การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ตามนัยของประเทศตะวันตกหมายถึง การยึดถือเสียงส่วนใหญ่หรือเสียงข้างมากเป็นหลักในการตัดสินใจกระทำหรือไม่กระทำกิจกรรม อันก่อให้เกิดผลแก่ประชาชนโดยรวม
ดังนั้น การปกครองในระบอบประชาธิปไตย จะก่อให้เกิดผลประโยชน์แก่ประเทศและประชาชนโดยรวมได้อย่างทั่วถึง และเป็นธรรม ก็ต่อเมื่อผู้แทนที่ประชาชนเลือกเข้าไปทำหน้าที่นิติบัญญัติ และบริหารเป็นคนดีมีคุณธรรมกำกับการใช้อำนาจเท่านั้น
ในทางกลับกัน ถ้าผู้แทนที่ประชาชนเลือกเป็นคนไม่ดี ไม่มีคุณธรรมกำกับในการใช้อำนาจนอกจากประชาชนโดยรวมไม่ได้รับประโยชน์ และความเป็นธรรมแล้ว ยังจะเดือดร้อนจากการใช้อำนาจเป็นเครื่องมือในการแสวงหาประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง เฉกเช่นที่เกิดขึ้นในประเทศไทยหลายครั้งในอดีตที่ผ่านมา
ในขณะนี้ประเทศไทยเพิ่งผ่านการเลือกตั้ง ส.ส.และผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า พรรคก้าวไกลได้รับเลือกเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง 151 ที่นั่ง พรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับสอง 141 ที่นั่ง และพรรคภูใจไทยมาเป็นอันดับสาม 71 ที่นั่ง พรรคพลังประชารัฐมาเป็นอันดับสี่ 40 ที่นั่ง พรรครวมไทยสร้างชาติมาเป็นอันดับห้า 36 ที่นั่ง และพรรคประชาธิปัตย์ได้อันดับหก 25 ที่นั่ง
ส่วนพรรคที่เหลือได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่หัวหน้าพรรคจะเป็นแคนดิเดตนายกฯ จึงเป็นได้แค่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลหรือพรรคร่วมฝ่ายค้าน ไม่มีนัยสำคัญในการชี้นำทางการเมืองใดๆ เป็นได้อย่างมากแค่ตัวประกอบ ทั้งในส่วนของรัฐบาลและฝ่ายค้าน
ในฐานะพรรคซึ่งได้รับเลือกเข้ามาเป็นอันดับหนึ่ง พรรคก้าวไกล จึงมีความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล และในขณะนี้พรรคก้าวไกลกำลังดำเนินการอยู่
แต่เนื่องจากว่าในการเลือกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องใช้เสียง 376 เสียง ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงต้องได้เสียงสนับสนุนเพิ่มอีก 225 เสียง และในขณะนี้พรรคก้าวไกลรวบรวมเสียงได้ 313 เสียงจาก 8 พรรคการเมือง จึงต้องหาเพิ่มอีก 63 เสียงเพื่อให้หัวหน้าพรรคคือ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีตามที่คาดหวังไว้
อย่างไรก็ตาม ถ้าฟังจากการแสดงความคิดเห็นของผู้รู้หลายท่านผ่านทางสื่อ ดูเหมือนว่าเส้นทางการเดินขึ้นสู่อำนาจของพรรคก้าวไกลไม่ง่ายอย่างที่ฝัน ทั้งนี้เนื่องจากเหตุปัจจัยดังต่อไปนี้
1. ในการรวบรวมเสียงสนับสนุนให้ได้ 376 เสียงในการเลือกนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล คงจะทำได้ยากเพราะ ส.ส.จากพรรคการเมืองนอกจาก 8 พรรคที่ได้จับมือกันแล้วได้ประกาศจุดยืนค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าไม่เข้าร่วม และ ส.ว.ส่วนใหญ่ก็สงบนิ่งไม่เต้นตามกระแสเรียกร้องของแฟนคลับของพรรคก้าวไกลที่ให้เดินตามมติของประชาชน จะมีก็เพียงบางส่วนที่แสดงท่าทีตอบรับ
2. นอกจากการรวบรวมเสียงให้ได้ 376 เสียง เป็นการยากสำหรับพรรคก้าวไกลแล้ว พรรคนี้ยังมีคดีถือหุ้นไอทีวีของพิธา ที่มีผู้ยื่นให้ กกต.พิจารณาแล้ว และหาก กกต.เห็นว่ามีมูลนำขึ้นยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ และผลออกมาว่าผิด เส้นทางการเมืองของพิธา ก็มีอันต้องยุติลง
ถ้าเหตุปัจจัยข้อใดข้อหนึ่งเป็นเหตุให้พรรคก้าวไกลต้องสะดุด และเดินต่อไม่ได้ก็อนุมานได้ว่า การที่บุคคลไม่มีคุณธรรม และจริยธรรมทางการเมืองเป็นข้อด้อยของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพราะจะต้องไม่ลืมว่า กฎหมายก็คือศีลธรรมที่เขียนเป็นตัววัดผล และศีลธรรม (ก็คือกฎหมายที่ไม่ได้เขียนเป็นตัวอักษร) แต่เป็นกฎอันเกิดมโนธรรม