ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเอกสารใบสมัครเป็นข้าราชการในพระองค์ที่ถูกปลอมแปลง แอบอ้างเพื่อหมิ่นเบื้องสูง

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์
สาขาวิชาสถิติ
สาขาวิชาวิทยาการประกันภัยและการบริหารความเสี่ยง
สาขาวิชาพลเมืองวิทยาการข้อมูล (Citizen Data Sciences)
คณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์

ผมเห็นว่ามีการพยายามโจมตีใส่ร้ายป้ายสีสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเปิดประเด็นตั๋วช้างอีกรอบ และพยายามโยงว่าการค้ามนุษย์นั้นเกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเอาใบสมัครเป็นข้าราชการในพระองค์มาโยงให้ถึงสถาบัน ผมได้ตรวจสอบหลักฐานและพบข้อพิรุธผิดสังเกตมากมายหลายประการดังนี้

หนึ่ง การถวายตัวเป็นข้าราชการในพระองค์ ไม่เคยมีการกรอกใบสมัคร ตามโบราณราชประเพณีที่ปฏิบัติกันจริงจนกระทั่งทุกวันนี้ คือเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าให้มาถวายตัวเป็นข้าราชการในพระองค์ ผู้บังคับบัญชาเช่น ผบ.ตร. ต้องเบิกตัวนายตำรวจคนดังกล่าวมาเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเพื่อถวายตัว นำพานดอกไม้ธูปเทียนแพ พร้อมกรวยกระทงดอกไม้ มาเอางานและเปิดกรวยกระทงดอกไม้ถวายตัวเป็นข้าราชการในพระองค์ เอกสารใบสมัครเลยไม่มีทั้งสิ้น

สอง ก่อนจะเข้ามาถวายตัวโอนจากข้าราชการตำรวจ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์และ/หรือสำนักพระราชวัง ย่อมมีการตรวจประวัติมาโดยละเอียดอยู่แล้ว และดำเนินการอย่างเงียบเชียบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าสมควรจะรับโอนมาถวายตัว และต้องมีหนังสืออย่างเป็นทางการออกไปจากหน่วยราชการในพระองค์เพื่อขอตัวข้าราชการตำรวจนายนั้นมาเป็นข้าราชการในพระองค์ ไม่ได้มีการมากรอกประวัติอะไรใด ๆ
สาม ไม่มีความจำเป็นต้องมาให้กรอกใบประวัติอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะสามารถขอแฟ้มประวัติการรับราชการตำรวจได้อยู่แล้วที่ กองกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ชวนตั้งข้อสังเกตก็คือโดยปกติการรับส่งแฟกซ์จะแสดงหมายเลขผู้รับผู้ส่ง กรณีแสดงชื่อผู้ส่งแสดงว่าเป็นชื่อที่ถูกบันทึกไว้แล้วมีการติดต่อประจำ ดังนั้นตามเหตุผลก็ยิ่งไม่จำเป็นต้องขอประวัติแต่อย่างใด การแสดงแบบนี้ชัดเจนแจ่มแจ้งจนเกินไปไม่แนบเนียนเท่าที่ควร

สี่ พล.ต.ต.ปวีณ ในเวลานั้นไม่ได้เป็นนายตำรวจราชสำนักที่มาปฏิบัติหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน แต่ไปปฏิบัติหน้าที่ ณ พระตำหนักสวนจิตรลดารโหฐาน ประวัติของ พล.ต.ต.ปวีณ ถ้าจะมีอยู่ที่หน่วยงานก็จะอยู่ที่สำนักงานนายตำรวจราชสำนักประจำ ไม่ใช่อยู่ที่พระที่นั่งอัมพรสถาน

ห้า การกล่าวอ้างข้อมูลทางโทรศัพท์ซึ่งไม่มีหลักฐานยืนยัน จึงพยายามที่จะสร้างหลักฐานขึ้นมาสนับสนุน เป็นวิธีการที่ไม่สมเหตุสมผลไม่ถูกต้อง ภาระของผู้กล่าวหาคือต้องหาหลักฐานมายืนยัน ไม่ใช่แค่เอาเบอร์โทรศัพท์มากล่าวอ้าง ทำไม รังสิมันต์ โรม ไม่โทรศัพท์ไปสอบถามและให้ออกมาเปิดเผยข้อมูลให้ชัดเจนจากคนเหล่านั้น คนเหล่านั้นในเบอร์โทรศัพท์จะมีตัวตนหรือไม่ และถูกโรมใช้แอบอ้างหรือไม่ ก็นับว่าไม่เป็นธรรมกับเจ้าของเบอร์โทรศัพท์เหล่านั้นเช่นกัน

หก ข้อความในโพสต์ของรังสิมันต์ โรมทำให้สงสัยได้ว่าหลักฐานนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นน้ำหนักในการสนับสนุนข้อกล่าวอ้างในการโยงให้เกี่ยวข้องกับสถาบัน โดยใช้เอกสารปลอม เพื่อด้อยค่าสถาบัน และเชื่อมโยงการทุจริตในเรื่องการค้ามนุษย์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันแต่อย่างใด

เจ็ด ข้อเท็จจริงมีเพียงว่า มีนายตำรวจ นายทหาร ข้าราชการ นักการเมืองเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์โดยไม่สุจริต แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถาบันแต่อย่างใดทั้งสิ้น

ก่อนที่จะถูกดำเนินคดี ปลอมแปลงเอกสารทางราชการเพื่อหมิ่นเบื้องสูงอันเป็นส่วนหนึ่งของคดีกบฎล้มล้างการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยลงวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 มาแล้วและมีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ให้หยุดการกระทำดังกล่าวในทันที และผมก็ได้เห็นหลักฐานว่าโรมก็เป็นหนึ่งในเครือข่ายการกระทำผิดนั้น แล้วนี่โรมก็ยังฝ่าฝืนคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญอีก ผมก็ขอเชิญ รังสิมันต์ โรม มาดีเบตในประเด็นเอกสารปลอมนี้ ออกทางสถานีโทรทัศน์ก่อนให้สาธารณชนประจักษ์ชัดเจน ขอจงมีความกล้าหาญด้วย ขอขอบพระคุณ