เสียท่ารัสเซีย! นาโต้เสียงอ่อยรับ 'บัคมุต' อาจล่มสลายในไม่กี่วัน แต่เชื่อไม่ใช่จุดเปลี่ยนสงครามยูเครน

เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) เตือนในวันพุธ (8 มี.ค.) เมืองบัคมุต ทางภาคตะวันออกของยูเครน อาจล่มสลายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ตามหลังการสู้รบอย่างดุเดือดนานหลายเดือน แต่เชื่อว่ามันจะไม่เป็นจุดเปลี่ยนใดๆ ของสงคราม

ความเห็นของเขามีขึ้นในขณะที่กลุ่มวากเนอร์ กลุ่มทหารรับจ้างของรัสเซีย ซึ่งเป็นหัวหอกโจมตีบัคมุต อ้างว่าสามารถบุกยึดซีกตะวันออกของเมืองแห่งนี้ได้เรียบร้อยแล้ว ในสมรภูมิที่มีการสู้รบยาวนานที่สุดนับตั้งแต่มอสโกเริ่มเปิดฉากรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน

ในสตอกโฮล์ม บรรดารัฐมนตรีของอียูกำลังหารือกันเกี่ยวกับแผนยกระดับการผลิตด้านกลาโหมและเร่งป้อนกระสุนแก่ยูเครน ในขณะที่มันถูกผลาญผ่านการยิงกระสุนปืนใหญ่วิถีโค้งฮาวอิตเซอร์หลายพันลูกในแต่ละวัน

เยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์และพันธมิตรของเครมลิน ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในวันพุธ (8 มี.ค.) ว่ากองกำลังของเขา "ยึดพื้นที่ทางตะวันออกของบัคมุตได้ทั้งหมดแล้ว" ขณะที่ดินแดนแห่งนี้เป็นเมืองเหมืองถ่านหิน ซึ่งเคยมีประชากรพักอาศัยอยู่ครั้งก่อนเกิดสงครามราว 80,000 คน

การสู้รบอันดุเดือดรอบบัคมุต ทำให้มันกลายเป็นสมรภูมิที่มีการต่อสู้ยาวนานที่สุดและนองเลือดที่สุด นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครน ซึ่งทำลายล้างเมืองต่างๆ ของยูเครนจนย่อยยับ และทำประชาชนหลายล้านคนต้องไร้ถิ่นฐาน

สโตลเทนเบิร์ก บอกกับผู้สื่อข่าวในสตอกโฮล์ม รอบนอกที่ประชุมบรรดารัฐมนตรีกลาโหมของอียู ว่า "เรากำลังเห็นรัสเซียโยนทหาร โยนสรรพกำลังเข้าไปเพิ่มเติม และในสิ่งที่รัสเซียขาดแคลนด้านคุณภาพ พวกเขาก็พยายามระดมเข้าไปในแง่ปริมาณ" เขากล่าว "เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ท้ายที่สุดแล้ว บัคมุตอาจล่มสลายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่นี่ไม่จำเป็นที่มันจะสะท้อนถึงจุดเปลี่ยนใดๆ ของสงคราม"

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เตือนระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้้นหากว่า บัคมุต ตกไปอยู่ในเงื้อมมือรัสเซีย "เราเข้าใจว่า หลังจากบัคมุต กองกำลังรัสเซียอาจเดินหน้าและโจมตีเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงในแคว้นโดเนตสก์ พวกเขาอาจเดินหน้าสู่ครามาทอร์สก์ พวกเขาอาจมุ่งสู่สโลเวียนสก์ มันจะเปิดหนทางหนึ่งสำหรับรัสเซียหลังจากบัคมุต มุ่งสู่เมืองอื่นๆ ในยุเครน ในทิศทางโดเนตสก์"

เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย บอกกับเจ้าหน้าที่ทหารระหว่างการประชุมที่มีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในวันอังคาร (7 มี.ค.) ว่าการเข้าควบคุมเมืองแห่งนี้จะเปิดทางสำหรับปฏิบัติการรุกคืบเพิ่มเติมในภาคตะวันออกของยูเครน

พริโกซิน ประมาณการว่ายังคงมีทหารยูเครนปกป้องเมืองแห่งนี้ราว 12,000 ถึง 20,000 นาย

เซเลนสกี ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า กองกำลังของเขายังคงมุ่งมั่นยืนหยัดในบัคมุต "แน่นอนว่า เราจำเป็นต้องคิดเกี่ยวกับชีวิตของทหารของเรา แต่เราจำเป็นต้องทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ ในขณะที่เรากำลังได้รับอาวุธและเสบียง และกองทัพของเรากำลังเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีตอบโต้"

ในวอชิงตัน เอวริล เฮนส์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ ยังคงมองในแง่บวกในระยะกลาง "เราคาดว่ากองทัพรัสเซียคงไม่สามารถฟื้นตัวได้เร็วเพียงพอในปีนี้ สำหรับการรุกคืบทางดินแดนครั้งใหญ่ใดๆ"

เซเลนสกี ในวันพุธ (8 มี.ค.) ให้การต้อนรับ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ที่เดินทางเยือนกรุงเคียฟเป็นครั้งที่ 3 แล้ว นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากรุกราน ทั้งนี้ กูเตอร์เรส เน้นย้ำความจำเป็นในการขยายข้อตกลงหนึ่งซึ่งเปิดทางให้ยูเครนส่งออกธัญพืช แต่เวลานี้ข้อตกลงดังกล่าวใกล้หมดอายุแล้ว

บรรดารัฐมนตรีกลาโหมของอียูที่กำลังประชุมกันในสตอกโฮล์ม ได้หารือกันเกี่ยวกับแผนเร่งรัดส่งมอบกระสุนมูลค่าราว 1,000 ล้านยูโร แก่ยูเครน ในขณะที่บรรดาพันธมิตรของเคียฟเผชิญแรงกดดันหนักหน่วงขึ้น ในการยกระดับจัดหาเสบียงป้อนแก่ยูเครน

เหล่าผู้สนับสนุนตะวันตกของยูเครน เตือนว่าเคียฟกำลังเผชิญปัญหาขาดแคลนกระสุนปืนใหญ่ฮาวอิตเซอร์ 155 มม. อย่างหนัก เนื่องจากพวกเขาใช้มันหลายพันลูกในแต่ละวัน ในการสู้รบต้านทานการรุกรานของรัสเซีย "อัตราปัจจุบันของความสิ้นเปลือง เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการผลิตกระสุนในปัจจุบันนั้นไม่ยั่งยืน และเพราะฉะนั้น เราจำเป็นต้องยกระดับกำลังผลิต" สโตลเทนเบิร์ก กล่าว

รายงานข่าวจากนิวยอร์กไทม์สเมื่อวันอังคาร (7 มี.ค.) อ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พบเห็นข่าวกรองใหม่ บ่งชี้ว่า "กลุ่มฝักใฝ่ยูเครน" อยู่เบื้องหลังเหตุลอบก่อวินาศกรรมท่อลำเลียงก๊าซนอร์ดสตรีมเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมันอาจก่อคำถามที่ยากลำบากในหมู่พันธมิตร อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ อเล็กซีย์ เรซนิคอฟ รัฐมนตรีกลาโหมยูเครน บอกกับผู้สื่อข่าวของสตอกโฮล์ม ยืนกรานว่ามันไม่ใช่ฝีมือของยูเครน

ทั้ง 2 ฝ่ายยอมรับว่าสมรภูมิบัคมุต ก่อความสูญเสียในชีวิตกำลังพลเป็นจำนวนมาก แต่ไม่มีฝ่ายไหนให้ตัวเลขอย่างเป็นทางหาร ในขณะที่เจ้าหน้าที่ยูเครน เผยมีพลเรือนราว 4,000 คน ในนั้นรวมถึงเด็กหลายสิบคนที่ยังคงอยู่ในเมืองแห่งนี้ แม้มันพังราบเป็นหน้ากลอง

(ที่มา : เอเอฟพี)