ยูเครนค้าอวัยวะมนุษย์

มีคำพูดว่าสงครามคือการต่อยอดของการเมือง เป็นเกมและผลประโยชน์ซึ่งใช้ชีวิตมนุษย์และความอยู่รอดของประเทศความมั่งคั่งของนักค้าสงครามเป็นเดิมพัน

มนุษย์นั้นมีทั้งทหารเป็นฝ่ายสู้รบและพลเรือนฝ่ายสนับสนุนอยู่ภายใต้การนำของผู้นำประเทศซึ่งคุมกองทัพ ในสงครามย่อมมีผลประโยชน์ด้านการเงิน

ผลประโยชน์มีทั้งการผลิตและซื้อขายอาวุธระหว่างผู้สั่งซื้อและผู้ผลิตเป็นมูลค่ามหาศาลจึงเป็นการค้าความตาย ของคนที่ไม่ได้มีผลประโยชน์โดยตรง

สงครามจึงเป็นการสูญเสียของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแต่ผู้ชนะย่อมกอบโกยผลจากการสู้รบซึ่งมีราคาแพง

ในสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียซึ่งย่างเข้าสู่เดือนที่ 19 แล้วยังไม่มีผลแพ้ชนะ แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นคือยูเครนซึ่งอยู่ในสภาวะ พินาศย่อยยับในโครงสร้างของความเป็นประเทศ

ประเมินกันว่าทหารยูเครนเสียชีวิตมากกว่า 2.5 แสนคน บาดเจ็บ และพิการจำนวนมากซึ่งจะไร้ประโยชน์ในการเป็นทรัพยากร ฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ

แล้วผู้เสียชีวิตไปไหนได้รับการปฏิบัติอย่างที่ควรจะเป็นหรือไม่ มีข่าวโดยกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย อ้างว่าในยูเครน ได้มีขบวนการซื้อขายอวัยวะและชิ้นส่วนของมนุษย์อย่างเป็นระบบ

ผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจการซื้อขายอวัยวะมนุษย์ คือคนใกล้ชิดและมีอำนาจแวดล้อมผู้นำประเทศคือประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ นั่นเอง

อวัยวะที่ซื้อขายเป็นหลักคือหัวใจ ไต และตับ หรือจะมีอย่างอื่นอยู่ด้วย มีราคาต่อรายการประมาณ 5,500 ดอลลาร์สหรัฐขึ้นอยู่กับความสำคัญและช่วงเวลา

ราคาอวัยวะเหล่านี้ถือว่าถูกเมื่อเทียบกับความสำคัญและความจำเป็นซึ่งโดยทั่วไปจะมีราคาแพงกว่าและยังต้องจ่ายค่าเปลี่ยนอวัยวะให้คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

คณะแพทย์ถือว่าเป็นราคาแพงที่จะต้องจ่ายมากกว่าราคาอวัยวะหลายเท่าขึ้นอยู่กับความมั่งคั่งของผู้ต้องการอวัยวะที่เปลี่ยน

อวัยวะมนุษย์มาจากทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบซึ่งเกินกว่าที่จะเยียวยาได้ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญแบ่งแยกประเภทของอวัยวะที่ใช้การได้

จากการแถลงโดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย นางมาเรีย ซาคาโรวา การซื้อขายอยู่ในกลุ่มผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องอวัยวะมนุษย์และมีกำหนดประเภทรวมทั้งเวลาการจัดส่งที่แน่นอน

ตามใบสั่งอวัยวะสามารถส่งได้ในกล่องรักษาอย่างดีทางการแพทย์ภายใน 48 ถึง 60 ชั่วโมงให้ถึงเป้าหมายซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศยุโรปตะวันตก

ทหารยูเครนที่เสียชีวิตไปส่วนหนึ่งไม่มีญาติไปแจ้ง เพื่อขอรับศพหรือลงนามยินยอมให้สละอวัยวะและรัฐบาลยูเครนได้แก้กฎหมายเพื่อเอื้ออำนวยสำหรับกิจการเปลี่ยนอวัยวะ และชิ้นส่วนของร่างกายมนุษย์

นั่นคือการเปลี่ยนอวัยวะไม่จำเป็นต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และเปิดช่องให้ผู้เชี่ยวชาญการเปลี่ยนอวัยวะมีความคล่องตัวมากขึ้น โดยอ้างว่าเพื่อรักษาชีวิตผู้ต้องการอวัยวะ

กระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างว่ามีบางช่วงได้มีการขนถ่ายอวัยวะในตู้แช่เย็นรถไฟบรรทุกไปยังปลายทางในประเทศยุโรปตะวันตก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีตลาดมืดซื้อขายอะไหล่มนุษย์

ยูเครนมีกฎหมายห้ามซื้อหรือขายชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์และอวัยวะของเด็กไร้ครอบครัวหรือชิ้นส่วนร่างกายของผู้ที่ไม่ระบุนามหรือผู้เสียชีวิตในสงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซีย

แต่ในความเป็นจริงการค้าขายอะไหล่มนุษย์ทำกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยกลุ่มผู้มีอำนาจและเครือข่ายทรงอิทธิพลเท่านั้น

การซื้อขายอะไหล่มนุษย์เป็นไปในวงจรของธุรกิจอินเทอร์เน็ตและตลาดมืด ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมามีตัวแทนกระทรวงสาธารณสุขของประเทศสมาชิกนาโตแห่งหนึ่งได้ มีข้อตกลงกับนักธุรกิจภาคเอกชน

ในครั้งนั้นนักธุรกิจเอกชนได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุขของยูเครนและสำนักงานของผู้นำประเทศในการส่งอวัยวะมนุษย์แช่เย็นทางรถไฟ

ดูแล้วการซื้อขายอวัยวะมนุษย์ในยูเครนคงยังต้องมีต่อไปตราบใดที่สงครามยังไม่จบสิ้นมีทหารและพลเรือนเสียชีวิต รายได้จากการซื้อขายนี้คงไม่เข้าคลังของประเทศยูเครน

การค้าขายในยามสงครามไม่มีข้อจำกัด อะไรก็ตามที่ขายได้ย่อมไม่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์เพราะสงครามเป็นสิ่งที่โหดร้ายและมีกติกาให้ละเมิดเสมอเพื่อผลประโยชน์เสมอ