กองทัพอิสราเอลยกระดับการโจมตีกาซา อาหรับชี้ผู้นำโลกไม่จริงใจแก้ปัญหาถาวร

เอเอฟพี - กองทัพอิสราเอลประกาศยกระดับการโจมตีกาซาเมื่อวันเสาร์ (21 ต.ค.) เพื่อลดความเสี่ยงก่อนส่งทหารเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวและเริ่มสงครามเฟสใหม่ ขณะที่ซัมมิตสันติภาพในไคโรจบลงโดยปราศจากแถลงการณ์ร่วม หลังตะวันตกต้องการให้ประณามฮามาส แต่อาหรับไม่เห็นด้วยและร่วมกันออกแถลงการณ์วิจารณ์ผู้นำโลกว่า พยายามแก้ปัญหาชั่วคราว แต่ไม่คิดทำให้ความขัดแย้งนี้จบลงอย่างถาวร

พล.ร.อ.แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลแถลงว่า นับจากวันเสาร์ อิสราเอลจะเพิ่มการโจมตีและลดความเสี่ยง ด้าน พล.ท.เฮอร์ซี ฮาเลวี เสนาธิการทหารอิสราเอล กล่าวระหว่างเยี่ยมกองพลทหารราบที่ประจำอยู่ในแนวรบว่า กองทัพอิสราเอลต้องเข้าสู่สงครามเฟสใหม่ในสภาวะที่ดีที่สุดโดยไม่คำนึงถึงคำพูดของผู้อื่น และขณะนี้ทหารพร้อมแล้วที่จะจัดการเหตุการณ์น่าประหลาดใจใดๆ จากฮามาสในกาซา

ทั้งนี้ ฮามาสเปิดฉากบุกสายฟ้าแลบเข้าสู่อิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมา และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1,400 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือนที่ถูกยิง ตัดแขนตัดขา เผาทั้งเป็น และจับตัวประกันกลับไปกาซากว่า 200 คน

นับจากนั้นอิสราเอลระดมโจมตีกาซาต่อเนื่องที่ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 4,300 คน ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน อีกทั้งยังปิดกั้นกาซาเบ็ดเสร็จ และระดมทหารนับหมื่นใกล้ชายแดนเพื่อเตรียมการบุกภาคพื้นดิน

หลังการแถลงของกองทัพอิสราเอลไม่กี่ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า รถบรรทุก 20 คันจากสภาเสี้ยววงเดือนแดงอียิปต์ได้ผ่านจุดผ่านแดนราฟาห์เข้าสู่ฉนวนกาซา และจุดผ่านแดนดังกล่าวซึ่งเป็นจุดผ่านแดนเดียวที่เข้าสู่กาซาและไม่ได้อยู่ในความควบคุมของอิสราเอล ได้ปิดลงอีกครั้ง

แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ความช่วยเหลือเหล่านั้นน้อยกว่าที่พลเรือนในกาซาต้องการมาก และกล่าวกับที่ประชุมสุดยอดในอียิปต์ว่า จำเป็นต้องส่งความช่วยเหลือเพิ่มเติมให้ชาวกาซา

หน่วยงาน 5 แห่งในสังกัดยูเอ็น ซึ่งรวมถึงกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) และองค์การอนามัยโลก (ฮู) ขานรับว่า โลกต้องพยายามมากกว่านี้

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความยินดีกับความช่วยเหลือดังกล่าว และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายทำให้จุดผ่านแดนราฟาห์เปิดให้ลำเลียงความช่วยเหลือได้ต่อไป

โฆษกฮามาสระบุว่า ขบวนความช่วยเหลืออีกนับสิบคันยังไม่เพียงพอตอบสนองความต้องการของกาซา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชื้อเพลิงที่ไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งเข้าสู่ดินแดนนี้

ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ของอียิปต์ ที่เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดเพื่อสันติภาพซึ่งมีผู้นำภายในภูมิภาคและผู้นำตะวันตกบางชาติเข้าร่วม ระบุว่า ถึงเวลาที่ต้องลงมือทำเพื่อยุติฝันร้ายที่น่าสยดสยองนี้ และเรียกร้องการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม และสำทับว่า ความคับข้องใจของชาวปาเลสไตน์เป็นสิ่งที่ชอบธรรมและคงอยู่มาเนิ่นนานหลังจากการยึดครองที่ดำเนินมา 56 ปียังไม่มีวี่แววสิ้นสุดลง

ผู้นำไคโรเสริมว่า ฮามาสไม่มีเหตุผลชอบธรรมในการโจมตีที่คุกคามพลเรือนอิสราเอล แต่ขณะเดียวกันการโจมตีเหล่านั้นก็ไม่ใช่เหตุผลที่อิสราเอลจะลงโทษชาวปาเลสไตน์แบบเหมารวม

นักการทูตอาหรับที่ไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อบอกว่า การประชุมยุติลงโดยไม่มีแถลงการณ์ร่วม ตอกย้ำความไม่ลงรอยระหว่างอาหรับกับตะวันตกเกี่ยวกับวิธีการที่ดีที่สุดในการสร้างสันติภาพยืนยาวระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ โดยตัวแทนจากตะวันตกเรียกร้องการประณามฮามาสว่า เป็นต้นเหตุของสถานการณ์ความรุนแรงนี้ แต่ผู้นำอาหรับปฏิเสธ

นอกจากนั้น อียิปต์ในฐานะเจ้าภาพได้ออกแถลงการณ์ซึ่งได้รับอนุมัติจากผู้แทนชาติอาหรับ โดยวิจารณ์ผู้นำโลกว่า พยายามแก้ไขปัญหาชั่วคราวและประคับประคองสถานการณ์ แต่ไม่คิดทำให้ความขัดแย้งนี้จบลงอย่างถาวร

ทางด้านกระทรวงต่างประเทศอิสราเอลออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า แม้มีการโจมตีอย่างโหดร้ายของฮามาส แต่ยังมีผู้นำบางคนมีปัญหาในการประณามการก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความขัดแย้งเหล่านี้ วันศุกร์ที่ผ่านมา (20 ต.ค.) ฮามาสได้ปล่อยตัวประกันสองแม่ลูกชาวอเมริกัน และประธานาธิบดีโจ ไบเดน แถลงขอบคุณกาตาร์ที่ช่วยเจรจาจนบรรลุผล

ทางฝ่ายฮามาสเผยว่า อียิปต์และกาตาร์ร่วมกันเจรจาจนนำไปสู่การปล่อยตัวประกัน พร้อมยืนยันว่า กำลังร่วมมือกับผู้ไกล่เกลี่ยทั้งหมดเพื่อดำเนินการปล่อยตัวประกันที่เป็นพลเรือนหากสถานการณ์เอื้ออำนวย