กระทรวงการต่างประเทศจีน ชี้พวกลอบก่อวินาศกรรมท่อลำเลียงนอร์ดสตรีมต้องเผชิญผลสนอง พร้อมแสดงความสงสัยว่าสหรัฐฯ กำลังปิดบังอะไรบางอย่าง หลังไม่ยอมสนับสนุนให้เปิดการสืบสวนที่นำโดยสหประชาชาติในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ความเคลื่อนไหวของจีน มีขึ้นหลังจากญัตติที่เสนอโดยรัสเซียขอให้เปิดการสืบสวนอิสระนานาชาติ ไม่ผ่านการลงมติเห็นชอบของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันจันทร์ (27 มี.ค.) ที่ผ่านมา
เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงสรุปกับสื่อมวลชนในวันอังคาร (28 มี.ค.) อ้างว่า วอชิงตันที่มักกระตือรือร้นในสิ่งที่เรียกว่า "สืบสวน" บรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั้งหลาย กลับทำตัวลับๆ ล่อๆ ในเหตุการณ์นี้
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนชี้ว่าทัศนคติของอเมริกา คือแบบอย่างของความ "2 มาตรฐานอย่างแท้จริง" และชวนให้คิดว่า บรรดาเจ้าหน้าที่ในวอชิงตัน "กำลังกลัวอะไรบางอย่าง" พร้อมระบุจีนหวังว่าพวกผู้กระทำผิดจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
จีน รัสเซีย และบราซิลสนับสนุนร่างญัตติที่ขอให้นานาชาติเปิดการสืบสวนเหตุระเบิดที่ท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม ในการลงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันจันทร์ (27 มี.ค.) แต่อีก 12 ชาติสมาชิกที่เหลืองดอออกเสียง ทั้งนี้ ญัตติหนึ่งใดจำเป็นต้องได้รับคะแนนโหวตเห็นชอบอย่างน้อย 9 เสียง และต้องไม่ถูกวีโต้จากรัสเซีย จีน ฝรั่งเศส สหรัฐฯ หรือสหราชอาณาจักร เพื่อผ่านความเห็นชอบ
ถ้าได้รับความเห็นชอบ ญัตตินี้จะขอให้ทางเลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ จัดตั้งคณะกรรมาธิการชุดหนึ่งขึ้นมาเพื่อทำการ "สืบสวนระดับนานาชาติอย่างครอบคลุม โปร่งใสและเป็นกลาง" ต่อเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน
สหรัฐฯ กล่าวอ้างว่าข้อเสนอนี้มีเจตนาเป็นบ่อนทำลายการสืบสวนของแต่ละประเทศที่ดำเนินการโดยเยอรมนี เดนมาร์ก และสวีเดน โดยเยอรมนี คือผู้รับก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียผ่านท่อลำเลียงที่ถูกลอบก่อวินาศกรรมแห่งนี้ ส่วนเดนมาร์กและสวีเดน ทำการสืบสวนของตนเองเช่นกัน เนื่องจากเหตุระเบิดที่ก่อความเสียหายแก่ท่อลำเลียง เกิดขึ้นในน่านน้ำของพวกเขา
เก็ง ส่วง รองผู้แทนจีนประจำสหประชาชาติ โต้แย้งว่าการสืบสวนของนานาชาติไม่ได้เป็นอุปสรรคใดๆ ต่อการสืบสวนคู่ขนานกันของแต่ละประเทศ
รองผู้แทนจีนประจำสหประชาชาติ ยังเน้นว่าทั้ง 3 ชาติยุโรปได้ดำเนินการสืบสวนมานานกว่า 6 เดือนแล้ว และทางปักกิ่งคาดหมายว่า "พวกเขาจะเพิ่มความเร่งด่วน รายงานความคืบหน้าการสืบสวนต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเวลาที่เหมาะสมและเป็นประจำ และแถลงผลการสืบสวนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้"
ซีย์มอร์ เฮิร์ช นักข่าวสืบสวนสอบสวนคนดังเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ชาวสหรัฐฯ ที่เขียนบทบล็อกโพสต์เผยแพร่ผลการสืบสวน อ้างเมื่อเดือนที่แล้วว่า เหตุโจมตีท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม ออกคำสั่งโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ และเป็นการลงมือร่วมกันระหว่างอเมริกากับนอร์เวย์ ทั้งนี้ ทั้ง 2 ชาติปฏิเสธข้อหา ส่วนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บอกในสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาเห็นด้วยอย่างเต็มที่กับข้อสรุปของเฮิร์ช
ในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ เฮิร์ช อ้างว่าแหล่งข่าวรับรู้เรื่องราวที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม เปิดเผยกับเขาว่า สหรัฐฯ ลงมือร่วมกับนอร์เวย์ในการลอบก่อวินาศกรรมท่อลำเลียงแห่งนี้ ในปฏิบัติการที่ทาง เฮิร์ช กล่าวอ้างว่าออกแบบมาเพื่อขัดขวางไม่ให้รัสเซียโกยเงินจากการขายก๊าซธรรมชาติราคาถูกแก่เยอรมนีและยุโรป และบีบให้เยอรมนีมอบความช่วยเหลือทางทหารและทางการเงินแก่ยูเครนที่กำลังทำศึกสงครามกับรัสเซีย
บทความของเขา เฮิร์ช อ้างว่าทีมประดาน้ำของกองทัพเรือสหรัฐฯ นำระเบิดไปวางไว้ที่ท่อลำเลียงใต้ทะเลที่ป้อนก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปเยอรมนี ในเดือนมิถุนายน 2022 ภายใต้ฉากหน้าการซ้อมรบร่วมนาโต้ BALTOPS 22 ในทะเลบอลติก
ในการออกมาแฉครั้งนี้ เฮิร์ช ระบุว่า ระเบิดถูกจุดชนวนในอีก 3 เดือนต่อมาแบบทางไกล ผ่านตัวส่งสัญญาณที่ติดอยู่กับทุ่นโซนาร์ที่หย่อนลงไปในทะเลโดยเครื่องบินลาดตระเวน P8 ของกองทัพเรือนอร์เวย์
ท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม ซึ่งสร้างโดยก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจทางพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย เป็นการเชื่อมต่อก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปเยอรมนี โดยนอร์ดสตรีม 1 สร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี 2011 ส่วนนอร์ดสตรีม 2 สร้างเสร็จในปี 2021 ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากยูเครนและพันธมิตรบางส่วนของเยอรมนี ในนั้นรวมถึงสหรัฐฯ ซึ่งเกรงว่ามันอาจเปิดทางให้มอสโกใช้ขู่กรรโชกเบอร์ลินด้วยการขู่จำกัดอุปทาน
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)