ่าพันธุ์หนึ่งที่อาศัยอยู่ในดินแดนปาเลสไตน์ในปัจจุบัน เคนานเป็นชื่อของลูกชายคนหนึ่งของแฮม ที่เป็นลูกของโนอาห์อีกต่อหนึ่ง
พระเจ้าได้บอกให้โนอาห์สร้างเรือเพื่อบรรทุกครอบครัว สัตว์และพืชพันธุ์ต่างๆ เพื่อพ้นภัยจากน้ำท่วมโลก ระหว่างอยู่บนเรือ โนอาห์นอนหลับกางเกงหลุดหลุ่ย เคนานเห็นปู่นอนแก้ผ้าอดไม่ได้ จึงเข้าไปกระทำชำเรา โนอาห์รู้ตัวตื่นขึ้นมา รู้สึกโกรธแค้นเคนานมาก สาปแช่งให้เคนานฉิบหาย
ผู้ที่สืบเชื้อสายจากเคนานจึงเป็นตัวแทนความชั่วร้ายของโลกตั้งแต่นั้นมา
ในพระคำภีร์ไบเบิลเก่า พระเจ้าพูดกับโมเสสในบทเลวีนิติ 18 ว่า: “ห้ามถวายลูกหลานของเจ้าให้โมเลคโดยให้ลุยไฟ ห้ามทำให้พระนามพระเจ้าของเจ้าเสื่อมเกียรติ เราคือยาห์เวห์”
ในบทเลวีนิติ 20: “โทษของการไม่เชื่อฟัง พระเจ้าตรัสกับโมเสสว่า จงกล่าวแก่คนอิสราเอลว่า คนอิสราเอลคนใดหรือคนต่างด้าวคนใดที่อาศัยอยู่ในอิสราเอล ผู้ที่มอบลูกหลานของตนให้แก่พระโมเลค ผู้นั้นต้องมีโทษถึงตาย ให้ราษฎรเอาหินขว้างเขาเสียให้ตาย 3 ตัวเราเองจะหมายหน้าผู้นั้นไว้ และจะอเปหิเขาจากท่ามกลางชนชาติของตน เพราะว่าเขาได้ให้ลูกของเขาคนหนึ่งแก่พระโมเลค กระทำให้สถานศักดิ์สิทธิ์ของเราเป็นมลทิน และกระทำให้นามบริสุทธิ์ของเราเป็นที่เหยียดหยาม และถ้าราษฎรหลับหูหลับตา เรื่องชายคนที่ให้ลูกหลานแก่พระโมเลคนั้นเสีย ไม่ขว้างเขาให้ตาย เราจะหมายหน้าชายคนนั้น และสู้กับครอบครัวของเขา และอเปหิเขาเสียจากชนชาติของตน ทั้งตัวเขาก็ดีและผู้ใดที่ทำตาม เขาในการเล่นชู้กับพระโมเลคนั้นก็ดี
พระเจ้าฝ่ายสว่างของชาวยิวประณามโมเลค แต่ก็ยังมีชาวยิวที่นับถือโมเลค หรือพระเจ้าสายดำ
วิกิลีกส์ มีการเผยแพร่อีเมลของฮิลลารี คลินตันในสมัยที่เธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อชี้ให้เห็นว่าเธอมีการกระทำที่ไม่ดีไม่ชอบ หนึ่งในอีเมลลงวันที่ 31 กรกฎาคมปี 2015 เขียนโดยเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ คนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า Tri เขียนฮิลลารีว่า: “With fingers crossed, the old rabbit’s foot out of the box in the attic, I will be sacrificing a chicken in the backyard to Moloch…” ซึ่งแปลความได้ว่า เขาเตรียมที่จะบูชายัญไก่ หรือ chicken อาจจะแปลความเป็นอย่างอื่นก็ได้ เพื่อสังเวยเทพเจ้าโมเลค
สงครามปาเลสไตน์ ซึ่งมีแนวโน้มจะพัฒนากลายเป็นสงครามภูมิภาค และสงครามโลกจะไม่จบลงไม่ได้ง่ายๆ ตราบใดที่เทพเจ้าโมเลคยังคงเรียกร้องการบูชายัญมากขึ้นเรื่อยๆ