xs
xsm
sm
md
lg

ภูมิใจไทยก้างตำคอทักษิณ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ



ผมเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไม่น่าจะยุบสภาฯ และจะอยู่ไปจนครบสมัย และน่าจะเลือกตั้งตามที่ กกต.ประกาศเอาไว้ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2566 ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ทำให้คนที่อยากย้ายพรรคทำได้ยากขึ้นเมื่อเทียบกับการยุบสภาฯ เพราะพรรคพลังประชารัฐน่าจะเป็นพรรคที่มีคนย้ายออกมากที่สุดจริงหรือไม่ก็คอยดูกัน

การยุบสภาฯ และการอยู่จนครบสมัยแล้วไปเลือกตั้งใหม่นั้นมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ถ้าหากยุบสภาฯ ต้องกำหนดวันเลือกตั้งใหม่ภายใน 45 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ผู้สมัครต้องสังกัดพรรคใหม่ได้ในระยะเวลาไม่เกิน 30 วันจนถึงวันเลือกตั้ง จึงจะลงสมัคร ส.ส.ได้

จะเห็นว่า การยุบสภาฯ เป็นเงื่อนไขที่ทำให้ ส.ส.ย้ายพรรคได้ง่ายกว่า เพราะต้องเป็นสมาชิกพรรคเพียง 30 วันเท่านั้น ดังนั้นหากมีการยุบสภาฯ เกิดขึ้นถ้าจะย้ายพรรคก็สามารถทำได้ทันโดยไม่มีปัญหา

แต่ในกรณีรัฐบาลอยู่จนครบวาระ 4 ปี การเลือกตั้งจะต้องมีขึ้นภายใน 45-60 วัน และต้องสังกัดพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน ดังนั้นถ้าจะย้ายพรรคคนที่เป็น ส.ส.อยู่จะต้องรีบลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดสมัยแล้วไปอยู่พรรคใหม่ สภาฯ ชุดนี้จะครบวาระในวันที่ 24 มีนาคม ถ้าเลือกตั้งนับไปข้างหน้า 45 วัน วันที่สังกัดพรรคก็ต้องย้อนขึ้นไปก่อนครบวาระสภาฯ 45 วัน ก็หมายความว่าถ้าจะย้ายพรรคก็ต้องเข้าเป็นสมาชิกใหม่ภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์เป็นอย่างช้า จึงจะสามารถเป็นสมาชิกพรรคนั้นไม่น้อยกว่า 90 วัน

ในการเลือกตั้งครั้งหน้าเชื่อว่าจะมีการย้ายพรรคกันมาก ส่วนพรรคที่มีคนย้ายเข้ามากที่สุดในฝั่งรัฐบาลน่าจะเป็นพรรคภูมิใจไทย

ในบรรดาพรรคร่วมรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยดูจะเป็นพรรคที่ทรงดีที่สุด การประกาศว่า พรรคจะกวาดที่นั่ง ส.ส. 120 ที่ไม่ใช่เรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะนอกจากมีผลงานที่ต้องใจประชาชนแล้ว ยังเป็นพรรคที่สามารถดึง ส.ส.ต่างพรรคเข้ามาร่วมในชายคาได้มาก เห็นได้จากงานวันเกิดของเนวิน ชิดชอบที่ผ่านมาที่มี ส.ส.จากต่างพรรคเข้าร่วมเหมือนกับการเปิดตัวว่า เลือกตั้งครั้งหน้าจะไปอยู่ใต้ร่มธงของพรรคภูมิใจไทย

เป็นที่รู้กันว่าพรรคภูมิใจไทยนั้นอยู่ใต้ร่มเงาบารมีของเนวิน ที่วันนี้ไม่ใช่เนวินคนเดิมแล้ว แต่เป็นเนวินที่มีภาพใหม่และกลายเป็นไอดอลของคนจำนวนมากในการพัฒนาจังหวัดบุรีรัมย์ให้ขึ้นมาโดดเด่นในโลกของกีฬา แม้เนวินจะเคยประกาศว่าวางมือการเมืองแล้วเพื่อหันไปสนับสนุนเรื่องกีฬา แต่เป็นที่ทราบกันว่าการเดินเกมของพรรคภูมิใจไทยนั้นล้วนมาจากมันสมองของเนวิน มีการกล่าวกันว่า ถ้าเนวินออกมานำพรรคเองไม่ใช่อยู่เบื้องหลังพรรคพรรคภูมิใจไทยอาจจะมีความโดดเด่นยิ่งกว่านี้

ถ้าเราย้อนไปในสมัยที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้เป็นนายกรัฐมนตรี บทบาทสำคัญในการผลักดันครั้งนั้นก็คือ เนวินที่นำอดีต ส.ส.ของพรรคพลังประชาชนแยกตัวออกมาเพื่อสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ และเป็นเจ้าของวาทะ “มันจบแล้วครับนาย” ที่ว่ากันว่าการกระทำของเนวินครั้งนั้นสร้างรอยแค้นให้กับทักษิณมาจนถึงวันนี้ เพราะทักษิณไม่คิดว่าจะถูกเนวินทอดทิ้งเพราะเนวินเคยเป็นขุนพลข้างกายที่ทักษิณให้ความไว้วางใจอย่างมากมาก่อน

กล่าวกันว่าความแค้นของทักษิณยังคงอยู่ และมีเสียงจากนายใหญ่จากดูไบว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยอย่างแน่นอน ส่วนคำพูดนั้นจะเป็นความจริงหรือไม่เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะเป็นที่รู้กันว่าในทางการเมืองนั้นไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร ถ้าผลประโยชน์ลงตัวทุกอย่างก็ไปกันได้หมด

แต่ถ้าเราจำกันได้หลังจากที่เนวินแยกกับทักษิณ ในปลายปี พ.ศ. 2552 เนวินได้รับเลือกให้เป็นผู้อำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจากรัฐบาล โดยกำหนดตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคม จนถึงวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552 ตลอดแนวถนนราชดำเนินตั้งแต่สนามหลวงจนถึงลานพระบรมรูปทรงม้า และจัดงานได้อย่างน่าประทับใจ ภาพของเนวินในสายตาของประชาชนก็เปลี่ยนไปหลังจากนั้น

จุดเด่นของพรรคภูมิใจไทยในสมัยนี้ที่พรรคเอาเป็นจุดขายได้อย่างเต็มปากเต็มคำคือ การพูดแล้วทำ

นโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทยแม้จะมีคนต่อต้าน เพราะห่วงผลพวงที่จะตามมา แต่ก็ได้ใจคนส่วนใหญ่มากกว่าคนต้าน เป็นการพิสูจน์ถึงการพูดแล้วทำหนึ่งในหลายเรื่องที่พรรคภูมิใจไทยประกาศไว้ในการหาเสียง ไม่ว่าจะผ่านสภาฯ ชุดนี้หรือไม่ แต่สะท้อนว่าพรรคภูมิใจไทยได้ทำแล้วตามที่หาเสียงเอาไว้จนกัญชาได้กลายเป็นโลโกของพรรคไปแล้ว

ข้อดีของพรรคภูมิใจไทยคือไม่มีความขัดแย้งในพรรค มีความเป็นเอกภาพมากเมื่อเทียบกับพรรคการเมืองอื่น แม้ว่าพรรคจะมีความผูกติดกับจังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งเป็นถิ่นฐานของเนวิน แต่พรรคภูมิใจไทยกลับไม่มีภาพของท้องถิ่นนิยม แต่เป็นพรรคที่มี ส.ส.กระจายในหลายภูมิภาค แม้ว่าบุรีรัมย์จะเหมือนเมืองหลวงของพรรคภูมิใจไทยก็ตาม

ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วปี 2562 ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทยเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 ดังนั้นเป้าหมายที่จะก้าวแบบกระโดดอีกครั้งเป็น 120 คนนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ และกล่าวกันว่า พรรคที่จะมาทำลายความหวังแลนด์สไลด์ของทักษิณก็คือ พรรคภูมิใจไทยนี่เอง เพราะเชื่อกันว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคที่แย่ง ส.ส.ภาคอีสานกับพรรคเพื่อไทยในหลายจังหวัด ถ้าหากพรรคภูมิใจไทยได้ ส.ส.อีสานมากเท่าไหร่ ความหวังของทักษิณในการแลนด์สไลด์ก็จะน้อยลง

และเราเห็นว่าในช่วงไม่กี่วันมานี้ทักษิณออกมาขย้ำนโยบายกัญชาของพรรคภูมิใจไทยมาก เพราะน่าจะรู้ว่านโยบายนี้เป็นทั้งจุดเด่นและจุดด้อยของพรรคภูมิใจไทย

ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลขณะนี้ยังจับกลุ่มกันอยู่ในการเลือกตั้งครั้งหน้า เพื่อสกัดการเปลี่ยนขั้วการเมือง ดูเหมือนพรรคภูมิใจไทยจะเป็นความหวังมากที่สุดเมื่อเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ที่กำลังสาละวันเตี้ยลง และพรรคพลังประชารัฐที่มีความแตกแยกในพรรคและจะมี ส.ส.ย้ายไปสังกัดพรรคอื่นจำนวนมาก เพราะพรรคพลังประชารัฐไม่ได้มีอิทธิพลและบารมีของ คสช.หลงเหลืออยู่แล้ว

ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วพรรคภูมิใจไทยสามารถแจ้งเกิดในภาคใต้ได้สำเร็จและสามารถแย่งชิงที่นั่ง ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ได้หลายจังหวัด ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเชื่อกันว่าพรรคภูมิใจไทยจะได้ ส.ส.ในจังหวัดภาคใต้เพิ่มขึ้น จุดบอดของพรรคภูมิใจไทยก็คือพื้นที่ กทม. แต่ดูเหมือนครั้งนี้พรรคภูมิใจไทยพยายามจะปักธงใน กทม.ให้ได้ เมื่อเราเห็นพรรคภูมิใจไทยเริ่มปูพรมด้วยนโยบายพักหนี้ 3 ปีไปทั่ว กทม.

ดังนั้นการที่พรรคภูมิใจไทยประกาศว่า จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลในครั้งหน้าและผลักดันอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรีจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปได้มาก

พรรคที่จะขัดขวางแลนด์สไลด์ของทักษิณก็คือพรรคภูมิใจไทยนี่แหละ

ติดตามผู้เขียนได้ที่ https://www.facebook.com/surawich.verawan


กำลังโหลดความคิดเห็น