ผลของการปฏิบัติการตีโต้รัสเซียยกแรกโดยกองกำลังของยูเครนไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควรทั้งยังสูญเสียทหารอาวุธจำนวนมาก ทำพันธมิตร ฝ่ายสหรัฐฯ และโลกตะวันตกเริ่มท้อ
ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าสงครามครั้งนี้จะต้องสู้รบกันอีกนานเท่าไหร่ สหรัฐฯ จะต้องทุ่มเงินอีกมากน้อยแค่ไหนขณะที่เศรษฐกิจของประเทศก็มีปัญหาเรื้อรัง
แต่ยูเครนมีข้ออ้างว่ามีความล่าช้าในการส่งอาวุธให้ยูเครนและที่ส่งมาจำนวนก็ไม่มากเพียงพอที่จะใช้ได้อย่างเต็มที ทั้งยังมีเรื่องปัญหาการคอร์รัปชันผู้มีอิทธิพลเอาอาวุธไปขาย
ถึงอย่างไรก็ตามฝ่ายสหรัฐฯ อ้างว่ายูเครนยังมีโอกาสชนะศึกถ้าได้รับการฝึกฝนอย่างเพียงพอและมีกองกำลัง ทหารระดม ได้มากแต่ต้องมีอาวุธมากเช่นกัน
สหรัฐฯ และพันธมิตรในยุโรปย่อมรู้ว่าขีดความสามารถของรัสเซียมีเหนือยูเครนมาก แต่ก็เชื่อว่าจะไม่สามารถต้านมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจได้
ทั้งหวังว่าถ้ารัสเซียมีปัญหาเศรษฐกิจก็จะไม่สามารถสู้รบยืนระยะได้ยาวนานถ้าขาดเงิน แต่รัสเซียสามารถขายน้ำมันจำนวนมากให้จีนและอินเดียจนเป็นรายได้หลัก
ที่สำคัญรัสเซีย ได้ทำให้หลายประเทศมาเป็นมิตรโดยเฉพาะในทวีปแอฟริกา ละตินอเมริกา และตะวันออกกลางบั่นทอน เครือข่ายมิตรภาพของสหรัฐฯ และเงินดอลลาร์ในตลาดค้าน้ำมันดิบ
นายเจค ซัลลิแวน (Jake Sullivan) ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเป็นผู้ประเมินผลการรบซึ่งย้ำว่าทหารยูเครนสูญเสียมากเหลือเกิน
นายซัลลิแวน จัดว่าเป็นสายเหยี่ยว ต่อต้านรัสเซียและสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่ตั้งแต่เป็นทีมงานของโจ ไบเดนเมื่อตอนเป็นรองประธานาธิบดี
การระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม ใต้ทะเลบอลติกในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ก็เป็นผลงานการขับเคลื่อนของนายซัลลิแวนและทีมงานซีไอเอ
การสู้รบที่ผ่านมายูเครนได้เสียพื้นที่ประมาณ 25% ทำให้รัสเซียครอบครองพื้นที่อุดมสมบูรณ์และภาคอุตสาหกรรมซึ่งถือว่ามีมูลค่าสูงด้านเศรษฐกิจ
สถานการณ์ปัจจุบันยูเครนได้สูญเสียอย่างมากด้านศูนย์รวมสาธารณูปโภค ระบบป้องกันภัยทางอากาศรวมถึงขีดความสามารถในการส่งครับเพราะกองทัพอากาศถูกทำลายจนแทบไม่เหลือ
ยูเครนต้องร้องขอความช่วยเหลือด้านอาวุธและการเงินจากสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศพันธมิตรนาโต ซึ่งส่งผลให้คลังแสงในแต่ละประเทศพร่องลงอย่างมากมาย
การร้องขออาวุธทันสมัยจากสหรัฐฯ และพันธมิตรไม่ได้ช่วยเหลือมากนักในการสู้รบทำให้ยูเครนต้องใช้วิธีส่งโดรนโจมตีเป้าหมายต่างๆ ในพื้นที่รัสเซียเป็นการก่อกวน แต่แล้วไม่ได้ผลตามคาด
รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียได้นำภาพของยานรบส่งจากสหรัฐฯ ซึ่งถูกทำลายจนหมดสภาพมาแสดงให้ผู้สื่อข่าวชมเป็นรถ Bradley หลายคันรวมทั้ง รถถังและรถหุ้มเกราะของโลกตะวันตก
ทั้งนี้เป็นไปตามคำเตือนก่อนหน้านี้ของนายทหารรัสเซียซึ่งอ้างว่ารถถังจากโลก ตะวันตก ที่ส่งไปช่วยยูเครนจะไม่สามารถเปลี่ยนเกมการสู้รบได้อย่างมีนัยสำคัญ
ทหารยูเครนจำเป็นต้องได้รับการฝึกเพียงพอและมีกองกำลังที่ระดมพลมากถึง 750,000 นาย เพื่อให้ได้ชัยชนะแม้ช่วงแรกจะไม่สามารถยึดคืนพื้นที่ได้จากการครอบครองของทหารรัสเซียมากก็ตาม
สหรัฐฯ ไม่เต็มใจที่จะส่งเครื่องบินรบเอฟ 16 ให้กองทัพยูเครนเพราะเสียดาย ถ้าโดนยิงตกเพราะมีราคาลำละ 6,800 ล้านบาท และเกรงว่าจะถูกยึดแล้วรัสเซียนำไปศึกษาย้อนแบบวิศวกรรม
พันธมิตรในยุโรปได้ให้คำมั่นว่าจะส่งเครื่องบินรบเอฟ 16 ให้ยูเครนแต่ต้องใช้เวลาฝึกนานหลายเดือนเพื่อให้ นักบินช่ำชองไม่อย่างนั้นจะเป็นการสูญเปล่า
และเป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าสหรัฐฯ และพันธมิตรโลกตะวันตกยังจะต้องให้ยูเครนรบกับรัสเซียต่อไปจนกระทั่งเหลือชาวยูเครนคนสุดท้ายจริงๆ
สงครามเริ่มเข้าสู่การต่อสู้ที่โหดเหี้ยมเมื่อสหรัฐฯ ได้ส่งอาวุธร้ายแรงเป็นระเบิดลูกปรายเพื่อบั่นทอนการรุกคืบของกองกำลังรัสเซียและระเบิดลูกปรายที่ชื่อว่าคลัสเตอร์บอมม์ จะเป็นอันตรายต่อพลเรือนในอนาคตทั้งชาวรัสเซียและชาวยูเครน
มีรายงานจากเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติว่าพื้นที่หนึ่งในสามของยูเครนนั้น ถูกคลุมด้วยกับระเบิดและระเบิดลูกปรายรวมทั้งระเบิดสารพัดชนิดซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงต่อประชาชน
นั่นหมายความว่าการเข้าไปในพื้นที่นั้นจะไม่สามารถทำได้อีกต่อไปจนกว่าจะกวาดล้างระเบิดที่ตกค้างอยู่และต้องใช้เวลานานหลายปีหรือหลายสิบปี
พื้นที่เกษตรกรรมของยูเครนซึ่งปลูกธัญพืชและข้าวสาลีก็จะถูกทิ้งร้างไว้ถ้ามีระเบิดตกค้างอยู่ทำให้เกิดการสูญเสียด้านผลผลิตภาคเกษตรกรรม
สงครามทำลายล้างระหว่างเชื้อสายชาวสลาฟยังคงมีต่อไป เพราะแรงผลักดันของสหรัฐฯ และประเทศกลุ่มนาโต อาจทำให้ยูเครนสิ้นสภาพความเป็นชาติเพราะเหลือประชากรไม่มาก
การซ่อมแซมบูรณะประเทศต้องใช้เงินมหาศาลแต่ยูเครนเป็นประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันสูง จึงยากที่จะคืนสู่สภาพเดิมหลังสงครามสงบซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าจะจบเมื่อไหร่
เสียงเรียกร้องของประชาคมโลกและองค์การสหประชาชาติไร้ความหมายเพราะสหรัฐฯ และยุโรปไม่ยอมที่จะให้ยูเครนเลิกรบเพราะเชื่อว่ารัสเซียจะต้องอ่อนแรงอีกไม่นาน
ทหารและพลเรือนยูเครนต้องเสียชีวิตและลำบากต่อไปโดยที่ไม่มีใครรับผิดชอบ