ปูตินตรวจพลสวนสนามทางทะเล ซึ่งมีทั้งขบวนเรือรบและเรือดำน้ำนิวเคลียร์ ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก พร้อมประกาศกองทัพเรือรัสเซียจะมีเรือใหม่เสริมทัพ 30 ลำในปีนี้ ยันไม่ปิดกั้นการเจรจาสันติภาพ แต่ติดที่ยูเครนไม่ยอมหยุดยิง ขณะเดียวกัน รัสเซียเผยสามารถสกัดการโจมตีด้วยโดรนของเคียฟทั้งในกรุงมอสโก และที่คาบสมุทรไครเมีย ด้านยูเครนบอกมอสโกยิงจรวดถล่มเมืองซูมี ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 1 บาดเจ็บอีก 5 คน
ทำเนียบเครมลินระบุว่า มีเรือรบ เรือดำน้ำ และเรืออื่นๆ รวม 45 ลำเข้าร่วมในพิธีตรวจพลสวนสนามทางทะเลเนื่องในวันกองทัพเรือของรัสเซีย ในวันอาทิตย์ (30 ก.ค.) ปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในอ่าวฟินแลนด์ และแม่น้ำเนวา ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก นอกจากนั้นยังมีทหารเรือราว 3,000 นายร่วมการตรวจพลสวนสนามครั้งนี้
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน พร้อม เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหม และพลเรือเอกนิโคไล เยฟเมนอฟ ผู้บัญชาการทหารเรือ ขึ้นเรือตรวจการณ์แล่นตรวจพลในแม่น้ำเนวา ก่อนกล่าวปราศรัยว่า วันนี้รัสเซียเสร็จสิ้นภารกิจขนาดใหญ่ด้านนโยบายทางทะเลแห่งชาติและเสริมสร้างความแข็งแกร่งของกองทัพเรืออย่างต่อเนื่อง เฉพาะปีนี้จะมีเรือใหม่เข้าสู่ประจำการเพิ่มอีก 30 ลำ
เครมลินเสริมว่า ประมุข 4 ชาติและตัวแทนอีก 5 ชาติจากแอฟริกาเข้าร่วมงานวันกองทัพเรือของรัสเซียครั้งนี้ด้วย หลังจากบุคคลเหล่านี้ได้รับเชิญร่วมประชุมสุดยอดรัสเซีย-แอฟริกาในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กที่สิ้นสุดลงเมื่อวันศุกร์ (28) ซึ่งมีการหารือเกี่ยวกับการจัดหาธัญพืช รวมถึงแนวโน้มการเจรจาสันติภาพในยูเครน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ปูตินกล่าวเมื่อวันเสาร์ (29 ) ว่า แผนการริเริ่มของแอฟริกาอาจเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับสันติภาพในยูเครน แต่ติดที่ประเด็นการหยุดยิงซึ่งรัสเซียคงไม่สามารถปฏิบัติตามได้ เนื่องจากขณะนี้ยูเครนกำลังระดมโจมตีตามแผนรุกตอบโต้ใหญ่เชิงยุทธศาสตร์ และย้ำว่า รัสเซียไม่ปฏิเสธการเริ่มต้นการเจรจาสันติภาพ แต่ขั้นตอนนี้จะเป็นไปได้ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกัน
ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ได้ปฏิเสธแนวคิดในการหยุดยิงในขณะนี้ซึ่งรัสเซียยังคงควบคุมดินแดนในยูเครนถึงเกือบ 1 ใน 5 และมองว่า การหยุดยิงจะทำให้มอสโกมีเวลาระดมพลทำสงครามต่อ
ในอีกด้านหนึ่ง มีรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียมีแผนจัดการประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางสันติภาพในยูเครนที่เมืองเจดดาห์ โดยเชิญตัวแทนจากยูเครน มหาอำนาจตะวันตก และพวกประเทศกำลังพัฒนา ทว่าไม่มีรัสเซีย สืบเนื่องจากรัสเซียไม่ได้เข้าร่วมการหารือในลักษณะเดียวกันนี้ที่จัดขึ้นที่โคเปนเฮเกนเมื่อเดือนมิถุนายน
ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า สามารถยิงโดรนยูเครน 3 ลำที่พยายามโจมตีมอสโกตกเมื่อเช้าวันอาทิตย์ และเซียร์เก ซอบยานิน นายกเทศมนตรีมอสโก เผยว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่อาคารสำนักงาน 2 แห่งในย่านธุรกิจมอสกวา-ซิตี้ได้รับความเสียหายเล็กน้อย
สื่อรัสเซียรายงานว่า บริเวณดังกล่าวอยู่ห่างจากเครมลินหลายกิโลเมตร และเป็นที่ตั้งอาคารสมัยใหม่สูงเสียดฟ้า โดยหนึ่งในอาคารที่ได้รับความเสียหายเป็นที่ตั้งกระทรวง 3 แห่ง และอพาร์ตเมนต์พักอาศัย
สำนักข่าวทาสส์ยังรายงานว่า สนามบินนูโคโวในมอสโกระงับเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกช่วงสั้นๆ สืบเนื่องจากเหตุโจมตีดังกล่าว
การที่โดรนยูเครนเข้าถึงใจกลางเมืองหลวงของรัสเซียมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แม้ไม่ได้สร้างความเสียหายใหญ่โต แต่ก็ทำให้เจ้าหน้าที่รัสเซียกระอักกระอ่วนใจ ขณะที่ยืนยันกับประชาชนว่า รัสเซียสามารถควบคุม “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร” ต่อยูเครนได้ทั้งหมด
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากรัสเซียเผยว่า ยูเครนพยายามโจมตีมอสโกด้วยโดรน 2 ลำเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (24 ก.ค.) โดยโดรนลำหนึ่งถูกสอยตกใกล้อาคารบัญชาการของกระทรวงกลาโหม และรัสเซียประกาศตอบโต้ยูเครนขั้นรุนแรง
หลังเหตุการณ์นั้น รองนายกรัฐมนตรีมิไคโล เฟโดรอฟของยูเครน ประกาศว่า จะมีการโจมตีมอสโกด้วยโดรนเกิดขึ้นอีก
นอกจากนั้น กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังแถลงว่า ได้ขัดขวางการโจมตีคาบสมุทรไครเมียเมื่อคืนวันเสาร์ โดยยิงหรือบังคับโดรนทั้ง 25 ลำของยูเครนโหม่งพื้น และเสริมว่า ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเกิดความเสียหายใดๆ
ทางด้านกระทรวงมหาดไทยยูเครนกล่าวหาว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธลูกหนึ่งถล่มสถาบันการศึกษาในเมืองซูมีทางตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิต 1 คน และบาดเจ็บอีก 5 คนเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)
