สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียยังไม่มีวี่แววว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ ฝ่ายโลกตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ พยายามส่งอาวุธช่วยเหลือยูเครนเท่าที่จะทำได้ จนคลังแสงตัวเองพร่อง
ยูเครนกลายเป็นสนามฆ่าคน มีตัวเลขประเมินกันว่าทหารยูเครนเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 2 ถึง 2.5 แสนคน ไม่นับกลุ่มทหารบาดเจ็บ พิการซึ่งตัวเลขไม่น้อย
ฝ่ายยูเครนอ้างว่าได้ระดมทหารรวมแล้ว 7.5 แสน ขณะที่รัสเซียมีทหารพร้อมประจำการอยู่ 2 ล้านคน มากกว่ายูเครนกว่า 1 เท่าตัว
สงครามยูเครนถือว่าเป็นสงครามของกลุ่มฝรั่งผิวขาว เข่นฆ่ากันเอง ฝ่ายสหรัฐฯ มีกลุ่มประเทศสมาชิกนาโตรวมกัน 31 ประเทศ รอสวีเดนเข้าเป็นรายที่ 32
ที่ผ่านมา สมาชิกหลายรายได้สนับสนุนยูเครนเท่าที่จะทำได้ เท่ากับว่ารัสเซียโดนรุมกินโต๊ะทั้งสงครามเศรษฐกิจ โดนคว่ำบาตรด้วยมาตรการสารพัด สงครามข่าวสาร โฆษณาชวนเชื่อซึ่งมีสื่อหลักของโลกตะวันตกเป็นกระบอกเสียง
แต่ในสมรภูมิการสู้รบด้วยอาวุธหนักทุกประเภท เว้นอาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ได้สร้างความพินาศย่อยยับให้บ้านเมืองในพื้นที่ของยูเครน รวมทั้ง 4 แคว้นที่รัสเซียผนวกเข้าไปเป็นของตัวเองรวมประมาณ 23 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ยูเครน
นั่นเป็นพื้นที่หัวใจของยูเครน อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแหล่งแร่ธาตุ ก๊าซ น้ำมันดิบ ดินดำอุดมสมบูรณ์สำหรับปลูกพืชพันธุ์ธัญญาหาร ทำให้ยูเครนได้ชื่อว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของยุโรป หรือตะกร้าขนมปังหลักของทวีป ดินแดนส่วนนี้ถูกยึดโดยรัสเซียไปแล้ว
ยูเครนยังมีที่ดินอีกกว้างใหญ่ไพศาลสำหรับปลูกข้าวสาลี ต้นดอกทานตะวันและธัญพืชอื่นๆ แต่โอกาสที่จะทำการเกษตรยังไม่มี จนกว่าสงครามจะสงบ
ยูเครนจะต้องใช้เงินมหาศาลฟื้นฟูประเทศ เท่าที่ประเมินขณะนี้อยู่ในระดับหลายหมื่นล้านดอลลาร์ จะต้องกู้จากองค์กรต่างๆ เช่นธนาคารโลก ไอเอ็มเอฟ
แต่ความเสียหายของบ้านเมืองที่โดนถล่มโดยอาวุธสารพัดจะต้องใช้เวลานานในการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา ระบบขนส่ง โทรคมนาคม
ขีดความสามารถในการผลิตไฟฟ้าเสียหายไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ โรงผลิตไฟฟ้าบางแห่งต้องสร้างใหม่เพราะเสียหายเกินกว่าจะซ่อมแซมได้
สภาพที่เป็นอยู่ ยูเครนใกล้สิ้นความเป็นชาติ มีประชากรเหลือประมาณ 20-23 ล้านคน จากที่เคยมี 52 ล้านคนก่อนสงครามยูเครน ส่วนใหญ่ไปทำงานนอกประเทศ กว่า 10 ล้านอพยพออกไปหนีสงคราม มีส่วนหนึ่งอยู่ในพื้นที่ครอบครองโดยรัสเซีย
แต่ละวันผ่านไป ยูเครนมีแต่รับเละสำหรับความเสียหาย คนหนุ่มสาวบาดเจ็บล้มตายเพราะสงคราม การบุกตีโต้รัสเซียระลอกใหม่เริ่มวันที่ 4 มิถุนายนล้มเหลว
มีการประเมินว่ายูเครนสูญเสียทหารจากวันนั้นมากถึง 2.3 หมื่นคน ยานรบประเภทต่างๆ รถถัง รถหุ้มเกราะส่วนหนึ่งได้มาจากนาโตเสียหายกว่า 3 พันคัน
สื่อนิวยอร์กไทมส์ ประเมินว่ายานรบ Bradley ของสหรัฐฯ เสียหายมากกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ รถถังจากเยอรมนี อังกฤษและ Abrams จากสหรัฐฯ ถูกทำลาย
รัสเซียยึดยานรบต่างๆ และอาวุธมากมาย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน บอกสื่อว่าอาวุธและยานรบต่างๆ จะถูกศึกษาโดยการย้อนรอยวิศวกรรม Reverse Engineering เพื่อหาจุดแข็งและจุดอ่อน ส่วนหนึ่งส่งผ่านไปให้อิหร่านศึกษาและผลิต
ล่าสุดความโหดเหี้ยมของสงครามยกระดับอีกขั้นเมื่อสหรัฐฯ ได้ส่งระเบิดลูกปราย Cluster Bombs ให้ยูเครนเพื่อทดแทนกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. เพื่อต้านการบุกของรัสเซีย ระเบิดอันตรายนี้ถูกสั่งห้ามใช้ภายใต้ข้อตกลงใน 120 ประเทศ
สหรัฐฯ ยูเครนและรัสเซีย ยังไม่อยู่ภายใต้ข้อตกลงนี้ ปูตินบอกว่าถ้ายูเครนใช้ระเบิดนี้ รัสเซียก็จะใช้เช่นกันเพราะมีอยู่ในสต็อกมากเพียงพอ
สหรัฐฯ ได้ใช้ระเบิดลูกปรายในเวียดนาม ลาว กัมพูชา อิรัก อัฟกานิสถาน ส่งผลเสียหายร้ายแรง ทุกวันนี้ยังมีระเบิดลูกปรายกระจายไปทั่ว เหยื่อ 40 เปอร์เซ็นต์เป็นชาวบ้านทั่วไปและเด็ก การกวาดล้างในลาว กัมพูชายังไม่จบสิ้น
สหรัฐฯ และยุโรปไม่ต้องการให้ยูเครนเลิกรบ โดยหวังตั้งแต่แรกว่าจะใช้ยูเครนเป็นตัวบั่นทอนความแข็งแกร่งของรัสเซีย โดยโลกตะวันตกใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้ผล ทำให้เกิดผลย้อนกลับ เศรษฐกิจยุโรปอยู่ในภาวะถดถอย
การขาดแคลนพลังงาน เงินเฟ้อ ค่าครองชีพสูง ผลกระทบต่อระบบอุตสาหกรรมทำให้ธุรกิจต่างๆ ล้มละลายทั้งยุโรปและอังกฤษ สหรัฐฯ ก็เลี่ยงไม่พ้น
แต่ฝ่ายนาโตและสหรัฐฯ ยังประกาศหนุนยูเครนให้รบต่อไป “จนกระทั่งเหลือยูเครนคนสุดท้าย” เท่ากับว่ายูเครนจะสิ้นความเป็นชาติ ฝ่ายตะวันตกไม่มีใครตาย
รัสเซียเสียทหารส่วนหนึ่งระดับหมื่น แต่เศรษฐกิจยังไปได้ด้วยการขายพลังงานให้จีนและอินเดียซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ สินค้าหลักเช่นธัญพืชเป็นรายได้หลักเช่นกัน
ผลกระทบด้านการเมือง ฝ่ายสหรัฐฯ และนาโตได้รับมหาศาล หลายประเทศในละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชีย แอฟริกา เลิกใช้เงินดอลลาร์ หันมาใช้เงินสกุลของแต่ละประเทศในการซื้อขาย ซาอุฯ และชาติอาหรับ หยุดใช้เงินเปโตรดอลลาร์
สหรัฐฯ ไม่สามารถกำหนดตลาดน้ำมันดิบได้อีกต่อไป รัสเซียและซาอุฯ เป็นผู้นำ
อิทธิพลของสหรัฐฯ แทบไม่เหลือทั้งเงินดอลลาร์และการเมือง เพราะรัสเซีย จีน อินเดียเป็นตัวหลักที่เลิกการใช้ดอลลาร์ ทำให้กลุ่มประเทศอื่นๆ รวมทั้งอาเซียนเอาอย่าง และรัสเซีย จีนกำลังขยายสมาชิกกลุ่ม BRICS เพื่อลดทอดอำนาจสหรัฐฯ ยุโรป
สหรัฐฯ ต้องจ่ายแพงในสงครามยูเครน กำลังเสียความเป็นชาติมหาอำนาจของโลกขั้วเดียวที่ครองมานานกว่า 70 ปี ใครจะมาเป็นผู้นำ ต้องรับสภาพความตกต่ำนี้
และสหรัฐฯ ก็จะยังเป็นประเทศที่ไม่เคยชนะสงครามนอกบ้านตั้งแต่เวียดนาม