“ป๋าชูวิทย์” อดีตเจ้าพ่ออ่างรับบทหัวหอกทะลวงกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะขั้นต้นกับขั้นกลาง เปิดโปงขบวนการทุจริต คอร์รัปชัน เรียกรับเงินโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีตำรวจเป็นเป้าหมายของความฉาวโฉ่ สร้างความอับอายขายหน้าไปทั่วโลก
ตำรวจไทยใจหาญทำงามหน้าทั้งกรณีน้องหมวยจีนแผ่นดินใหญ่ และน้องหมวยดาราสาวไต้หวัน แถมยังมีหนุ่มสิงคโปร์ร่วมกันชำแหละพฤติกรรมฉาว
ชื่อเสียงที่เสียหายไม่เฉพาะตำรวจไทย แต่เป็นประเทศไทยซึ่งกำลังเป็นจุดสนใจ เป็นเป้าหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน
ปลาไม่กี่ตัวทำเอาเน่าทั้งข้อง ยังดีที่มีตำรวจสร้างพฤติกรรมดีแก้หน้าไว้บ้าง แต่เป็นข่าวสั้นไม่กี่ชั่วโมง เช่นการติดตามเอาคืนนาฬิกาหรูราคา 6 ล้านให้นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำตกไว้ในรถยนต์รับจ้างแกร็บ
นักท่องเที่ยวจีนโดนฟันหัวในภูเก็ตก็โดนตำรวจจับได้ใช้เวลาไม่นาน
ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจเป็นเพียงไฟไหม้ฟาง แต่เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งยังมีการโฆษณาต่อเนื่องในเว็บต่างๆ ของจีนว่ามีบริการพิเศษเช่นช่องทางด่วนไม่รอนานผ่านตรวจคนเข้าเมือง การอำนวยความสะดวกต่างๆ
นี่เป็นช่องทางสร้างรายได้ให้เจ้าหน้าที่รัฐ แม้คนจ่ายเต็มใจแลกกับความสะดวก แต่สะท้อนให้เห็นความไม่เป็นระบบด้านการรักษาความปลอดภัย
ที่สำคัญ “มีเงินซื้ออะไรก็ได้” อย่างที่นายตู้ห่าวและโฆษณาในสื่อจีนว่า
เรื่องทั้งหมดนี้เป็นภาระความรับผิดชอบของท่านห้าวเป้งแปดเปื้อนทั้งนั้น ในตำแหน่งประธานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการตำรวจ และตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซึ่งต้องรับผิดชอบทั้งหมดภายในประเทศ
รวมถึงเจ้าหน้าที่อัยการและกระทรวงกลาโหม หน่วยงานความมั่นคง
ที่ผ่านมา ถูกมองว่าเป็นการรับผิดชอบแต่ปาก ไปหาเสียงก็อ้างว่าเป็น “พ่อของคนไทยกว่า 60 ล้านคน” ทั้งที่ความเป็นจริงท่านห้าวเป้งมีลูกสาวยังโสดเพียง 2 คน
“ลูก” รายอื่นๆ ที่ตัวเองประกาศ มีใครเต็มใจยอมเป็นลูกหรือเปล่า ไม่มีใครนับ แต่มี “ติ่ง” แน่ๆ รวมทั้ง “ติ่ง” ตามความจำเป็น มีแรงจูงใจให้ไปแวดล้อมเช่นข้าวกล่อง น้ำดื่ม เสื้อยืด หมวกแก๊ป และสินน้ำใจมีมูลค่าจำเป็นสำหรับภาวะเศรษฐกิจหนี้เยอะ
การพูดหาเสียงมีแต่คำพูดอวดอ้าง ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ตามสไตล์นักเลือกตั้ง ต้องทำตัวเป็นนายแสนดีวจีไพเราะ ลิ้นเคลือบน้ำตาล ตวัดถึงใบหู
การที่เจ้าหน้าที่เรียกรับสินบน หรือเล่นบทรีดไถ หรืออะไรก็แล้วแต่ตามด่านตำรวจ หรือในห้องอธิบดีบางกรม ล้วนเป็นการทุจริต คอร์รัปชัน เป็นปัญหาเข้าขั้นวิกฤตเรื้อรังมานานแล้ว นับวันจะเลวร้าย ไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น
ท่านห้าวเป้งอยู่มา 8 ปีแบบเปื้อนๆ ประกาศปราบปรามการทุจริตปีเว้นปี แสดงให้เห็นว่าคำประกาศเป็นเพียงลมปาก เทียบค่าได้เท่ากับผายลมของสุนัขยามบ่ายนอนหลบร้อนใต้ต้นไม้เท่านั้น ไม่ได้เป็นสาระสำคัญน่าเชื่อถือแต่อย่างใด
ถ้าได้ผลจริง ประกาศครั้งเดียว ทำอย่างจริงจังก็พอแล้ว นี่กลับกลายเป็นว่าการทุจริตมีอยู่ทุกระดับ ตัวเองก็ถูกแวดล้อมด้วยพวกที่มีโหงวเฮ้งโจร พฤติกรรมเทา
สังคมไทย โดยเฉพาะในเมือง ต้องมีเงินเพื่อให้มีชีวิตสุขสบาย การหาเงินแข่งกันรวยด้วยการละเมิดกฎหมาย เลี่ยงภาษี จึงเป็นการไม่รับผิดชอบของพลเมือง
“ป๋าชูวิทย์” เรียกร้องเพิ่มเงินเดือนให้ตำรวจมีรายได้เพียงพอจะได้ไม่รีดไถ ก็มีคำถามว่าเท่าไหร่ถึงจะพอ ค่าครองชีพในสังคมเมืองมีสารพัด รายได้ 3-4 หมื่นบาทเป็นที่น่าพอใจสำหรับคนมีรายได้ชักหน้าไม่ถึงหลัง แต่บางกลุ่มต้องมีระดับแสนบาท
ตำรวจถูกสภาพแวดล้อมกดดัน ทั้งเรื่องคุณภาพของการบริโภค การอยู่อาศัย ดังนั้นสำหรับบางกลุ่มการเป็นตำรวจเป็นหนทางที่จะทำให้รวยเร็วด้วยรายได้พิเศษ
รัฐบาลได้เพิ่มเงินเดือนให้ข้าราชการอัยการ ตุลาการ ผู้พิพากษา มากกว่าอาชีพอื่นๆ ต้องถามว่าแก้ปัญหาหรือไม่ เรื่องการเรียกรับค่าตอบแทน
มีเรื่องฉาวในทุกระดับของกระบวนการยุติธรรม “มีเงินจ้างผีโม่แป้งก็ได้” จึงเป็นคำกล่าวที่ไม่เกินความจริงในสังคมนิยมคอร์รัปชันในประเทศไทย
เพียงคำถามทั่วๆ ไปว่า ใครกล้ารับประกันว่าในคณะรัฐมนตรี ว่ามีคนดีและไม่โกงกี่คน? ยังไม่มีใครกล้าเอ่ยชื่อแม้แต่คนเดียว แสดงว่าในความคิดของประชาชนนั้น ไม่มีใครในรัฐบาลถูกมองด้วยความเชื่อมั่นว่าเป็นคนใจซื่อ มือสะอาด สุจริต
กระบวนการยุติธรรมจึงเป็นรากฐานสำคัญว่าประเทศใดมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ในด้านความยุติธรรม ที่ผ่านมามีหลายคดีที่ได้รับการวินิจฉัย มีการหักมุม ค้านความรู้สึกของนักกฎหมายและวิญญูชนอย่างร้ายแรง แต่ไม่มีใครทำอะไรได้
มีการสั่งไม่ฟ้องระดับตำรวจ อัยการ ไม่อุทธรณ์ระดับอัยการ และมีการวินิจฉัยผลคดีแบบน่ากังขาในระดับศาล และบ้านเราก็มีศาลหลายประเภท
โครงสร้างของประเทศผุกร่อนอย่างแรง เพราะกระบวนการยุติธรรมมีปัญหา การทุจริต คอร์รัปชันในรูปแบบต่างๆ ได้ทำลายคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี จิตสำนึกของความเป็นพลเมืองดี ความน่าไว้วางใจ
สังคมที่มีโครงสร้างเสื่อมโทรมด้วยปัญหาอย่างนี้ ไม่มีอนาคต เมื่อกระบวนการยุติธรรมถูกซื้อได้ เป็นทาสเงิน และเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำรงความยุติธรรม อำนาจมืดแบบเจ้าพ่อ ผู้ทรงอิทธิพลและคนมีเงิน จึงอยู่เหนืออำนาจของกฎหมาย
สังคมไทยต้องการผู้นำใจซื่อมือสะอาด ทุกวันนี้ยังไม่มีให้เห็น