เอเอฟพี - กองทัพรัสเซียลั่นจะบุกโจมตียึดเมืองบัคมุตมาให้ได้ ด้านเซเลนสกี ชี้หากสำเร็จ มอสโกจะสามารถบุกลึกเข้าสู่ยูเครนได้ ขณะที่กลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์กรุ๊ปออกมาประกาศว่าสามารถยึดพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมืองบัคมุต เอาไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว
เยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์กรุ๊ป (Wagner Group) ประกาศในวันพุธ (8 มี.ค.) ว่าทหารวากเนอร์สามารถยึดพื้นที่ฝั่งตะวันออกของเมืองบัคมุต (Bakhmut) เอาไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จแล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า หากข้อมูลนี้เป็นจริง เท่ากับว่ากองกำลังรัสเซียสามารถยึดพื้นที่บัคมุตเอาไว้ได้แล้วเกือบครึ่งเมือง
“กองกำลังของบริษัททหารรับจ้างเอกชนวากเนอร์สามารถควบคุมพื้นที่ฝั่งตะวันออกของบัคมุตไว้ได้แล้ว” พริโกซิน ประกาศผ่านข้อความเสียงซึ่งเผยแพร่ทางแพลตฟอร์ม Telegram
“ทุกสิ่งที่อยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำบัคมุตกา (Bakhmutka River) ล้วนอยู่ในการควบคุมของวากเนอร์อย่างสมบูรณ์”
การสู้รบในบัคมุต เมืองเหมืองเกลือที่มีประชากรราว 80,000 คนก่อนสงคราม ถือเป็นการสู้รบที่ยาวนานและนองเลือดที่สุดนับจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และทำให้ประชาชนนับล้านต้องทิ้งถิ่นฐาน
เมื่อวันอังคาร (7) เซียร์เก ชอยกู รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ประกาศต่อหน้าทหารระหว่างการประชุมที่มีการถ่ายทอดทางทีวีว่า การยึดบัคมุตจะช่วยให้รัสเซียบุกตะลุยเข้าสู่แนวป้องกันของกองทัพยูเครนลึกขึ้น
ที่เคียฟ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า กองทัพยูเครนมุ่งมั่นปกป้องบัคมุต แม้มีข่าวลือว่า ถูกรัสเซียกดดันจนต้องล่าถอยออกมาก็ตาม
ผู้นำยูเครนให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นซึ่งมีกำหนดออกอากาศในวันพุธ (8) ว่าหากยึดบัคมุตสำเร็จ รัสเซียจะสามารถยกพลเข้าสู่ภาคตะวันออกของยูเครนอย่างง่ายดายโดยมีเป้าหมายที่โดเนตสก์
ทั้งนี้ การโจมตีบัคมุตของรัสเซียมีกลุ่มทหารรับจ้างของวากเนอร์ กรุ๊ปเป็นหัวหอก และเยฟเกนี พริโกซิน ประธานบริษัทที่กำลังมีปัญหากับผู้นำในกองทัพรัสเซีย เยาะเย้ยชอยกูโดยบอกว่า ไม่เห็นรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียเฉียดกรายใกล้สมรภูมิรบเลย
พริโกซินยังประเมินว่า ขณะนี้ยังมีทหารยูเครน 12,000-20,000 คนป้องกันเมืองบัคมุตอยู่ และเสริมว่า แม้มีการรบหนักหน่วงมากทั้งกลางวันกลางคืนไม่หยุดหย่อน แต่นักรบยูเครนยังปักหลักสู้ต่อ
อย่างไรก็ตาม ยูเครนได้รับข่าวดีเมื่อวันอังคารหลังจากโปแลนด์ประกาศส่งรถถังลีโอพาร์ด 10 คันให้ในสัปดาห์นี้ โดยทั้งยูเครนและรัสเซียต่างยอมรับว่า สูญเสียกำลังพลจำนวนมากในสมรภูมิบัคมุต แต่ไม่มีฝ่ายใดให้ตัวเลขที่ชัดเจน
ที่นอกเมืองบัคมุต ทหารยูเครนนายหนึ่งให้สัมภาษณ์เอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ (6) ว่าเคียฟกำลังสูญเสียการควบคุม และบัคมุตกำลังจะแตก โดยขณะนี้ทหารบางหน่วยเริ่มล่าถอยออกไปเป็นกลุ่มเล็กๆ แล้ว
รองนายกรัฐมนตรีไอรีนา เวเรสชุค ให้สัมภาษณ์สื่อในภูมิภาคว่า เท่าที่รู้ขณะนี้ยังมีเด็ก 38 คนติดอยู่ในบัคมุต และมีพลเรือนตกค้างอยู่ทั้งหมดราว 4,000 คน
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางความกังวลว่า เบลารุส พันธมิตรของรัสเซียที่ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของยูเครน จะกระโจนเข้าร่วมความขัดแย้งนี้ วันอังคาร มินสก์กล่าวหาหน่วยข่าวกรองของยูเครนว่า อยู่เบื้องหลังแผนการโจมตีเครื่องบินรัสเซียลำหนึ่งที่จอดอยู่ในลานบินใกล้กรุงมินสก์ของเบลารุสเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งในเวลาต่อมากลุ่มต่อต้านรัฐบาลเบลารุสได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบ
อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบลารุสที่ยอมให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ใช้เบลารุสเป็นจุดเริ่มต้นการบุกยูเครนเมื่อปีที่แล้ว กล่าวว่า มีการควบคุมตัวประชาชน 20 คนที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีเครื่องบินดังกล่าว และระบุว่า ตัวการสำคัญของเหตุการณ์นี้คือพลเรือนรัสเซีย และยูเครนที่ร่วมมือกัน พร้อมกล่าวหาว่า คนเหล่านั้นเป็น “ผู้ก่อการร้าย”
นอกจากนั้น เมื่อวันอังคาร ยูเครนยังระบุตัวทหารที่ถูกถ่ายคลิปขณะถูกยิงทิ้งในวิดีโอที่เผยแพรทั่วโลกโซเชียล คลิปดังกล่าวเผยให้เห็นทหารยูเครนที่ถูกควบคุมตัว ยืนสูบบุหรี่อยู่ในสนามเพลาะตื้นๆ และถูกยิงหลังจากพูดว่า “เกียรติยศสู่ยูเครน”
เจ้าหน้าที่อาวุโสในเคียฟระบุว่า ผู้ยิงคือทหารรัสเซียและเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ทหารดังกล่าว ซึ่งกองทัพยูเครนระบุว่าชื่อ ทิโมฟี ชาดูรา ที่หายไปตั้งแต่วันที่ 3 กุมภาพันธ์ในการสู้รบใกล้เมืองบัคมุต และจะมีการยืนยันตัวตนเมื่อกองทัพได้รับร่างของทหารผู้นี้
เซเลนสกีกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า วิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นกองกำลังรัสเซียสังหารทหารยูเครนอย่างป่าเถื่อน และประกาศว่าจะตามล่าตัวฆาตกรมาลงโทษ