สหรัฐฯ อ้างแหล่งข่าวกรองซึ่งระบุว่า “กลุ่มสนับสนุนยูเครน” อาจเป็นตัวการวางระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม (Nord Stream) ของรัสเซียเมื่อปีที่แล้ว ท่ามกลางเสียงเตือนจากชาติพันธมิตรตะวันตกว่าเรื่องนี้ยังไม่ควรด่วนสรุป ขณะที่มอสโกชี้สหรัฐฯ มีเจตนาเบนความสนใจจากข้อครหาที่ว่าประธานาธิบดี โจ ไบเดน เป็นผู้สั่งการเรื่องนี้
สายท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมซึ่งลำเลียงพลังงานจากรัสเซียเข้าสู่ยุโรปถูกวางระเบิดจนเสียหายเมื่อวันที่ 26 ก.ย.ปีที่แล้ว และทำให้มีก๊าซธรรมชาติรั่วไหลออกสู่ทะเลบอลติก ขณะที่ชาติตะวันตกแม้จะเชื่อว่านี่คือการจงใจก่อวินาศกรรม แต่ก็ยังไม่มีฝ่ายไหนออกมาสรุปว่าใครคือผู้ลงมือ
หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อวันอังคาร (7 มี.ค.) ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้รับข่าวกรองใหม่ที่บ่งชี้ว่ากลุ่มฝักใฝ่ยูเครนน่าจะอยู่เบื้องหลังเหตุลอบวางระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม แต่ก็ไม่ระบุชื่อกลุ่มที่ลงมือ
"เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะเปิดเผยถึงลักษณะของข้อมูลข่าวกรอง หนทางที่พวกเขาได้มา หรือรายละเอียดความหนักแน่นของหลักฐาน และพวกเขายอมรับว่ายังไม่มีข้อสรุปที่หนักแน่นเกี่ยวกับเรื่องนี้" นิวยอร์กไทม์ส ระบุ
ปฏิบัติการดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดและนักดำน้ำที่มีทักษะสูง ซึ่งสหรัฐฯ เชื่อว่าผู้ที่เกี่ยวข้องอาจจะเป็นชาวยูเครนหรือรัสเซียที่ต่อต้านประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แต่ไม่มีคนอเมริกันหรืออังกฤษร่วมด้วย
เยน สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ออกมาให้ความเห็นว่า “การสอบสวนในระดับชาติยังคงดำเนินอยู่ และผมคิดว่าเราควรจะรอให้การสอบสวนเหล่านั้นเสร็จสมบูรณ์เสียก่อนจึงค่อยมาสรุปว่าใครอยู่เบื้องหลัง”
อย่างไรก็ดี ปฏิเสธไม่ได้ว่าฝ่ายหนึ่งที่ได้ประโยชน์เต็มๆ จากเรื่องนี้ก็คือ “ยูเครน” เพราะเท่ากับทำให้รัสเซียต้องสูญเสียรายได้มหาศาลจากการขายก๊าซให้ยุโรปตะวันตก แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้ราคาพลังงานในประเทศพันธมิตรของยูเครนในยุโรปตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนี มีราคาแพงขึ้น
ด้านสถานีโทรทัศน์ ARD และหนังสือพิมพ์ Die Zeit ของเยอรมนีก็ออกมาอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สอบสวนเยอรมนีซึ่งเชื่อว่า กลุ่มคนนิรนามนี้ประกอบด้วยชาย 5 คนและหญิง 1 คนที่ใช้หนังสือเดินทางปลอม โดยเจ้าหน้าที่เยอรมนีสามารถระบุเรือยอชต์ต้องสงสัยที่ใช้ในการโจมตีได้แล้ว โดยเรือลำดังกล่าวถูกเช่าโดยบริษัทในโปแลนด์ซึ่งเป็นของพลเมืองยูเครน 2 คน
รายงานของสื่อเมืองเบียร์ยังระบุด้วยว่า “หน่วยคอมมานโด” กลุ่มนี้แล่นเรือจากท่าเรือโรสต็อก (Rostock) ทางตอนเหนือของเยอรมนีเมื่อวันที่ 6 ก.ย. และเดินทางไปถึงเกาะคริสเตียนโซ (Christianso) ของเดนมาร์กในทะเลบอลติกในวันถัดมา ต่อมาเรือถูกส่งคืนเจ้าของในสภาพที่ไม่ได้ทำความสะอาด ทำให้เจ้าหน้าที่สอบสวนตรวจพบร่องรอยวัตถุระเบิดบนโต๊ะในห้องเคบิน
“เราต้องแบ่งแยกให้ชัดเจนว่า มันเป็นฝีมือกลุ่มชาวยูเครน เป็นคำสั่งตรงจากรัฐบาลยูเครน หรือเป็นแค่กลุ่มคนที่สนับสนุนยูเครน ซึ่งอาจทำลงไปโดยที่รัฐบาลยูเครนไม่ได้รู้เห็นด้วย” บอริส พิสโตริอุส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเยอรมนี แถลงเมื่อวันพุธ (8) ระหว่างร่วมประชุมซัมมิตที่กรุงสตอกโฮล์ม พร้อมเตือนทุกฝ่ายว่าประเด็นนี้ “ไม่ควรด่วนสรุป” และมองว่ามีความเป็นไปได้ที่เรื่องนี้อาจจะเป็นการจัดฉากเพื่อโยนความผิดให้ยูเครน
นิวยอร์กไทม์สย้ำว่า หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ไม่พบหลักฐานว่าประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี หรือเจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนเข้าไปพัวพันโดยตรงกับเหตุระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม ขณะที่ โอเล็กซี เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน ก็ให้สัมภาษณ์ว่าข่าวนี้ “ฟังดูแปลกๆ” พร้อมยืนยันว่ามันไม่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลเคียฟอย่างแน่นอน
“ฟังดูเหมือนเป็นคำชมสำหรับหน่วยรบพิเศษของเรา ทว่านี่ไม่ใช่ฝีมือเรา” เรซนิคอฟ ระบุ
รัฐมนตรีกลาโหมยูเครนยังบอกด้วยว่าเขา “ไม่กังวล” ว่ากระแสข่าวนี้จะทำให้กระแสสนับสนุนยูเครนลดลงหรือไม่
ด้านรัสเซียก็ออกมาปฏิเสธรายงานของนิวยอร์กไทม์สทันควัน โดย ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน ชี้ว่ารายงานชิ้นนี้เป็นแค่แผน “เบี่ยงเบนความสนใจ” จากกรณีที่มีนักข่าวชื่อดังออกมาแฉสหรัฐฯ ว่าเป็นตัวการวางระเบิดท่อก๊าซนอร์ดสตรีม พร้อมทั้งตั้งคำถามด้วยว่า เจ้าหน้าที่อเมริกันสามารถ “สันนิษฐาน” อะไรก็ได้โดยไม่ต้องสอบสวนอย่างนั้นหรือ
“อย่างน้อยที่สุด ประเทศต่างๆ ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับนอร์ดสตรีมและองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ควรจะเรียกร้องให้เปิดการสืบสวนเรื่องนี้อย่างโปร่งใสโดยเร็วที่สุด และดึงทุกฝ่ายที่อาจจะรู้ข้อเท็จจริงให้เข้ามามีส่วนร่วมด้วย” เปสคอฟ กล่าว
ก่อนหน้านี้ ซีมัวร์ เอ็ม. เฮิร์ช (Seymour M. Hersh) ผู้สื่อข่าวสายสืบสวนชื่อดังของสหรัฐฯ ได้ออกมาตีแผ่ข้อมูลว่า การระเบิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมคือปฏิบัติการลับที่เกิดขึ้นตามคำสั่งของประธานาธิบดี โจ ไบเดน โดยมีรัฐบาลนอร์เวย์ให้ความช่วยเหลือ โดยในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 8 ก.พ. เฮิร์ช อ้างว่ามีแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามเผยกับเขาว่าสหรัฐฯ ร่วมมือกับนอร์เวย์ทำลายท่อส่งก๊าซเพื่อขัดขวางไม่ให้รัสเซียโกยเงินจากการขายก๊าซธรรมชาติราคาถูกแก่เยอรมนีและยุโรป รวมถึงต้องการบีบให้เบอร์ลินยอมมอบความช่วยเหลือทางทหารและทางการเงินแก่ยูเครนด้วย
ทำเนียบขาวออกมาตอบโต้ว่า รายงานของ เฮิร์ช เป็นเรื่องที่กุขึ้นมาทั้งเพ