xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

พปชร.-รทสช. “ปลาบ่อเดียวกัน” แยกกันเดิน เจอกันได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
สมการการเมือง

99.9% มีเลือกตั้งแน่ หลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ร่าง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ว่าด้วยสูตรคำนวณบัญชีรายชื่อแบบหาร 100 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

สนามเลือกตั้งเปิดโล่ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่สำคัญทั้ง 2 ฉบับ ไม่ว่าจะเป็นร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยพรรคการเมือง และ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้รับการไฟเขียวหมด

ปีหน้าได้เข้าคูหากันแน่ หากไม่เกิดอุบัติเหตุ ขั้นตอนหลังจากนี้ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม จะนำกฎหมายลูกดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าฯ จากนั้นจะมีเวลา 90 วัน เพื่อรอการโปรดเกล้าฯลงมา เพื่อบังคับใช้

ซึ่งจะเลือกตั้งได้ กฎหมายลูกเหล่านี้ต้องมีผลบังคับใช้ทั้งหมดเสียก่อน ฉะนั้นตราบใดที่ยังไม่มีผลบังคับใช้ ตัดไปได้เลยว่า “บิ๊กตู่” จะยุบสภาก่อนตามกระแสข่าวลือ

แต่หากมีการโปรดเกล้าฯลงมาเมื่อไหร่ นั่นแหละถึงคิวต้องจับตาให้ดี เพราะ “บิ๊กตู่” สามารถยุบสภาได้ทุกเมื่อ เนื่องจากกติกาทุกอย่างพร้อมแล้ว


ดูจากไทม์ไลน์การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นช่วงไตรมาสสองของปี เวลานี้พรรคการเมืองก็จัดทัพ เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ต้องมาระแวงอีกแล้วว่า จะได้เลือกตั้ง หรือไม่ได้เลือกตั้ง

แล้วพอตอนนี้ทุกอย่างมันชัด ตลาดนักการเมืองเริ่มคึกคักกันเป็นแถว ย้ายพรรคกันเอิกเกริก โดยเฉพาะส.ส.ที่ต้องการเปลี่ยนค่าย ปลายเดือนธันวาคมนี้ เตรียมตัวจะลาออกจากส.ส. เพื่อไปเป็นสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ เพื่อให้คุณสมบัติครบถ้วนกันเพียบ

เวลานี้เป็นช่วงเวลาของการแต่งกระบวนทัพ โดยเฉพาะ 2 พรรคที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ คือ พรรคพลังประชารัฐ ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค กับพรรครวมไทยสร้างชาติ นั่งร้านอันใหม่ของ “บิ๊กตู่”

ข่าวว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมงานของ 2 ลุง เปิดปฏิบัติการดูดส.ส. เข้ารังกันอึกทึกครึกโครม โดยทีมงาน “บิ๊กป้อม” ต่อสายหาส.ส.ที่มีแนวโน้มจะอยู่กับพรรค และยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะอยู่หรือไป เพื่อมัดใจให้อยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อ

ขณะที่ทีมงาน “บิ๊กตู่” ต่อสายโทรศัพท์หาส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐ ระดับเกรดเอ ที่มีโอกาสจะเข้าสภา เพื่อหว่านล้อมให้มาอยู่ด้วยกัน พร้อมโปรโมชั่นจ่ายไม่อั้น เปย์เต็มพิกัดในสนามเลือกตั้ง

แต่มันไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่ 2 ลุงทำ มันคือ การแย่งกันตกปลาในบ่อเดียวกัน ดูดกันไปกันมาเหมือนที่ “บิ๊กป้อม” พูดเอาไว้

 มันคือ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ที่ต้องเลือกว่าจะอยู่กับ “ลุงป้อม” หรือ “ลุงตู่” เท่านั้น

และไม่ว่าสุดท้ายพรรคไหนจะได้ส.ส.เยอะกว่ากัน มันคือ ปลาในบ่อพรรคพลังประชารัฐ ส.ส.หน้าเดิมที่ “บิ๊กตู่” มาตกเอาในบ่อพี่ เป็นพรรคเดียวกันอย่างที่ “บิ๊กป้อม” พูดไว้อีกคำรบ

แม้พูดไม่ได้เต็มปากว่า จะเป็นยุทธศาสตร์แยกกันเดิน ร่วมกันตี แต่การที่ “บิ๊กป้อม” ยืนยันหนักแน่นว่า สายสัมพันธ์พี่น้อง 40-50 ปี ไม่มีวันขัดแย้ง มันมองเห็นสัญญาณได้ว่า 2 พรรคนี้ ไม่ได้เป็นคู่แข่ง ไม่ได้เป็นเส้นขนาน และสามารถไหลมาเจอกันได้ในฐานะปลาน้ำเดียวกัน

ไม่สามารถแยกกันได้แบบตัดขาด โดยเฉพาะเมื่อต้องการเสียงส.ว. 250 คน มาช่วยในการโหวตนายกรัฐมนตรีทั้งคู่ ถึงเวลาต้องสุมหัววางแผนกันอยู่ดี

จะว่าไป การแยกพรรคยังเหมือนการแยกคอกส.ส. แก้ปัญหานักการเมืองตั้งมุ้ง แย่งชามข้าว ยิ่งพรรคขนาดใหญ่ มุ้งยิ่งเยอะ เกลี่ยกันลำบาก สายลุงป้อมบ้าง สายลุงตู่บ้าง เคาะกันไม่ลง อย่างเก้าอี้รัฐมนตรี 2 ตัว ที่ว่างมานานตั้งแต่ไล่สองเสนาบดีอย่าง “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา พรรคเศรษฐกิจไทย และ “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ออก ที่ตั้งไม่ได้ก็เพราะกลัวแรงกระเพื่อม

ส.ส.แบ่งข้าง แยกกันวิ่งหา 2 ลุง เพื่อต่อสู้กัน จับแยกไปอยู่คนละพรรค เอาให้ชัดโควตาพรรคใครพรรคมันไปเลย จะได้ไม่ต้องมามีปัญหาว่า พรรคนี้ใครเป็นเจ้าของ “ลุงป้อม” หรือ “ลุงตู่”

นักการเมืองคนไหน “บิ๊กตู่” ไม่อยากได้ ก็ไปอยู่กับ “บิ๊กป้อม” ไม่ต้องก่อปัญหา เหมือนกรณีมุ้ง “ร.อ.ธรรมนัส” เปิดปฏิบัติการกบฏอีก

เอาเป็นว่า 2 ลุงมีทางจูนกันได้ ไม่ต้องดูที่ไหนไกล อย่างเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีเที่ยวล่าสุด ถือว่า “บิ๊กตู่” ยังเกรงใจให้เกียรติพี่ใหญ่ เกลี่ย 2 เก้าอี้ที่ว่างมานานให้สิทธิ์ “บิ๊กป้อม” 1 ตัว

ตามคิวที่ไฟเขียวชื่อ “สุนทร ปานแสงทอง” อดีตรองนายกอบจ. สมุทรปราการ เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ โดย “สุนทร” ถือเป็นโควตากลุ่มปากน้ำของ “เอ๋” ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม อดีตนายก อบจ.สมุทรปราการ

กลุ่มปากน้ำเป็นกลุ่มที่โหวตสวน “บิ๊กป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ถือว่าทำแสบ ในขณะที่ “บิ๊กป้อม” สัญญาว่าจะให้โควตาเก้าอี้รัฐมนตรี 1 ตัว เพราะมีส.ส.หลายคน

การที่ “บิ๊กตู่” ไฟเขียวชื่อนี้ ที่คนในมุ้งปากน้ำเคยทำแสบกับพี่รองอย่าง “บิ๊กป๊อก” ถือว่า ยังประนีประนอมกัน ไม่หักอย่างที่หลายคนเข้าใจ

เพียงแต่อีกเก้าอี้หนึ่งตัว “บิ๊กตู่” ขอเอาไว้เป็นโควตาตัวเอง หลังปูนบำเหน็จ “แด็ก” ธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นองครักษ์พิทักษ์ “บิ๊กตู่” ในทุกเรื่อง ตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ เป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เรียกว่า ใช้โครงการคนละครึ่ง

สัญญาณการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งนี้ นอกเหนือจากการปูนบำเหน็จให้คนของตัวเอง สิ่งที่มองเห็นชัด 2 ลุง แค่แยกกันเดิน ไม่ได้แตกหัก

ถึงจุดนัดพบ เลือกตั้งเสร็จแล้วค่อยเคลียร์กัน ถึงตรงนั้นก็คุยกันไม่ยาก


กำลังโหลดความคิดเห็น