ยังไงกัน! ยูเครนส่อแววพ่าย ที่ปรึกษา ปธน.ยอมรับทัพเคียฟอาจต้องล่าถอยจากบัคมุต

ทหารยูเครนอาจต้องถอนกำลังออกจากเมืองบัคมุต ป้องปราการสำคัญ จากการเปิดเผยของที่ปรีกษารายหนึ่งของประธานาธิบดีในวันพุธ (1 มี.ค.) ความเห็นที่บ่งชี้ว่ารัสเซียอาจใกล้ยึดเมืองอันกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งการต้านทานของยูเครนได้แล้ว

กองกำลังเครมลินเปิดปฏิบัติการนองเลือดลากยาวนานหลายเดือน ในความพยายามยึดบัคมุต เมืองแห่งเหมืองเกลือและเหมืองยิปซัม ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งอยู่ในสภาพที่กลายเป็นเมืองร้าง

อเล็กซานเดอร์ รอดยานสกี ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นว่า "ทหารของเรากำลังชั่งน้ำหนักทุกทางเลือก จนถึงตอนนั้นพวกเขายังครอบครองเมือง แต่ถ้าจำเป็น พวกเขาจะล่าถอยทางยุทธศาสตร์ เราจะไม่ยอมสังเวยคนทั้งหมดของเราโดยเปล่าประโยชน์"

สมรภูมิบัคมุตกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวของยูเครน ในขณะที่พวกผู้ปกป้องเมืองยึดหยัดต่อต้านการระดมยิงปืนใหญ่ถล่มอย่างต่อเนื่อง และทำให้ทหารรัสเซียบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

บัคมุต ตั้งอยู่ในแคว้นโดเนตสก์ หนึ่งใน 4 แคว้นที่รัสเซียประกาศผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเมื่อฤดูใบไม้ร่วงปีก่อน เวลานี้มอสโกควบคุมครึ่งหนึ่งของโดเนตสก์ แต่หากต้องการยึดครองอีกครึ่งที่เหลืออยู่ กองกำลังรัสเซียจำเป็นต้องบุกฝ่าบัคมุตเสียก่อน

พวกนักวิเคราะห์มองว่าการสูญเสียเมืองบัคมุต ถือเป็นความเสียหายของยูเครน และมอบความได้เปรียบทางเทคนิคแก่รัสเซีย แต่ยังไม่ใช่จุดตัดสินผลลัพธ์ของสงคราม

รอดยานสกี เผยว่า รัสเซียใช้ทหารฝีมือดีที่สุดของกลุ่มนักรบอาสาสมัครวากเนอร์ ในความพยายามปิดล้อมเมืองแห่งนี้ ในขณะที่กลุ่มวากเนอร์ คือบริษัททหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงด้านกลยุทธ์อันโหดเหี้ยม และนำโดย เยฟเกนี พริโกซิน มหาเศรษฐีที่มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน มาช้านาน

อย่างไรก็ตาม พริโกซิน กล่าวในวันพุธ (1 มี.ค.) ว่าเขาไม่พบเห็นสัญญาณการถอนทหารของยูเครน และบอกว่าในความเป็นจริง เคียฟกำลังเสริมความเข้มแข็งตามฐานที่มั่นต่างๆ อีกต่างหาก "ทหารยูเครนกำลังประจำการทหารเพิ่มเติมและกำลังทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อรักษาไว้ซึ่งการควบคุมเมือง ทหารยูเครนหลายหมื่นนายกำลังต้านทานอย่างดุเดือดและการสู้รบกำลังนองเลือดเพิ่มขึ้นในทุกๆ วัน"

ฮันนนา มาลิอาร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมของยูเครน เปิดเผยเมื่อช่วงต้นสัปดห์ว่า กำลังเสริมได้ถูกส่งไปบัคมุตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โอเลห์ ซดานอฟ นักวิเคราะห์ด้านการทหารชาวยูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอพี มองว่ากำลังเสริมอาจถูกส่งไปเพื่อ "ประวิงเวลา" สำหรับเสริมความเข้มแข็งแก่แนวยิงของยูเครน บนภูเขาลูกหนึ่งในเมืองชาซิฟ ยาร์ ห่างจากเมืองบัคมุต ไปทางตะวันตก 15 กิโลเมตร

ซดานอฟ เชื่อว่าความเป็นไปได้ของการที่ยูเครนถอนกำลังออกจากบัคมุต "จะไม่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางของสงครามไม่ว่าอย่างไรก็ตาม" สืบเนื่องจากตำแหน่งแนวยิงในชาซิฟ ยาร์ "เวลานี้ บัคมุต ถูกปิดล้อมบางส่วน และทุกถนน ในนั้นรวมถึงเส้นทางหลักสำหรับลำเลียงเสบียง อยู่ในพิสัยการโจมตีของรัสเซีย เมืองเหลือแต่ซากปรักหักพังและไม่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์และทางปฏิบัติการอีกต่อไปแล้ว"

"ในบัคมุต รัสเซียประสบความสูญเสียมหาศาล ทั้งในแง่กำลังพลและยุทโธปกรณ์ เมืองแห่งนี้ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว" ซดานอฟกล่าว

นับตั้งแต่เปิดฉากรุกรานยูเครนเมื่อ 1 ปีก่อน รัสเซียทิ้งระเบิดและยิงถล่มเมืองต่างๆ ที่ต้องการยึดครอง นอกจากนี้ ยังเล็งเป้าหมายเล่นงานอุปทานพลังงานของยูเครน ด้วยการยิงขีปนาวุธโจมตีก่อนหน้าเข้าสู่ฤดูหนาว ในปฏิบัติการที่เชื่อว่าเป็นความพยายามบั่นทอนกำลังใจของพลเรือน

ในขณะที่นักวิเคราะห์ตะวันตกเตือนว่าอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นอาจเปิดโอกาสให้รัสเซียเปิดฉากรุกคืบรอบใหม่ แต่กระนั้นเจ้าหน้าที่ยูเครนเฉลิมฉลองในวันพุธ (1 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันแรกของฤดูใบไม้ผลิตามธรรมเนียมของพวกเขา

ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศ ประกาศว่าประเทศของเขารอดพ้นจากการก่อการร้ายฤดูหนาวของปูตินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว "เราอยู่รอดในฤดูหนาวที่สาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา" เขาเขียนบนเฟซบุ๊ก

ส่วนประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี กล่าวปราศรัยผ่านวิดีโอในช่วงค่ำ ระบุว่า "ฤดูหนาวจบลงแล้ว มันยากลำบากมากๆ และไม่ได้พูดเกินจริง ชาวยูเครนทุกคนรับรู้ได้ถึงความยากลำบากนี้ แต่เรายังคงสามารถมอบพลังงานและความร้อนแก่ชาวยูเครน"

ขณะเดียวกัน มีไคโล โพดอลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดีเซเลนสกี ปฏิเสธในวันพุธ (1 มี.ค.) ต่อกรณีมีคำกล่าวหาว่ายูเครนใช้โดนโจมตีดินแดนรัสเซีย หลังมอสโกเผยแพร่ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการ กล่าวอ้างว่ายูเครนเล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย

"ยูเครนไม่ได้โจมตีดินแดนของสหพันธรัฐรัสเซีย ยูเครนกำลังทำสงครามป้องกันตนเอง พร้อมเป้าหมายทวงคืนดินแดนที่ถูกยึดครองกลับมาทั้งหมด" โพดอลยัคเขียนบนทวิตเตอร์ พร้อมชวนให้คิดว่าเหตุโจมตีโครงสร้างพื้นฐานของรัสเซีย เป็นผลของการโจมตีภายในประเทศ

บรรดาพันธมิตรตะวันตกของยูเครนไม่สนับสนุนเคียฟจากการเล็งเป้าหมายโจมตีภายในรัสเซีย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย และถ้อยแถลงของ โพดอลยัค อาจสะท้อนความพยายามของเคียฟ ในการคลายความกังวลของตะวันตก

ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ยูเครนไม่เคยออกมากล่าวอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีภายในรัสเซีย แต่ยืนกรานว่าพวกเขามีสิทธิโดยชอบธรรมในการโจมตีเป้าหมายใดๆ ในดินแดนรัสเซีย สำหรับตอบโต้การรุกราน

เมื่อถูกถามถึงการปฏิเสธของโพดอลยัค ทาง ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกของวังเครมลิน ระบุว่า "เราไม่เชื่อ"

กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยในวันพุธ (1 มี.ค.) สามารถสกัดการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่เล็งเป้าเล่นงานไครเมีย ขณะที่สื่อมวลชนแห่งรัฐรัสเซีย ระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสอยร่วงโดรน 6 ลำ และระบบการสงครามอิเล็กทรอนิกส์สามารถสกัดได้อีก 4 ลำ

(ที่มา : เอพี)