xs
xsm
sm
md
lg

‘เปิบดินเนอร์’ เพื่อชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



คุณภาพของผู้นำประเทศประเมินกันที่ว่าแต่ละวันนั้นเขาได้ห่วงทุกข์สุขความเป็นอยู่ของประชาชนหรือความอยู่รอดทางการเมืองของตัวเอง

บ้านเราประเมินได้ง่าย ช่วงนี้โดยกิจกรรม “เปิบดินเนอร์เพื่อชาติ” เป็นการรวมตัวของกลุ่มผู้นำซึ่งกุมอำนาจรัฐและนักการเมืองซึ่งคะแนนเสียงในสภาผู้แทนฯ มีอิทธิพลต่อความอยู่รอดของรัฐบาลท่านผู้นำห้าวเป้ง

การ “เปิบดินเนอร์เพื่อชาติ” เป็นงานเลี้ยงที่ผู้นำรัฐบาลใช้เป็นโอกาสพบปะพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลและตัวแทน ส.ส.พรรคย่อยที่รวมตัวกัน มีอิทธิพลมากอย่างเหลือเชื่อในบรรยากาศของความแตกแยกในพรรคแกนนำรัฐบาล

งานเปิบดินเนอร์จึงเกิดขึ้นเพราะผู้นำรัฐบาลเป็นห่วงความอยู่รอดของตัวเองก่อนที่จะมีอภิปรายไม่ไว้วางใจในเดือนพฤษภาคมในช่วงที่รัฐบาลมีเสียงเกินครึ่งอย่างหวุดหวิดเพราะมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐประมาณ 20 เสียงแยกตัวออกไป

ดูแล้วงานดินเนอร์เพื่อความอยู่รอดดูอุจาดและไร้จิตสำนึกด้านความรับผิดชอบต่อประชาชนซึ่งอยู่ในสภาวะข้าวยากหมากแพง ทนกับราคาน้ำมันสูงขึ้นอย่างน่ากลัว ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อหลังจากที่ราคาสินค้าขยับขึ้นต่อเนื่อง

เป็นประเทศที่เคยมีอนาคตสดใส แต่ปัจจุบันมีผู้ถือบัตรคนจนมากจนใกล้ถึง 20 ล้านคน หรือเกือบหนึ่งในสามของประชากรรวม ในสภาพอกไหม้ไส้ขม

นี่เป็นผลงานจากการบริหารงานของรัฐบาลมีทหารนอกราชการซึ่งกุมอำนาจรัฐกว่า 7 ปี และยังแสดงอาการอยากอยู่ต่อไปโดยไม่สิ้นสุด ถ้าเป็นไปได้ทั้งในด้านกฎหมายและผลการเลือกตั้งที่เงินเป็นปัจจัยหลักในการได้คะแนนเสียงตัดสินผู้ชนะ

งานเปิบดินเนอร์รอบก่อนเป็นคณะแกนนำทหารเกษียณกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งต้องการย้ำกระชับความสมานฉันท์เพื่อค้ำเสถียรภาพของรัฐบาลให้อยู่รอดจนครบวาระและสานผลประโยชน์ต่อเนื่อง

ภาพที่ปรากฏให้สื่อมวลชนได้เห็นจึงเหมือนเป็นการจัดฉากละครมนุษย์การเมือง แสดงความมั่นคง เป็นการโอบกอดกันของทหารในวัยชราผู้นำรัฐบาล

งานเปิบดินเนอร์รอบ 2 เป็นการแสวงหาการสนับสนุนจากพรรคการเมืองย่อยให้เกิดความมั่นใจว่าจะมีเสียงเพียงพอให้ผ่านญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทั้งที่มีความเสี่ยงว่านักเลือกตั้งอาจจะเปลี่ยนท่าทีทำให้รัฐบาลไม่ได้อยู่ครบวาระ

ประชาชนเผชิญปัญหาชีวิตความเป็นอยู่มาหลายปี คนว่างงาน คนรายได้แบบชักหน้าไม่ถึงหลังไม่เห็นอนาคตว่าจะดีขึ้นอย่างไรท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตอยู่ในระดับสูง รัฐบาลขาดงบประมาณที่จะช่วยเหลือได้

รัฐบาลผู้นำห้าวเป้งมีปัญหาถังแตกเรื้อรัง ไม่มีแววว่าจะสามารถสร้างรายได้อย่างไร การท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักยังซบเซาไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ เพราะโรคระบาดโควิด-19 ซ้ำเติมโดยสภาวะสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน

รัฐบาลอยู่ไปแต่ละวันโดยไม่มีมาตรการหรือแผนที่จะแก้ไขสถานการณ์ให้ประชาชนรู้สึกว่ามีความหวัง ได้ยินแต่คำพูดของตัวแทนฐบาลว่าขอให้ประชาชนประหยัด พึ่งพาตนเอง เท่ากับว่ารัฐบาลหมดหนทาง ความสามารถที่จะทำให้ดีขึ้น

งานเปิบดินเนอร์ในสโมสรสนามกอล์ฟจึงถูกมองว่าพวกผู้บริหารรัฐบาลไม่รู้สึกกับทุกข์ร้อนของประชาชน มุ่งแต่แสวงหาความอิ่มหนำสำราญเพื่อความอยู่รอดของรัฐบาลให้นานที่สุด

การที่ประเทศไทยจะมีผู้ถือบัตรคนจนใกล้ถึง 20 ล้านคน จึงเป็นการประจานสภาพไร้ความสามารถของผู้นำประเทศที่ยังจะดันทุรังขออยู่ต่อไปเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง ซึ่งอยากเป็นเจ้าภาพจัดงานประชุมเอเปกในเดือนพฤศจิกายนนี้

ประชาชนไม่มีทั้งทางเลือกในด้านการเมืองและเศรษฐกิจ ต้องจำทนอยู่กับรัฐบาลที่ไร้ความสามารถแก้ไขปัญหา ทำให้โครงสร้างโดยรวมเสื่อมทรุดยากต่อการแก้ไขฟื้นฟูเพราะขาดงบประมาณ ต้องกู้เงินต่อเนื่องเพื่ออุดรูรั่วงบประมาณขาดดุล

มีคำแนะนำมากมายจากภาคประชาชนให้เห็นทางเลือกและทางออกของประเทศแต่ผู้นำรัฐบาลก็ไม่สนใจไยดี ปากก็เพียงแต่ออดอ้อน อ้างว่ารับฟังและจะปฏิบัติเท่าที่ทำได้แต่ขอให้ประชาชนเห็นใจ เข้าใจ และให้ความร่วมมือ

ไม่ยอมรับความผิดพลาดบกพร่องในการบริหารงานจนอยู่ในสภาพถังแตกเพราะใช้จ่ายอย่างมือเติบในกิจกรรมที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนเช่นการซื้ออาวุธ

งานเปิบดินเนอร์เหมือนสะท้อนให้เห็นความเลือดเย็นของผู้กุมอำนาจรัฐที่ยังใช้เงินในโครงการประชานิยมถมไม่เต็มเพื่อเอาใจประชาชน ทั้งรู้สึกดีใจที่มีเรื่องสังคมอย่างอื่นหักเหความสนใจของชาวบ้านจากความล้มเหลวในการบริหารประเทศ

งานเปิบดินเนอร์จึงเป็นภาพของการเมืองที่ไร้จิตสำนึกและความรับผิดชอบ ไม่ส่งสัญญาณว่าบ้านเมืองจะมีอนาคตสดใส ยังฟ้องให้เห็นว่าตราบใดที่กลุ่มการเมืองปัจจุบันยังอยู่ ประเทศไทยจะจมปลักติดกับดักดานอยู่กับความล้าหลัง

ยิ่งปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันไม่ได้รับการแก้ไขพร้อมกับสภาวะเกือบเป็นรัฐล้มเหลวอย่างนี้ กระบวนการนิติรัฐ นิติธรรมไม่น่าเชื่อถือ มีการใช้เส้นสาย อำนาจเงิน ในการเบี่ยงเบนความยุติธรรม ประชาชนจะต้องตกอยู่ในบ่วงกรรมอีกนาน

รัฐบาลอาจอยู่รอด แต่บ้านเมืองเสี่ยงกับความอยู่รอดเพราะโครงสร้างประเทศผุกร่อน ไร้การปฏิรูป ผู้กุมอำนาจรัฐสร้างปัญหาในการเลือกมิตรและก่อศัตรูด้วยความด้อยโลกทัศน์และปัญญา


กำลังโหลดความคิดเห็น