ผลการเลือกตั้งทั่วไปวันที่ 14 ที่ผ่านมาได้สร้างประวัติการณ์หลายอย่าง มีผู้ใช้สิทธิมากถึง 75.22 เปอร์เซ็นต์ มีดาวเด่น ดาวดัง ดาวตลก ดาวร้ายหลายคนโดนชาวบ้านเขี่ยตกเวที ไม่ได้มาอยู่ในสภาฯ อีกต่อไป ขาใหญ่บ้านใหญ่ ก็หลุดนอกวงการไปด้วย
ที่ว่าเป็นสิ่งใหม่ก็คือชัยชนะของพรรคก้าวไกล และความหวังของพรรคเพื่อไทยไม่ได้ชนะแบบแลนด์สไลด์ตามคำประกาศของนายห้างดูไบ ทำให้หลายคนแทบช็อก
พรรคก้าวไกลคงแทบไม่เชื่อว่าจะชนะอันดับ 1 ได้ 152 เสียงในสภาฯ พรรคเพื่อไทยที่คาดว่าจะได้กว่า 200 ก็ได้เพียง 141 เป็นความผิดหวังอย่างมาก
หน้าตาของสมาชิกสภาจะเปลี่ยนไป มีคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ของพรรคก้าวไกลมากขึ้น พวกนักเลือกตั้งยุคเก่า จะหมดโอกาสออกลีลาน้ำเน่าเดิมๆ น่าเบื่อหน่าย
ต้องรอว่าคณะกรรมการการเลือกตั้งจะประกาศผลได้ภายใน 60 วันหรือไม่ และจะมีอุบัติเหตุหรือเหตุอื่นใดที่ทำให้มีปัญหา เช่นผลการเลือกตั้งมีการคัดค้าน การพิจารณาเรื่องยุบพรรคตามคำร้องเรียนของนักร้องที่ยังค้างคาอยู่
จากนั้นจะรับรองผลจะนำไปสู่การเปิดประชุมสภาฯ เลือกประธานสภาฯ และการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ การเมืองไทย อะไรก็เป็นไปได้ด้วยผลประโยชน์
ดูตามสภาพวันนี้ ท่านลุงห้าวเป้งยังเป็นนายกฯ รักษาการต่อไป จนกว่าจะมีนายกฯ คนใหม่ ตั้งรัฐบาลใหม่ กว่าจะไปถึงจุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
พรรค 2 ลุงพ่ายแพ้ แต่ลุงป้อมเป็น 1 เดียวที่อยู่ในปาร์ตี้ลิสต์ เข้าไปนั่งในสภาฯ ด้วยคะแนนเบื้องต้นมี 40 ลุงห้าวเป้งมี 36 เสียง ยังได้ลุ้นเก้าอี้นายกฯ ดูแล้วคงยาก
ค่ายเสี่ยหนูบุรีรัมย์อาศัยพลังกัญชาได้ 70 ที่นั่งมาเป็นที่ 3 ค่ายสะตอหายจ้อยได้เพียง 25 เสียงพร้อมกับคำประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคของนายหัวจุรินทร์
พรรคก้าวไกลที่ได้อันดับ 1 ย่อมมีโอกาสได้สิทธิเป็นแกนนำพยายามตั้งรัฐบาลก่อน มีความเป็นไปได้ แต่จะทำสำเร็จได้หรือไม่ ก็ไม่ง่าย เพราะมีเสียง 152 เสียง ไม่ใช่เป็นเสียงข้างมาก 251 เสียงต้องพึ่งพรรคอื่นๆ ซึ่งต้องมีเงื่อนไขต่อรอง
ขวัญใจคนรุ่นใหม่ สร้างประวัติศาสตร์การเมืองไม่ซื้อเสียง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงอย่างเป็นทางการวันรุ่งขึ้น ขอเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
พิธาบอกว่าจะเชิญชวนพรรคเพื่อไทยมาจัดตั้งรัฐบาลตามที่สัญญาไว้กับประชาชน จะมีก้าวไกล เพื่อไทย ประชาชาติ ไทยสร้างไทยและเสรีรวมไทย 308 เสียง พรรคเป็นธรรมอีก 1 เป็น 309 เสียง เพียงพอสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก
เป็นการประกาศเร็วเกินไปหรือไม่ ก็สุดแล้วแต่ พิธาบอกว่าทุกฝ่ายต้องน้อมรับฉันทามติจากประชาชนมาปฏิบัติ ปิดประตูการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
พิธาว่าการจัดตั้งรัฐบาล พรรคก้าวไกลจะนำโรดแมปที่จะคุยกับพรรคร่วม แก้ปัญหาเก่า เผชิญปัญหาใหม่ พร้อมพาประเทศไทยไปสู่อนาคต มี ส.ส.ร.แก้รธน. แก้เศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจและรัฐบาลอย่างมีรูปธรรม
ประเด็นสำคัญคือการปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ตามความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล และนี่อาจเป็นปัญหาที่พิธาหาพรรคร่วมได้ยาก
สำคัญที่ว่าพรรคเพื่อไทยของนายห้างดูไบจะโอเคหรือไม่ เพราะต้องกินน้ำใต้ศอกพรรคก้าวไกล นายห้างดูไบไม่สามารถคุมเกมได้ จะมีปัญหาในการกลับมาติดคุก
การมีเพียง 309 เสียงก็ยังไม่เพียงพอ ต้องมีเสียงอย่างน้อย 376 เสียงเพื่อตั้งรัฐบาลและ ส.ว.ต้องมีส่วนให้การสนับสนุน พิธาจะให้ ส.ว.เคารพฉันทามติ แต่ ส.ว.ซึ่งหวาดเรื่องแก้ไขมาตรา 112 อาจไม่เอาด้วย งดออกเสียงดื้อ อ้างว่าไม่ขอยุ่ง
ก่อนหน้านี้มีเสียงเรียกร้องว่า ส.ว.ต้องไม่หนุนการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยที่มีท่านห้าวเป้งหวังจะทำ แต่ดูรูปการณ์แล้วเป็นไปได้ยาก ส.ว.ก็จะขออยู่เฉยๆ ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองว่ากันไป อย่างนั้นเถอะ
พรรคก้าวไกลหาเสียงด้วยข้อเสนอโดนใจคนรุ่นใหม่ แต่จะเป็นเงื่อนไขที่ทำให้พรรคอื่นต้องคิดแล้วคิดอีกว่าถ้าร่วมแล้วจะมีปัญหาหรือไม่ มีกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มทุน กลุ่มอนุรักษนิยม กลุ่มความมั่นคงคอยจ้องอยู่อย่างไม่ไว้ใจ
รวมความแล้ว การประสานผลประโยชน์จะลงตัวหรือไม่ ในกลุ่มประชาธิปไตย ดูเนื้อแท้แล้ว ธรรมชาติของคนพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลต่างกันชัดเจน
นายห้างดูไบนิยมเป็นคนกำหนดเกม ไม่ชอบเดินเกมของคนอื่นที่จัดให้
ดังนั้น ถ้า ส.ว.ไม่เอาด้วยกับพรรคร่วมนำโดยพรรคก้าวไกล จะไปโทษ ส.ว.ว่าขวางการเป็นรัฐบาลก็ไม่ได้เมื่อพยายามตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรคก้าวไกลต้องยอมให้พรรคได้ที่ 2 ตั้งรัฐบาลตามกติกาอย่างนี้เข้าทางนายห้างดูไบ
เมื่อ 309 เสียงนำโดยพรรคก้าวไกลไปไม่ได้ นายห้างดูไบต้องหาทางเลือกอื่นโดยตัวเองเป็นผู้คุมเกม พรรคเพื่อไทยขอโอกาสจัดตั้งรัฐบาล แบบนี้เป็นไปได้ โดยประสานกับพรรคที่เหลือ โดยให้พรรคก้าวไกลกับพรรคของท่านห้าวเป้งเป็นฝ่ายค้าน
ใครจะเป็นนายกฯ ก็ว่ากันได้ ส.ว.ส่วนหนึ่งก็น่าจะโอเค ถ้ามีพรรคลุงป้อมอยู่ร่วม ลุงป้อมจะได้เก้าอี้อะไรหรือไม่ ก็แล้วแต่การต่อรองของพรรคร่วมทั้งหมด
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายเป็นตัวกำหนด จะมีปัญหาวุ่นวายอย่างที่คาดไว้ว่าใครจะมาก็ตาม จะไม่จบง่าย ที่แน่ๆ คือท่านห้าวเป้งยังรักษาการต่อไป และยิ่งมีปัญหา เกิดอะไรขึ้น ก็จะรักษาการไม่มีกำหนด
ไม่ถูกใจพรรคการเมืองที่รอเป็นรัฐบาล ไม่ถูกใจประชาชน แต่ทำไงได้ เมื่อกติกาภายใต้รัฐธรรมนูญเจ้าปัญหาทำให้เกิดความพิลึกกึกกืออย่างนี้ ไปต่อลำบาก