รอยเตอร์ - กองทัพอิสราเอลส่งทหารและยานยนต์หุ้มเกราะบุกตะลุยกาซา ควบคู่กับการโจมตีทางอากาศในวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) ตามที่เนทันยาฮูประกาศว่า เป็นเฟส 2 ของสงครามบดขยี้ฮามาส ขณะที่ประชาชนในกาซาที่ถูกปิดล้อมแทบจะถูกตัดขาดจากระบบสื่อสารและอินเทอร์เน็ตโดยสิ้นเชิง
ระหว่างการแถลงข่าวที่เทลอาวีฟเมื่อวันเสาร์ (28 ต.ค.) นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอล แจ้งให้ประชาชนเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการทางทหารที่ยาวนานและยากลำบาก โดยหลีกเลี่ยงการใช้คำว่า “รุกราน” สำหรับการบุกเข้าสู่ฉนวนกาซาในขณะนี้
เนทันยาฮู สำทับว่า นี่เป็นขั้นตอนที่ 2 ของสงครามที่มีเป้าหมายชัดเจนคือการทำลายศักยภาพในการปกครองและการทหารของฮามาส และนำตัวประกันกลับบ้าน และสำทับว่า การติดต่อเพื่อช่วยเหลือตัวประกันยังคงดำเนินอยู่ระหว่างปฏิบัติการภาคพื้นดิน และการกดดันทางทหารต่อฮามาสอาจช่วยให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัว
อิสราเอลปิดกั้นเบ็ดเสร็จและโจมตีทางอากาศต่อกาซามาตลอด 3 สัปดาห์นับจากกลุ่มนักรบฮามาสบุกข้ามพรมแดนเข้าไปโจมตีและสังหารชาวอิสราเอลอย่างน้อย 1,400 คน เมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของอิสราเอล นอกจากนั้น ฮามาสยังจับตัวประกันกว่า 200 คนกลับไปยังกาซา
รัฐบาลชาติตะวันตกต่างสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง ขณะที่นานาชาติไม่พอใจมากขึ้นเนื่องจากมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากจากการทิ้งระเบิด และเรียกร้องการหยุดเพื่อมนุษยธรรมเพื่อให้จัดส่งความช่วยเหลือให้แก่พลเรือนในกาซาและบรรเทาวิกฤตมนุษยธรรมในดินแดนดังกล่าว โดยในวันเสาร์มีผู้คนนับแสนชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์ในเมืองต่างๆ ทั่วยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชีย ด้านหน่วยงานการแพทย์ในฉนวนกาซาที่มีประชากร 2.3 ล้านคน ระบุว่า ชาวปาเลสไตน์ 7,650 คนเสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล
ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ที่เป็นผู้นำรัฐบาลปาเลสไตน์ที่ปกครองดินแดนบางส่วนในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ ขณะที่ฮามาสปกครองกาซา กล่าวว่า ชาวปาเลสไตน์ในกาซากำลังเผชิญสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการสังหารหมู่โดยกองกำลังอิสราเอลผู้ยึดครองต่อหน้าต่อตาชาวโลก
ท่ามกลางตึกรามบ้านช่องที่ถูกทำลายเหลือเพียงซากปรักหักพังและไม่มีที่หลบภัย ชาวกาซายังขาดแคลนน้ำ อาหาร เชื้อเพลิง และยา ชะตากรรมของคนเหล่านี้ยิ่งเลวร้ายลงเมื่อบริการโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตถูกตัดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ต.ค.) จากการโจมตีทางอากาศอย่างรุนแรงตลอดคืน และการสื่อสารยังคงใช้การไม่ได้จนถึงวันอาทิตย์
หัวหน้าโฆษกกองทัพอิสราเอลปฏิเสธที่จะระบุว่า อิสราเอลอยู่เบื้องหลังสถานการณ์ดังกล่าวหรือไม่ แต่บอกว่า กองทัพจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องทหาร
อีลอน มัสก์ นักธุรกิจและมหาเศรษฐีอเมริกัน เสนอใช้เครือข่ายดาวเทียมสตาร์ลิงก์ของบริษัทสเปซเอ็กซ์ของตน สนับสนุนการสื่อสารในกาซาสำหรับองค์กรบรรเทาทุกข์ที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ แต่ถูกอิสราเอลตอบโต้ว่า ฮามาสจะฉวยโอกาสใช้ระบบดังกล่าวเพื่อกิจกรรมก่อการร้าย นอกจากนั้นเมื่อคืนวันศุกร์ อิสราเอลยังส่งทหารและรถถังเข้าสู่กาซาโดยมุ่งโจมตีโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงเครือข่ายอุโมงค์ของฮามาส
เนทันยาฮูย้ำในวันต่อมาว่า อิสราเอลเรียกร้องให้พลเรือนปาเลสไตน์อพยพออกจากด้านเหนือของกาซาที่เป็นเป้าหมายการโจมตีของกองทัพยิวเนื่องจากเป็นแหล่งกบดานของฮามาส ทว่า ชาวปาเลสไตน์เผยว่า อิสราเอลระดมถล่มบ้านเรือนประชาชนทางใต้ของกาซาเช่นเดียวกัน
แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า หายนะด้านมนุษยชนกำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาชาวโลก ขณะเดียวกัน การเจรจาระหว่างอิสราเอลกับฮามาสที่มีกาตาร์เป็นตัวกลางยังคงดำเนินต่อไปแต่ช้าลงกว่าก่อนที่อิสราเอลจะโจมตีกาซาหนักหน่วงเมื่อวันศุกร์
ด้านฝ่ายติดอาวุธของฮามาสเผยว่า นักรบของกลุ่มได้ต่อสู้กับทหารอิสราเอลทางเหนือและตอนกลางของกาซา และสำทับว่า กองพลน้อยอัล-กัสซัม และกองกำลังต่อต้านทั้งหมดของปาเลสไตน์เตรียมพร้อมเต็มอัตราศึกในการเผชิญหน้าและขับไล่ผู้รุกราน
ทางฝ่ายอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ เรียกร้องให้อิสราเอลชะลอการเปิดฉากบุกภาคพื้นดินครั้งใหญ่เนื่องจากกลัวว่าจะทำให้ชาวปาเลสไตน์จำนวนมากบาดเจ็บล้มตายและความขัดแย้งลุกลามออกไป รวมทั้งเพื่อขยายเวลาในการเจรจาปล่อยตัวประกัน กระนั้น เจ้าหน้าที่อเมริกันย้ำว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของอิสราเอล
