รอยเตอร์ – ฮามาสปล่อยผู้หญิงอิสราเอลอีก 2 คนจากตัวประกันทั้งหมดกว่า 200 คนที่ถูกจับระหว่างการบุกโจมตียิวเมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมา ขณะที่แหล่งข่าวเผยอเมริกาแนะนำให้อิสราเอลชะลอการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่ฉนวนกาซาไว้ก่อนเพื่อขอเวลาเจรจาปล่อยตัวประกัน
อาบู อูไบดา โฆษกฝ่ายติดอาวุธของกลุ่มนักรบฮามาส โพสต์บนเทเลแกรมเมื่อวันจันทร์ (23 ต.ค.) ว่า ตัดสินใจปล่อยตัวประกันสองคนด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมและสุขภาพ
ทางด้านสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงยืนยันว่า กองทัพอิสราเอลได้รับตัวผู้หญิง 2 คนคือ นูริต คูเปอร์ วัย 79 ปี และโยเชเวด ลิฟชิตซ์ วัย 85 ปี แล้วและจะนำส่งโรงพยาบาลต่อไป
ผู้หญิงทั้งคู่ถูกจับตัวไปจากคิบบุต นีร์ ออซ ใกล้ชายแดนกาซา พร้อมกับสามีที่ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมตัวของฮามาส
เมื่อวันศุกร์ (20 ต.ค.) ฮามาสได้ปล่อยตัวผู้หญิงอเมริกันและลูกสาว และทั้งสี่คนนี้ถูกจับระหว่างที่นักรบฮามาสบุกข้ามแดนโจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ที่มีการสังหารเหยื่อ 1,400 คน
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวสองคนเผยว่า แม้อเมริกันประกาศเปิดเผยว่า สนับสนุนสิทธิ์ในการป้องกันตนเองของอิสราเอล แต่ทำเนียบขาว กระทรวงกลาโหม และกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังพยายามขอร้องเป็นการส่วนตัวให้อิสราเอลดำเนินการอย่างรอบคอบ
เป้าหมายสำคัญอันดับแรกของอเมริกาคือ ขอเวลาเจรจาเพื่อให้ฮามาสยอมปล่อยตัวประกันอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากจูดิธ และนาตาลี รานาน สองแม่ลูกชาวอเมริกัน ได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวก่อนที่จะมีการปล่อยตัวประกันรอบล่าสุด
เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการหยุดยิง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตอบว่า ต้องรอให้ฮามาสปล่อยตัวประกันก่อนจึงจะเริ่มการเจรจาได้
ขณะเดียวกัน อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายหลายร้อยจุดในกาซาเมื่อวันจันทร์ ขณะที่ทหารยิวต่อสู้กับนักรบฮามาสระหว่างบุกเข้าสู่ฉนวนกาซาที่มีผู้บาดเจ็บล้มตายเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และพลเรือนถูกปิดล้อมเบ็ดเสร็จ
กระทรวงสาธารณสุขกาซาเผยว่า มีผู้เสียชีวิต 436 คนจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในช่วง 24 ชั่วโมงจนถึงวันจันทร์ ส่วนใหญ่ในพื้นที่ทางใต้ของฉนวนกาซาที่กองทัพอิสราเอลระดมพลและอาวุธซึ่งเป็นไปได้ว่า เตรียมบุกภาคพื้นดิน
กองทัพอิสราเอลเผยว่า โจมตีเป้าหมายกว่า 320 จุดในกาซาในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงอุโมงค์ที่นักรบฮามาสกบดาน ศูนย์บัญชาการ หน่วยเฝ้าระวัง ตลอดจนถึงที่ตั้งปืนครกและแท่นยิงจรวดต่อต้านรถถัง
ปฏิบัติการของอิสราเอลมีเป้าหมายในการล้างแค้นการโจมตีของฮามาสเมื่อวันที่ 7 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ 75 ปีของอิสราเอล
ขณะที่ประชาชน 2.3 ล้านคนในกาซาขาดแคลนสิ่งของจำเป็นพื้นฐาน ผู้นำยุโรปเริ่มคล้อยตามสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และชาติอาหรับในการเรียกร้องการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมเพื่อส่งความช่วยเหลือให้ชาวปาเลสไตน์
วันจันทร์ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า ผู้แทนพิเศษของอเมริกากำลังเจรจากับอิสราเอล อียิปต์ และยูเอ็น เพื่อสร้างกลไกการจัดส่งความช่วยเหลืออย่างยั่งยืนเข้าสู่กาซา หลังจากขบวนรถบรรเทาทุกข์เริ่มข้ามแดนจากอียิปต์เข้าสู่ฉนวนกาซา ยูเอ็นยังระบุว่า ชาวกาซาไม่มีที่หลบภัยจากระเบิดที่อิสราเอลทิ้งปูพรมไม่หยุดหย่อน
นอกจากนั้นความขัดแย้งนี้ยังลุกลามออกนอกกาซา โดยเครื่องบินอิสราเอลโจมตีที่มั่นของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งนักรบกลุ่มนี้เป็นพันธมิตรกับอิหร่านเช่นเดียวกับฮามาส กองทัพอิสราเอลยังปะทะกับชาวปาเลสไตน์ในเขตยึดครองเวสต์แบงก์ และฮามาสยิงจรวดโจมตีอิสราเอลมากขึ้น
กระทรวงสาธารณสุขกาซาเผยว่า ระหว่างสองสัปดาห์ของความขัดแย้ง ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 5,087 คน ซึ่งรวมถึงเด็ก 2,055 คน
ขณะเดียวกัน ตำรวจและหน่วยข่าวกรองชินเบ็ตของอิสราเอลได้เผยแพร่คลิปการสอบปากคำมือปืนฮามาสที่มีส่วนในการบุกโจมตีเมื่อวันที่ 7 ซึ่งบางคนสารภาพว่า ได้รับคำสั่งให้ฆ่าผู้ชายยิว และจับผู้หญิง เด็ก และคนแก่เป็นตัวประกัน และมือปืนอีกคนเล่าว่า ได้รับการบอกเล่าว่า ถ้าจับตัวประกันได้จะได้รางวัลเป็นบ้านหลังใหม่พร้อมเงิน 10,000 ดอลลาร์