สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุดได้เมื่อไหร่ ฝ่ายนาโตและประชาคมยุโรปยังคงสนับสนุนด้านอาวุธและงบประมาณอย่างเต็มที่ ทุ่มไม่อั้น ด้านสงครามเศรษฐกิจด้วยมาตรการคว่ำบาตรก็ยังคงมีต่อเนื่อง
รัสเซียได้เปิดฉากโจมตีโรงงานเหล็กอาซอฟสทาล รอบใหม่โดยการประเคนอาวุธทุกชนิดใส่บริเวณอาคารของโรงงานซึ่งมีอุโมงค์ใต้ดินสลับซับซ้อนยาวมากกว่า 24 กิโลเมตรซึ่งเป็นที่ซุกตัวของกองทัพอาซอฟนีโอนาซี และทหารยูเครนซึ่งมีพลเรือนส่วนหนึ่งติดอยู่ในนั้นนานกว่า 2 เดือน
สหรัฐฯ และอังกฤษแสดงออกถึงความเป็นหัวโจกในการสนับสนุนด้านอาวุธและงบประมาณ ขณะที่กลุ่มประเทศยุโรปยังไม่ทุ่มเทเต็มที่เหมือนกับรู้ว่าถึงอย่างไรยูเครนก็ไม่มีวันชนะกองทัพรัสเซียได้ การเข้าช่วยฝึกทหารยูเครนของฝ่ายเยอรมนีทำให้เกิดแรงต้านในประเทศ ประชาชนเดินขบวนประท้วงการส่งอาวุธในยูเครนด้วย
อาวุธที่ส่งไปทางอากาศ ผ่านระบบรางรถไฟ เครือข่ายถนนเมื่อถึงเป้าหมายคลังแสงแล้วก็ถูกกองทัพรัสเซียยิงจรวดถล่มทำลายทันควัน ไม่มีโอกาสได้นำออกมาใช้ ฝ่ายนาโตก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้เพราะอาวุธส่งให้นั้นเป็นขบวนใหญ่ ซ่อนเร้นไม่ได้และหลบเลี่ยงดาวเทียมจารกรรมของรัสเซียไม่พ้น
การต่อสู้ของกองทัพยูเครนและรัฐบาลซึ่งมีประธานาธิบดีเป็นอดีตตัวตลก โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ จึงเปรียบเสมือนการหลอกตัวเองว่าจะมีวันชนะ ทุกวันนี้บ้านเมืองในยูเครนต่างพินาศย่อยยับเพราะการถูกยิงถล่ม ขณะที่กองทัพยูเครนไม่สามารถเพิ่มกำลังได้ ดังนั้นต่อให้มีอาวุธมากอย่างไร ถ้าเอามาใช้ไม่ได้ก็ไร้ผล
การสู้รบในโรงงานเหล็กอาซอฟสทาล จึงเป็นเหมือนตัวกำหนดชะตากรรมว่ายูเครนจะดิ้นรนต่อสู้ได้อีกนานเท่าไหร่ เพราะข่าวจากสื่อตะวันตกแทบไม่เห็นการรายงานของศักยภาพในการสู้รบของกองทัพยูเครนว่าเป็นไปอย่างไร เหลือกำลังพลอีกแค่ไหน ขณะที่มีปัญหาด้านยุทธปัจจัย เสบียงอาหารสำหรับการสู้รบยืดเยื้อ
แต่ก็ยังมีหน่วยวางแผนด้านความมั่นคงของยูเครนสร้างความหวังอย่างเหลือเชื่อ วันจันทร์ที่ผ่านมามีการประชุมสภาความมั่นคงและกลาโหมของยูเครนโดยมีหัวหน้าชื่อนายอเล็กซีย์ ดานิลอฟ ให้สัมภาษณ์สื่อถึงสถานการณ์สู้รบกับรัสเซียและโอกาสที่จะเจรจาแสวงหาสันติภาพ
ผู้สื่อข่าวถามนายดานิลอฟ ถึงมาตรการความเป็นไปได้ที่จะมีการรับประกันความมั่นคงของยูเครนและสันติภาพกับรัสเซีย นายดานิลอฟบอกว่ากับรัสเซียแล้วเรา ยอมที่จะลงนามในสัญญาของการยอมแพ้ของฝ่ายรัสเซียแบบศิโรราบไม่มีเงื่อนไขและรัสเซียจะต้องยอมแพ้ประการเดียวเท่านั้น
นายดานิลอฟประกาศว่า “ยิ่งรัสเซียประกาศยอมแพ้อย่างราบคาบโดยเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งจะเป็นผลดีกับฝ่ายรัสเซียมากเท่านั้น”
คนทั่วไปเมื่อรับรู้สถานการณ์ปัจจุบันและสภาพของยูเครนคงมองว่าเจ้าหน้าที่ยูเครนนี้คงจะอยู่แต่ในห้องวางแผนไม่ได้รับรู้ผลของการต่อสู้หรือฝันเฟื่องว่าในที่สุดยูเครนจะเป็นฝ่ายชนะ ทั้งที่แสนยานุภาพของยูเครนห่างชั้นจากรัสเซียแบบทาบไม่ติด
แต่ก็แปลกที่ยังมีเจ้าหน้าที่ยูเครนด้านความมั่นคงมีความเชื่อเช่นนี้ ฉะนั้นแนวคิดอย่างนี้อาจจะคงอยู่ในกลุ่มของผู้นำประเทศ โดยเฉพาะผู้นำตัวตลกซึ่งถูกสงสัยว่าเสพสารเสพติดตามภาพที่ปรากฏแต่ถูกอ้างว่าเป็นภาพตกแต่ง
ถ้ายูเครนจะหวังชนะในการรบครั้งนี้ทั้งที่โครงสร้างของประเทศระบบสาธารณูปโภคเครือข่ายกองทัพถูกทำลายล้าง แม้แต่สนามบินและคลังอาวุธต่างๆ ก็ถูกทำลาย ความหวังก็คงเป็นเพียงแบบฝันลมๆ แล้งๆ หรือเมายาเท่านั้น
ที่ประเมินได้ก็คือฝ่ายนาโตที่ส่งอาวุธให้ยูเครนก็ไม่ประสบความสำเร็จ ประชาคมยุโรปที่ประกาศมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียก็ไม่ได้ผลเต็มที่ ซ้ำยังต้องพึ่งพาน้ำมันดิบและก๊าซจากรัสเซียโดยไม่สามารถดิ้นหลุดไปได้ ทำให้รัฐเสียได้เปรียบมีรายได้เข้าประเทศ 1 พันล้านดอลลาร์จากการขายพลังงานทุกวัน
สู้รบกันมาสองเดือนการซื้อขายพลังงานเป็นไปอย่างปกติ ไม่ว่าจะซื้อในเงินสกุลไหนก็ตามทำให้รัสเซียได้ดุลการชำระเงินมากมาย ขณะที่โอกาสที่จะไม่ซื้อก๊าซจากรัสเซียยังไม่มีทางเลือก
การคว่ำบาตรไม่ซื้อพลังงานโดยมติของประชาคมยุโรปก็เป็นไปไม่ได้เพราะฮังการีไม่ยอมร่วมด้วยเท่ากับว่าแผนนี้ล้มเหลวเพราะต้องใช้มติเป็นเอกฉันท์ของ 27 ประเทศ แต่ก็ถือว่ายังเป็นผลดีสำหรับประเทศที่ยังอยากได้น้ำมันดิบ ก๊าซจากรัสเซีย
แน่นอนสหรัฐฯ และอังกฤษซึ่งเป็นหัวโจกของกลุ่มนาโตย่อมจะต้องพยายามไม่เลิกในการทำลาย ความแข็งแกร่งของรัสเซียอย่างที่ประกาศโดยผู้นำทหารและแม้แต่ตัวของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ก็ประกาศว่าต้องการให้รัสเซียสิ้นสภาพมหาอำนาจ
นี่ก็เป็นความฝันที่จะเป็นฝันเฟื่องหรือฝันค้างต้องใช้เวลาพิสูจน์ แต่ความเป็นจริงก็คือยูเครนยังคงต้องประสบความพินาศย่อยยับต่อไป โดยไม่มีทางเลือกเพราะได้เป็นเบี้ยและหุ่นเชิดของชาติมหาอำนาจตะวันตก และตัวเองกระสันอยากจะเข้าร่วมในองค์การนาโต
ประชาชนยูเครนกว่า 5 ล้านคนต้องไปเป็นผู้ลี้ภัยในประเทศยุโรปอื่นๆ สหรัฐฯ อังกฤษกว่า 7 ล้านคนต้องไร้ที่อยู่อาศัยในประเทศ ที่ต้องประสบชะตากรรมเช่นนี้เพราะเลือกนักแสดงตัวตลกไร้สติปัญญาเป็นผู้นำประเทศนั่นเอง