xs
xsm
sm
md
lg

เบื้องหลังจบดรามา คนกลางกูรูกัญชาต่อสาย “ชัชชาติ” โทร.เคลียร์ใจ “อนุทิน” ** ซักฟอก “บิ๊กตู่” พ่วง 10 รัฐมนตรี งานนี้ไม่มีหมัดน็อก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** เบื้องหลังจบดรามา คนกลางกูรูกัญชาต่อสาย “ชัชชาติ” โทร.เคลียร์ใจ “อนุทิน”

เมื่อกระแสกัญชาเสรีฟีเวอร์ ภายหลังปลดล็อกจากยาเสพติดมาตั้งแต่ วันที่ 9.มิ.ย.ที่ผ่านมา จู่ๆ ก็เกิดดรามาจาก กรณี กทม.ได้เผยว่า มีผู้เสียชีวิตจากการเสพกัญชา ในพื้นที่ กทม.จนทำให้พรรคภูมิใจไทย ที่ผลักดันนโยบายกัญชาเสรีออกมาโต้กลับว่า “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม. นำเรื่องกัญชามาเป็นประเด็นทางการเมือง ทำลายความน่าเชื่อถือของพืชกัญชา ทั้งๆ ที่เจตนาของรัฐบาลต้องการให้นำกัญชามาใช้ทางการแพทย์ และช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

ล่าสุด ผู้ว่าฯ กทม.ยอมรับ เคลียร์ใจกับ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข แล้ว โดยเบื้องหลังเห็นว่า มี “คนกลาง” ทำหน้าที่ประสานทั้งสองฝ่ายให้คุยกัน

โซ่ข้อกลางผู้นี้กล่าวกันว่าไม่ใช่ใครที่ไหน คือ คนใกล้ชิด “ชัชชาติ” นั่นเอง อดีตเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่ก็รู้จักในวงการว่า เป็นกูรูที่มีองค์ความรู้เรื่องกัญชาทางการแพทย์ดีคนหนึ่ง ที่ผ่านมา ศึกษาพืชชนิดนี้มาตลอด สามารถอธิบายต่อผู้ว่าฯ กทม.ได้ว่า มีด้านดีด้านโทษอย่างไร จนผู้ว่าฯ กทม.เข้าใจ

ขณะที่ “อนุทิน” ซึ่งเมื่อวาน (15 มิ.ย.) ไปปาฐกถา “ปลดล็อกกัญชาเสรี สร้างเศรษฐกิจ สร้างสุขภาพ” พูดถึงเรื่องดรามาที่เกิดขึ้นว่า การปลดล็อกกัญชาเสรีทางการแพทย์ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.เป็นต้นมา เน้นย้ำเรื่องการเอาไว้ใช้ทางการแพทย์ ไม่ใช่เอาไปใช้เสพ หรือสูบเกินขนาดจนเกิดอุบัติเหตุ กรณีที่มีการพูดถึงผู้ใช้กัญชาเกินขนาด จนหัวใจวายแล้วเสียชีวิต ก็เป็นการพูดโดยที่ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งต่อมาแพทย์ก็มีการแถลงข้อมูลออกมาแล้วว่า ไม่ได้เกิดจากการเสพกัญชาจนหัวใจวายแล้วเสียชีวิต ต้องถามว่า สงสาร และนึกถึงญาติผู้เสียชีวิตหรือไม่ ที่การบันทึกสาเหตุของการเสียชีวิต ว่า เกิดจากการหัวใจวาย หรือการเสพกัญชาแล้วเสียชีวิต เพราะให้ความรู้สึกที่ต่างกันมาก สิ่งเหล่านี้ ไม่ควรนำมาเล่น กระทรวงสาธารณสุขเห็นทุกคุณค่าชีวิต นโยบายของกระทรวงสาธารณสุข ปลดล็อกกัญชามาเพื่อช่วยชีวิต ไม่ใช่ทำร้ายชีวิต

อนุทิน ชาญวีรกูล
“หมอหนู” ยังบอกด้วยว่า หลังมีผู้ประสานต่อสายพูดคุยกับ “ชัชชาติ” ก็ได้ทำความเข้าใจกันแล้ว โดยผู้ว่าฯ กทม.ก็มีสปิริตดี

ข้างฝ่าย “ชัชชาติ” ยืนยันว่า เคสผู้เสียชีวิตขณะนี้ ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติมจากสำนักการแพทย์แต่อย่างใด ซึ่งยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ชัดเจนว่า เสียชีวิตจากการเสพกัญชาเกินขนาดหรือไม่ พร้อมกับบอก เรื่องนี้ไม่ใช่การโจมตี หรือ ดิสเครดิตทางการเมือง ซึ่งถามว่า ทำไมต้องรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเสพกัญชา เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ กทม.ต้องรายงานให้ประชาชนระมัดระวังการใช้กัญชา ซึ่งถ้าหากปกปิด หรือไม่รายงานให้ทราบ ก็จะถือเป็นความผิดของ กทม.

ทั้งนี้ ถ้าหากข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความเข้าใจผิดก็ขอโทษด้วย...

เอาเป็นว่างานนี้ ปรับความเข้าใจกันเรียบร้อย จบดรามากัญชาไปอีกหนึ่งเรื่อง.



ชัชชาติ สิทธิพันธุ์
** ซักฟอก “บิ๊กตู่” พ่วง 10 รัฐมนตรี งานนี้ไม่มีหมัดน็อก

ยื่นไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับญัตติขอเปิดอภิปรายเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ที่ “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผู้นำฝ่ายค้านในสภา พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน ยกขบวนกันไปยื่นต่อประธานสภา “ชวน หลีกภัย” ช่วงบ่ายวานนี้ (15 มิ.ย.)

นอกจาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ที่เป็นเป้าหลักในฐานะหัวหน้ารัฐบาลแล้ว ก็มีรองนายกฯ และรัฐมนตรีพ่วงมาอีก 10 คน ดังนี้

1. “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม 2. “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ 3. “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข 4. “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกฯ 5. “พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” รมว.มหาดไทย 6. “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รมว.คมนาคม 7.“ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 8. “จุติ ไกรฤกษ์” รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 9. “สันติ พร้อมพัฒน์” รมช.คลัง 10. “นิพนธ์ บุญญามณี” รมช.มหาดไทย และ 11.“สุชาติ ชมกลิ่น” รมช.แรงงาน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
การเขียนญัตติ เพื่อบรรยายถึงความผิด นอกจากระบุถึงเรื่องการบริหารผิดพลาด ล้มเหลว ทุจริต คอร์รัปชัน ตามธรรมเนียมของการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว “บิ๊กตู่” ดูจะโดนหนักกว่าคนอื่น โดยเฉพาะการใช้ถ้อยคำเชิงเย้ยหยัน เสียดสี

มีทั้งคำว่า... ไร้ภูมิปัญญา ไร้องค์ความรู้ ความสามารถ เป็นผู้นำที่พิการทางความคิด ยึดติดแต่อำนาจ ...ปล่อยปละละเลยให้บุคคลแวดล้อม และ พวกพ้อง แสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ยากของพี่น้องประชาชน ใช้จ่ายงบประมาณ มิคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง มุ่งแต่ก่อหนี้เพื่อแสวงหาคะแนนนิยมทางการเมือง จนเรียกได้ว่า “เป็นยุคก่อหนี้มหาศาลเพื่อนำมาผลาญโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน” ... ใช้เงิน และการต่อรองผลประโยชน์ เพื่อความอยู่รอดทางการเมืองของตนเอง...

ส่วนรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนอื่นๆ ก็ระบุความผิดแบบหว่านแห ประมาณว่าผิดพลาด ล้มเหลว รวมๆ ไป ไม่เฉพาะเจาะจงเรื่องหนึ่งเรื่องใดเป็นพิเศษ

ในแง่ของตัวบุคคลนั้น ตามยุทธการ “เด็ดหัว รื้อนั่งร้าน” ของฝ่ายค้านนั้นนอกจาก “พี่น้อง 3 ป.” ที่ถือว่าเป็น “หัว” ที่ต้องเด็ดแล้ว “นั่งร้าน” คือ พรรคร่วมรัฐบาล อย่าง พรรคภูมิใจไทย ก็มีทั้ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” เลขาธิการพรรค

จุติ ไกรฤกษ์ - นิพนธ์ บุญญามณี
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ นั้น มี “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรค “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรค และ “จุติ ไกรฤกษ์” อดีตเลขาธิการพรรค แต่ไม่มีชื่อ “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรคคนปัจจุบัน

เรื่องนี้ ว่ากันว่า เพราะ “เฉลิมชัย” เป็นนักการเมืองที่ไม่สร้างศัตรู ใครขออะไรถ้าให้ได้ก็ไม่เคยขัด เข้าทำนอง “ใจถึง พึ่งได้” ... ส่วน “นิพนธ์ บุญญามณี” นั้น จังหวะเหมาะที่มาโดนเรื่องรถอเนกประสงค์ของ อบจ.สงขลา สมัยที่เขาเป็นนายก อบจ. จนทำให้เป็นประเด็นขึ้นมา

สำหรับ “จุติ ไกรฤกษ์” ที่ก่อนหน้าที่ไม่มีวี่แววว่าจะมีชื่อถูกอภิปราย แต่ที่โดนน่าจะมาจากปัญหาภายในพรรค ไม่ใช่การบริหารงานในกระทรวงณ เพราะก่อนหน้านี้ เคยมีปัญหาเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรี กับรองหัวหน้าพรรคที่ดูแลภาคใต้ ประกอบกับมีข่าวว่า เลือกตั้งครั้งใหม่นี้ “จุติ” โบกมือลา ปชป.แน่ จึงเป็นที่มาของการถูกจับขึ้นเขียงในครั้งนี้

ส่วน รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐนั้น แว่วว่า “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” รมว.ดิจิทัลฯ ที่เป็นรองหัวหน้าพรรค จะเจอ “เรื่องส่วนตัว” มากกว่าการบริหารงานในกระทรวง... หากมีการอภิปรายในประเด็นที่ว่าจริงคงมีเรื่องฟ้องร้องกันวุ่นแน่

ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ - สุชาติ ชมกลิ่น
ขณะที่ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรค ก่อนหน้านี้ พอรู้ข่าวว่าจะมีชื่อถูกอภิปราย ก็พยายามต่อสาย เดินสายเคลียร์แล้ว แต่สุดท้ายก็ยังมีชื่อติดกลุ่มมาจนได้ จนเจ้าตัวต้องออกปากว่า เป็นฝีมือของ “ผู้มีอิทธิพลนอกฝ่ายค้าน” ทำให้ตนเองต้องติดบัญชีดำในครั้งนี้ แต่ก็ยืนยันว่า ไม่ได้ทำผิดอะไร พร้อมตอบทุกคำถาม

การอภิปรายครั้งนี้ ผู้ติดตามการเมืองต่างมองว่าอาจจะดุเดือดในวันแรกๆ เพราะเป้าหลักอยู่ที่ “บิ๊กตู่” และอาจจะถูกสวนกลับไปแรงๆ ...ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ แค่ตัวประกอบ จนทำให้การอภิปรายในวันหลังๆ อาจ “กร่อย” โดยเฉพาะการอภิปรายรัฐมนตรีพรรคร่วมรัฐบาล อาจเป็นไปในลักษณะ “แก้บน” ก็ได้ ซึ่งฝ่ายค้านเองก็ยอมรับว่าคงไม่สามารถ “น็อก” รัฐบาลกลางสภา แต่จะตีให้ช้ำ เพื่อไปหวังผลในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ไม่ต้องดูอื่นไกล แค่วันยื่นญัตติ ยังถูก “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย แย่งซีนด้วยการเปิดตัว “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่มารับบทเป็น “ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย” เพื่อดึงดูดมวลชนคนเสื้อแดงให้กลับบ้านมาร่วมทำแลนด์สไลด์ ...ทั้งที่สามารถเลื่อนไปอีกวันสองวันก็ได้

เอาเป็นว่ารัฐมนตรีคนไหน จะถูกอภิปรายเรื่องอะไร จะดุเดือด หรือจืดชืดน้ำยาเย็น เอาไว้ไปดูกันหน้างานกันดีกว่า!!




กำลังโหลดความคิดเห็น