xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ขวางยูเอ็นสอบระเบิด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์


ซีมัวร์ เฮิร์ช นักเขียนชาวอเมริกัน
คงไม่ต้องมีข้อสงสัยอีกแล้วว่าใครเป็นตัวการสั่งให้ระเบิดท่อก๊าซ นอร์ดสตรีม 1 และ 2 เชื่อมระหว่างรัสเซียกับเยอรมนีในเดือนกันยายนปีที่แล้ว

สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนนั่นแหละคือตัวการด้วยความร่วมมือกับนอร์เวย์ แม้จะอ้างว่าไม่ได้กระทำก็ตาม

หลักฐานแวดล้อมชัดเจนปรากฏวันจันทร์ที่ผ่านมา ในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ซึ่งพิจารณาข้อเสนอของรัสเซียเพื่อตั้งกรรมการอิสระนานาชาติให้สอบสวนว่าใครเป็นตัวการระเบิดท่อก๊าซ

หลังจากถกเถียงกันแล้วข้อเสนอมีผู้สนับสนุน 3 รายคือรัสเซีย จีน และบราซิล เมื่อถึงวาระลงคะแนนปรากฏว่ามี 12 ประเทศงดออกเสียงเท่ากับว่าข้อเสนอของรัสเซียตกไป

นั่นหมายความว่าสหรัฐอเมริกาและประเทศอื่นๆ ไม่ต้องการให้มีการสืบสวนเรื่องระเบิดท่อก๊าซ เพราะกลัวว่าโลกจะรู้ชัดเจนว่าการก่อการร้ายเป็นแผนของสหรัฐฯ

ตัวแทนของรัสเซียประจำสหประชาชาติได้บอกว่าสหรัฐฯ ไม่ต้องการให้มีหลักฐานว่าตัวเองอยู่เบื้องหลังตามการเปิดเผยของผู้สื่อข่าวอเมริกัน ซีมัวร์ เฮิร์ช ซึ่งรายงานว่าแผนการระเบิดนั้นเป็นอย่างไรและมีความน่าเชื่อถือ

ที่ผ่านมามีพิรุธของเรื่องนี้ชัดเจนก่อนหน้านี้คณะนักดำน้ำของสวีเดนได้ไปตรวจสอบจุดระเบิดได้หลักฐานบางประการแต่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลให้กับหน่วยงานใดทั้งสิ้นอ้างว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

หน่วยงานของสวีเดนไม่รายงานให้เยอรมนีแม้จะถูกร้องขอข้อมูลไม่รายงานให้องค์การสหประชาชาติ และไม่รายงานให้สภาผู้แทนหรือหน่วยงานของตนเอง

เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าสวีเดนน่าจะมีหลักฐานชี้ว่าผู้สั่งการและผู้ก่อการร้ายคือสหรัฐอเมริกานั่นเอง ที่น่าแปลกก็คือประเทศที่ถือหุ้นร่วมในโครงการท่อก๊าซกับรัสเซียคือเยอรมนี ฝรั่งเศส และเนเธอร์แลนด์ต่างก็ไม่ติดใจต้องการจะรู้สาเหตุ

เป็นผู้เสียผลประโยชน์ไม่ได้รับก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียมีผลกระทบหนัก มีนายพลของฝรั่งเศสบอกชัดว่ารายงานของผู้สื่อข่าวสหรัฐฯ น่าเชื่อถือเพราะปัจจัยแวดล้อมไม่ควรจะเป็นอย่างอื่น

หลักฐานก่อนหน้านี้ก็คือคำประกาศของโจ ไบเดน ว่าถ้ารัสเซียบุกเข้ายูเครนโครงการท่อก๊าซจะไม่อยู่อีกต่อไป เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าสหรัฐฯ จะจัดการอย่างไร โจ ไบเดน บอกว่าเรามีหนทางจัดการได้ก็แล้วกัน

หลังจากการระเบิดอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของโปแลนด์ได้กล่าวชื่นชมสหรัฐฯ ผ่านทวิตเตอร์ว่า “ขอบคุณมากสหรัฐอเมริกา”

นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังบอกว่าจากนี้ไปรัสเซียไม่มีโอกาสได้ขายก๊าซให้ยุโรปอีกแล้วเป็นโอกาสของสหรัฐฯ ที่จะได้ขายก๊าซให้ยุโรป

ตัวแทนของสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติอ้างว่า ที่ไม่เห็นด้วยกับการตั้งกรรมการพิเศษอิสระสอบสวนเพราะไม่เห็นด้วยกับแผนของรัสเซียที่จะให้ผลของการสอบสวนทำลายความน่าเชื่อถือของการสอบสวนโดยเยอรมนี สวีเดน และเดนมาร์ก

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียนางมาเรีย ซาคาโรวา โต้กลับว่าการสอบสวนของทั้ง 3 ประเทศนั้นได้ใช้เวลานานกว่า 6 เดือนแล้ว ยังไม่มีบทสรุป

นางบอกว่าการสอบสวนคณะกรรมการพิเศษนี้จะให้ 3 ประเทศร่วมกันก็ได้ แต่ที่ผ่านมารัสเซียไม่ได้มีโอกาสเข้าถึงข้อมูลหรือทำการตรวจสอบจุดระเบิดเพราะเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษของเดนมาร์ก

เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้คงไม่มีเหตุอื่นใดที่จะอธิบายได้ นอกจากข้อสรุปว่า เป็นการกระทำของสหรัฐอเมริกา โดยคำสั่งของผู้นำทำเนียบขาวนั่นเอง

ที่น่าแปลกก็คือก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ วอชิงตันโพสต์ และสื่อของเยอรมนีอ้างว่า ผลการตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนยูเครน แต่ไม่มีความเชื่อมโยงกับรัฐบาลยูเครน

สื่อเหล่านี้ไม่เคยรายงานการเปิดโปงของผู้สื่อข่าวอเมริกันซีมัวร์ เฮิร์ชแต่อย่างใด แต่ประโคมข่าวพร้อมกันทั้งในสหรัฐฯ และเยอรมนีซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นการสร้างข่าวขึ้นมาเพื่อหักล้างข้อกล่าวหาที่มีหลักฐานว่าสหรัฐฯ เป็นตัวการ

ตัวแทนของรัสเซียในที่ประชุมสหประชาชาติประกาศว่า ประเทศที่ตัดสินใจงดออกเสียงเป็นเพราะแรงกดดันของสหรัฐฯ ทั้งยังแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ไม่ต้องการให้การสอบสวนด้วยคณะกรรมการนานาชาติรู้ว่าตัวเองเป็นผู้ก่อเหตุร้าย

ประเทศยุโรปซึ่งได้รับผลกระทบก็ไม่กล้าเอ่ยปากว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป

เยอรมนีคงต้องยอมกล้ำกลืนฝืนทนว่าเพื่อนอย่างสหรัฐฯ นั้น ทำความเสียหายให้กับเพื่อนด้วยกันทำให้เยอรมนีต้องกลายเป็นผู้ต้องซื้อก๊าซธรรมชาติเหลวจากสหรัฐฯ ในราคาแพงกว่าของรัสเซีย 4 เท่าตัว

เยอรมนีมีทางเลือกน้อยในการหาแหล่งพลังงานทดแทนเพราะความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับกลุ่มประเทศอาหรับไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป กลุ่มประเทศอาหรับไม่ยอมฟังคำสั่งสหรัฐฯ และเข้าไปใกล้ชิดกับรัสเซียและจีน

นั่นเป็นผลของจีนได้เป็นผู้สมานความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านและนำพากลุ่มประเทศในอ่าวเปอร์เซียฟื้นความสัมพันธ์กับอิหร่านและซีเรีย

อิทธิพลของสหรัฐฯ ในการกำหนดราคาน้ำมันดิบก็จะไม่มีอีกต่อไป กลุ่มประเทศอาหรับอยู่ในกลุ่มโอเปกซึ่งมีรัสเซียเข้าร่วมในฐานะเป็นสมาชิกโอเปกพลัส

สหรัฐฯ ถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้ายและจะไม่ใช่เป็นขั้วอำนาจเพียงหนึ่งเดียวอีกต่อไป หลายประเทศหันไปคบค้ากับจีนและรัสเซียลดการใช้เงินสกุลดอลลาร์และยูโร


กำลังโหลดความคิดเห็น