ซักฟอกครั้งสุดท้าย เวทีล้างแค้น-หาเสียงเลือกตั้ง

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ - ฝ่ายค้านได้ฤกษ์ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ จัดแบบชุดใหญ่ไฟกระพริบ ทิ้งทวนซักฟอกรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึงพืด “บิ๊กตู่”กับรัฐมนตรีรวม 11 ชีวิต

แกนนำรัฐบาล หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค คีย์แมนหลักๆ ของรัฐบาลโดนกันครบ นำโดย 3 ป. หัวโจก บิ๊กตู่ – บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บิ๊กป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย

รัฐบาลนี้มี 3 ป.เป็นเสาคานหลัก แมตซ์ส่งท้ายไม่ใส่ชื่อขึ้นเขียงไม่ได้!

พอๆ กับนั่งร้านของรัฐบาลที่หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค ขนาดใหญ่โดนกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย

“จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกรัฐมนตรี รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ขาดแค่ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่รอดหน้าตาเฉย ทั้งที่หัวขบวนพรรคร่วมโดนกันครบ

เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า ที่ “เสี่ยต่อ”ไม่ถูกฝ่ายค้านลากขึ้นเขียงเอาไปชำแหละ เป็นเพราะที่ผ่านมาคอยให้การดูแลแกนนำพรรคเพื่อไทยบางคน ซึ่งมีอำนาจในการจัดโผซักฟอกรัฐมนตรี ที่สนิทชิดเชื้อกันมาตั้งแต่อยู่พรรคประชาธิปัตย์

ขณะที่รัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่ถูกติดสอยห้อยขึ้นเขียงมาในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ “จุติ ไกรกฤษ์” รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ตัวอยู่พรรคประชาธิปัตย์แต่ใจเทไปทาง“บิ๊กตู่” แล้ว “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ และ “เสี่ยโอ๋” ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
ในส่วนของญัตติแต่ละคน ฝ่ายค้านมาฟอร์มเดิม เขียนญัตติตีหัวหมาด่าแม่เจ๊กเหมือนทุกครั้ง หลอกด่ากว้างๆ แล้วไปลงรายละเอียดตอนอภิปรายทีเดียว ประหนึ่งว่า กลัวรัฐมนตรีจะมีเวลาทำการบ้าน เลยให้ไปเก็งข้อสอบกันเอาเอง

แต่หากดูบาดแผลแต่ละคน พอจะเดาออกเหมือนกันว่าฝ่ายค้านจะซักฟอกใครเรื่องอะไร อย่างในรายของ “เสี่ยหนู” ดูจากเนื้อหาญัตติ พุ่งเป้าไปที่เรื่องดูดส.ส. ส่วน “จุรินทร์”โดนล่อเป้าเรื่องราคาสินค้าแพง ในช่วงที่ผ่านมา

ในส่วนของ “สันติ” นั้น พรรคเพื่อไทยและพรรคเล็ก โหมโรงเรื่องโครงการท่อส่งน้ำอีอีซี กันมาสักพักใหญ่ๆ “นิพนธ์” น่าจะถูกขยี้แผลซ้ำเรื่องเก่าที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด กรณีไม่อนุมัติเบิกจ่ายค่ารถซ่อมบำรุงเอนกประสงค์ให้กับเอกชน สมัยเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา

“จุติ” ที่เป็นน้องใหม่ในศึกซักฟอกทัวร์นาเมนต์นี้ ที่ผ่านมาค่อนข้างเงียบ แต่เพิ่งจะมีข่าวไม่ดีในกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรณีลูกชายนักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ เข้าไปพัวพันคดีค้ามนุษย์ และมีการกล่าวหาคนระดับรองอธิบดีในกระทรวง พยายามตัดตอนคดี

ขณะที่ในรายของ “เสี่ยเฮ้ง กับ เสี่ยโอ๋” พรรคพลังประชารัฐ 2 กุมารข้างที่ ระยะหลังหันไปยืนเป็นวอลเปเปอร์ บิ๊กตู่ แม้จะมีเรื่องให้ฝ่ายค้านขุดมาเชือด แต่ดูแล้วการลากขึ้นเครื่องประหารครั้งนี้ จุดประสงค์หลักน่าจะเป็นบัญชีแค้นของใครบางคนมากกว่า ที่ยืมมือพรรคเพื่อไทย สั่งสอน 2 เสนาบดี
“เสี่ยเฮ้ง กับ เสี่ยโอ๋” เป็นคู่กรณีโดยตรงของ “ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า” ส.ส.พะเยา และหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ตั้งแต่สมัยอยู่พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์กระทบกระทั่งเชือดเฉือนกันบ่อยในระยะหลัง

ถึงขั้น “ร.อ.ธรรมนัส” ขู่ฟ่อกันไม่กี่วันก่อนว่า อาการน่าเป็นห่วง!

อย่างไรก็ตาม แม้สนามอภิปรายไม่ไว้วางใจเที่ยวนี้ดูเหมือนจะเข้มข้นในเนื้อหา แต่ในทางการเมืองแทบจะไม่มีความหมาย เพราะเป็นช่วงปลายเทอมของรัฐบาล ล้ม “บิ๊กตู่” หรือ รัฐมนตรีคนใดได้ ก็เท่านั้น เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือนก็เลือกตั้ง

ที่สำคัญ การสอยรัฐมนตรีได้อาจจะไม่เป็นผลดีต่อพรรคเพื่อไทยเอง เพราะจะไปเพิ่มแรงบีบ “บิ๊กตู่” ให้รับผิดชอบต่อผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งหากยุบสภาขึ้นมาคนซวยคือพรรคเพื่อไทย

เพราะปัจจุบันกฎหมายลูก 2 ฉบับคือ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ยังไม่ผ่านสภา ถ้ามีอุบัติเหตุขึ้นมาก่อน บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จุดมุ่งหมายของพรรคเพื่อไทยจะฟาวล์ทันที

แต่ดูแล้วคงไม่ถึงจุดที่จะปล่อยให้มีเหตุการณ์สอย “บิ๊กตู่” หรือรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งได้ เพราะตอนนี้เสถียรภาพของรัฐบาลค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ที่กลายเป็นดงงูเห่า ทำให้บิ๊กตู่ ไม่ต้องไปแคร์ หรืองอนง้อพรรคเศรษฐกิจไทย “หอกข้างแคร่” เหมือนแต่ก่อน

ต่อให้ตัดเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย18 เสียงออก แต่หากพรรคภูมิใจไทยเรียกใช้บริการงูเห่าแบบเต็มสตรีม ก็คุ้มครองรัฐบาลในศึกซักฟอกหนนี้ได้

พรรคภูมิใจไทยเองคงไม่เล่นเกมภายในกับรัฐบาล อีกอย่าง ทั้ง “เสี่ยหนูและเสี่ยโอ๋” ก็ถูกซักฟอกในหนนี้ด้วย ดูแล้วคงต้องน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า คิวสามัคคีในหมู่พรรคร่วมรัฐบาลหนนี้น่าจะเกิดขึ้น

มันเป็นช่วงปลายเทอมรัฐบาลที่เหลือเวลาอีกไม่เท่าไหร่ ทุกคนต้องการกักตุนสะสมเสบียงกรังให้พร้อมสำหรับการเลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จึงน่าจะประคับประคองกันไปรอด ไม่ยาก เหมือนตอนพิจารณากฎหมายงบประมาณที่ผ่านมา

ฝ่ายค้านเองก็รู้ว่าล้มยาก แค่อาศัยเวทีนี้ชำแหละรัฐบาลให้เสียศูนย์มากที่สุด