จุดระอุเพิ่มในสงครามยูเครน

สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียได้เพิ่มความร้อนระอุอีกหลายองศา เมื่อกลุ่มประเทศสนธิสัญญานาโตนำโดยสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มความช่วยเหลือด้านอาวุธใหม่ๆ ต่อเนื่องให้ยูเครนในสภาพของเบี้ยตัวแทนต้านรับรัสเซียซึ่งรุกเข้าพื้นที่ใหม่จากแคว้นดอนบาส

กลุ่มนาโตรู้สึกคึกคักเมื่อตุรกีเลิกขัดขวางการเข้าเป็นสมาชิกของสวีเดนและฟินแลนด์ นั่นหมายความว่าจะได้ทรัพยากรและตัวช่วยยูเครนเพิ่มขึ้น และมีโอกาสปิดล้อมรัสเซีย โดยฟินแลนด์มีพรมแดนยาว 1,340 กม. กับรัสเซียตอนเหนือ

จะมีความหมายมากกว่าที่เป็นอยู่หรือไม่ เพราะวงในของรัฐบาลสหรัฐฯ ตระหนักแล้วว่าโอกาสที่ยูเครนจะชนะสงครามนั้นเป็นไปไม่ได้ ยิ่งถ้าจะให้รัสเซียคืนพื้นที่ยึดครองประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ในแคว้นดอนบาสให้ยูเครนด้วยนั้น ยิ่งต้องเลิกคิดได้เลย

ผู้นำตัวตลกของยูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ตั้งความหวังเพ้อเจ้อหนัก อ้างว่าจะเจรจาสงบศึกกับรัสเซียก็ต่อเมื่อยูเครนชนะสงคราม เงื่อนไขต้องเป็นไปตามที่ตัวเองวางไว้ สงครามต้องจบก่อนสิ้นปีนี้ คนสติดีได้ฟังต้องบอกว่าสงสัยจะเป็นตลกด้าน

ทุกวันนี้หน้าที่หลักของผู้นำตัวตลกคือหาทางกล่าวคำปราศรัยต่อวงประชุมต่างๆ เรียกร้องขอความช่วยเหลือ ความเห็นใจ อยากได้อาวุธทันสมัย ทั้งๆ ที่ฝ่ายสหรัฐฯ และกลุ่มนาโตรู้ดีว่าต่อให้อาวุธดีแค่ไหน ยูเครนก็ไม่มีทางจะพลิกสถานการณ์ได้

ทุกวันนี้ถอยร่นจากที่มั่นเพราะทนการโจมตีหนักไม่ไหว การสูญเสียทหารแต่ละวันมากกว่า 100 คน และต้องระดมเกณฑ์ทหารรอบใหม่จากคนหนุ่มนักเที่ยวตามบาร์ เอานักโทษและผู้หญิงมาฝึกให้เป็นหน่วยรักษาดินแดนทดแทนจำนวนที่พร่องลง

เซเลนสกี้ก็รู้ว่าไม่มีทางชนะ บ้านเมืองพินาศย่อยยับ แต่ต้องยอมทนให้ยูเครนเป็นเบี้ยตัวแทนโลกตะวันตกต่อไป เพราะสุดท้ายตัวเองต้องรับผิดชอบกับหายนะ

ล่าสุด รัสเซียได้เริ่มโจมตีจุดเก็บอาวุธที่ถูกส่งมาให้โดยฝ่ายนาโต หลายพื้นที่ในเมืองหลวงได้เป็นเป้าหมาย โกดังเก็บอาวุธในกรุงเคียฟซึ่งถูกโจมตีโดยขีปนาวุธนำวิธีแม่นยำ แรงระเบิดทำให้คลังอาวุธไหม้ลามไปติดห้างสรรพสินค้าตั้งอยู่ใกล้ห้าง

ฝ่ายผู้นำตัวตลกและโลกตะวันตกประโคมข่าวว่ารัสเซียโจมตีห้างสรรพสินค้าที่มีคนอยู่ภายในกว่า 1 พันราย แต่ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตจากเพลิงไหม้ไม่ถึง 20 ราย ถ้าเป็นการโจมตีโดยตรง จะต้องแทบไม่มีผู้รอดชีวิตจากจรวดและแรงระเบิดขนาดใหญ่

สถานการณ์จากนี้ไปขึ้นอยู่กับว่าทั้งสวีเดนและฟินแลนด์จะมีบทบาทเสริมนาโตอย่างไรหลังจากได้เป็นสมาชิกอย่างเป็นทางการแล้ว ปัจจุบันทั้งสองประเทศก็ได้มีส่วนร่วมในกิจการของนาโตเพราะเป็นสมาชิกประชาคมยุโรป ทั้งช่วยเหลือยูเครนด้วย

ฟินแลนด์ถือว่าเป็นจุดเปราะบาง มีประชากรไม่ถึง 6 ล้าน แต่มีกองกำลังยามสงครามมากถึง 2.8 แสนนาย และกำลังสำรองได้ 6 แสนราย และต้องดูว่าพร้อมที่จะให้นาโตนำขีปนาวุธเข้าไปติดตั้งจ่อรัสเซียหรือไม่ เพราะเคยทำสงครามกันมาก่อน

ฟินแลนด์โดนรัสเซียบุกช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้เสียพื้นที่ส่วนหนึ่งไป หลังจากปี 1948 ทั้งสองประเทศได้ลงนามสัญญาสันติภาพ ไม่รุกรานกัน แต่เมื่อฟินแลนด์จะเข้ารวมกับนาโต สัญญานี้คงไร้ความหมาย รัสเซียก็ปรามก่อนหน้านี้

เมืองหลวงกรุงเฮลซิงกิอยู่ห่างจากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กไม่มากนัก และถือว่าเป็นจุดสุ่มเสี่ยงต่อการปะทะกันเพราะทั้งฟินแลนด์และสวีเดนอยู่ในย่านทะเลบอลติก และมีนอร์เวย์สกัดอยู่ด้านนอก สามารถปิดล้อมรัสเซียไม่ให้ออกทะเลได้

คงไม่ง่าย รัสเซียถือว่าย่านนั้นเป็นน่านน้ำสากลการปิดล้อมทำไม่ได้

รัสเซียมีแคว้นคาลินินกราดอยู่ในฝั่งทะเลบอลติก เป็นฐานทัพเรือรัสเซีย และจะเป็นฐานขีปนาวุธนิวเคลียร์ตามคำปรามของรัสเซียด้วย ถ้าทั้งสวีเดนและฟินแลนด์ทิ้งสถานภาพความเป็นกลางและเข้าเป็นสมาชิกนาโต ย่อมเป็นเป้าหมายการโจมตี

จากนี้ไปคาดว่ารัสเซียคงเสริมทัพด้านพรมแดนติดกับฟินแลนด์ซึ่งคงจะพอใจเมื่ออยู่ใต้นาโตซึ่งมีกฎข้อ 5 ระบุว่าการโจมตีประเทศใดในนาโตถือว่าทุกประเทศโดนโจมตี ดังนั้นประเทศสมาชิกอื่นๆ ต้องช่วยกัน นาโตจะมีสมาชิกเพิ่มอีก 2 เป็น 32 ราย

ผู้ที่ดีใจมากที่สุดคือผู้นำอังกฤษ บอริส จอห์นสัน ซึ่งได้หว่านล้อมทั้งสองประเทศให้เข้าร่วมนาโต และให้คำมั่นก่อนหน้านี้ว่าอังกฤษจะช่วยเหลือเต็มที่ ถ้าสวีเดนและฟินแลนด์โดนโจมตี ประชาชนสวีเดนส่วนหนึ่งได้เดินขบวนคัดค้านเข้าร่วมนาโต

ผู้นำทำเนียบขาว โจ ไบเดน ถือว่าประสบความสำเร็จในการหาสมาชิกใหม่ และมีงบประมาณเพิ่มจากอีก 2 สมาชิก รวมทั้งกำลังทหาร จุดยุทธศาสตร์สำคัญ ทั้งโจ ไบเดนและจอห์นสันต่างมีปัญหาความนิยมตกต่ำในประเทศ ต้องการคะแนนเพิ่ม

สถานภาพปัจจุบัน โดยพฤตินัย เท่ากับว่าเป็นสงครามโดยตรงระหว่างนาโตและรัสเซีย โดยมียูเครนและกองทัพเป็นพลรบ มีอาวุธจากกลุ่มนาโตมาช่วยเหลือ และมีสงครามเศรษฐกิจระหว่างประชาคมยุโรปซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับนาโต และรัสเซีย

รัสเซียจึงโดนรุมกินโต๊ะโดยสหรัฐฯ และกลุ่มพันธมิตรทั้งในและนอกนาโตรวม 47 ประเทศในสงครามการทหารและสงครามคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ แต่รัสเซียอยู่รอดมาได้เพราะมีอาวุธ อาหาร พลังงานซึ่งกลุ่มยุโรปเผชิญกับการขาดแคลนอย่างหนัก

มีคำเตือนจากเยอรมนี ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ ที่พึ่งพาพลังงานจากรัสเซียแล้วว่าถ้ารัสเซียงดส่งก๊าซโดยเฉพาะในฤดูหนาว ภาคอุตสาหกรรมจะมีวิกฤตหนัก ประชาชนจะต้องเสี่ยงกับความหนาวจัด ไม่มีก๊าซสำหรับเครื่องทำความร้อน

ถ้าสงครามลามออกนอกยูเครนเข้าสู่กลุ่มนาโต สงครามโลกครั้งที่ 3 ไม่น่าจะเลี่ยงได้ โอกาสที่รัสเซียจะป้องกันตัวเองโดยระเบิดนิวเคลียร์ยิ่งเป็นไปได้มากเช่นกัน