ณ เวลานี้กองทัพรัสเซียได้บุกเข้ายูเครน ประกาศสงครามอย่างจริงจังหรือยัง ถ้าบุก มีการสู้รบเต็มที่ ก็ถือว่าคำทำนายของผู้นำโลกตะวันตกทั้งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันของอังกฤษ ว่ารัสเซียจะบุก เป็นจริงแล้ว
ช่วงวันอาทิตย์ ทั้งคู่เตือนว่าระยะเวลาที่ทหารรัสเซียจะบุกยูเครนนั้น ต้องนับกันเป็นนาที ถึงขั้นว่าอาจบุก “นาทีไหนก็ได้” หลังจากการปะทะระหว่างทหารยูเครนกับกองกำลังกบฏแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่ดอนบาส ทางตะวันออกของพรมแดน
ถ้ายังไม่บุก แสดงว่าฝ่ายโลกตะวันตกยังพยายามปั่นข่าวเรื่องรัสเซียบุก ป่าวร้องซ้ำซากจนสร้างความแตกตื่นให้ชาวยูเครนซึ่งยังใช้ชีวิตตามปกติก่อนหน้านี้
ช่วงสุดสัปดาห์ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นส่งทีมงานระดับหัวหน้าไล่สัมภาษณ์ทั้งผู้นำยูเครน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี และนายกเทศมนตรีเมืองเลวิช ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานทูตแห่งใหม่ของสหรัฐฯ ที่ได้อพยพไปจากเมืองหลวง กรุงเคียฟ
การปั่นข่าวต่อเนื่องทำให้เศรษฐกิจของยูเครนมีปัญหา พวกเศรษฐี คนมีเงินต่างเร่งอพยพออกจากประเทศไปหาที่ปลอดภัย แทบจะอยู่ในภาวะระส่ำระสายจนทำให้ผู้นำยูเครนว่าโลกตะวันตกอย่าแสดงอาการปริวิตกอย่างเวอร์เกินเหตุ
ช่วงนี้มีงานสัมมนาเรื่องความมั่นคงจัดขึ้นในเมืองมิวนิก ทางตอนใต้ของเยอรมนี มีคนดังไปแสดงความคิดเห็น ซึ่งก็มีเพียงเรื่องวิกฤตยูเครนเป็นเรื่องหลัก วันเสาร์มีประธานประชาคมยุโรป นางเออร์ซูลา วอน เดอ เลเยน ซึ่งโชว์เสียงแข็ง
ถัดมาเป็นเลขาธิการสนธิสัญญานาโต นายเยนส์ สตอลเตนเบิร์ก ก็พูดถึงภัยการคุกคามของรัสเซีย และบอกว่านาโตพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งคู่อ้างว่ายุโรปอยู่ในสภาวะเหมือนสงครามโลกที่ต้องเผชิญกับการสูญเสียอย่างมหาศาล
วันอาทิตย์ นางกมลา แฮริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็ไปพูดเขย่าขวัญคนยุโรป บรรยากาศที่จะเกิดความเสี่ยงภาวะสงคราม ทั้งเตือนรัสเซียว่าอย่าสร้างวิกฤต
อีกคนคือนายบอริส จอห์นสัน ซึ่งบอกว่ารัสเซียอาจ “อาจบุกเข้ายูเครนนาทีไหนก็ได้” อ้างข่าวกรองที่น่าเชื่อถือ และการเคลื่อนย้ายกำลังพลของรัสเซีย ซึ่งประเมินกันว่าอยู่ระหว่าง 169,000-190,000 นาย มากกว่าเดิมอีกเกือบเท่าตัว
พร้อมทั้งโชว์ให้เห็นการเคลื่อนกำลังของรถถัง ยานรบประเภทต่างๆ แนวฐานยิงจรวดพิสัยกลาง และกองบินเฮลิคอปเตอร์ตามแนวชายแดนและในแหลมไครเมีย
สร้างความรู้สึกและความเชื่อว่า ถ้ารัสเซียระดมกำลังพร้อมรบระดับนี้แล้ว จะให้เชื่อว่าถ้าไม่รบ คงไม่ได้ ที่ผ่านมาเป็นสงครามด้านข่าวสารซึ่งฝ่ายตะวันตกอ้างว่ารัสเซียถนัดด้านการข่าวสงครามจิตวิทยา ทั้งที่ฝ่ายตะวันตกอ้างว่ารัสเซียเล่นข่าวลวง
ช่วงหลังฝ่ายโลกตะวันตกอ้างว่ารัสเซียมีแผนปฏิบัติการลวง เช่นส่งโดรนรบโจมตี อ้างการโจมตีของพวกก่อการร้าย และการลอบวางระเบิด ฝ่ายรัสเซียก็ปฏิเสธซ้ำซากว่าไม่มีแผนบุกยูเครน ฝ่ายตะวันตกก็ไม่เชื่อ แถมยังปั่นข่าวเรื่องบุกต่อเนื่อง
เห็นได้ว่าข่าวเรื่องการบุกส่วนใหญ่มาจากสำนักข่าวโลกตะวันตก รับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ย เหมือนกับเป็นการเร่งกระตุ้นให้รัสเซียบุกเข้ายูเครนให้ได้
รัฐมนตรีมหาดไทยของยูเครนอ้างว่าตัวเองไปเยือนพื้นที่ด้านตะวันออก แนวรบกับกบฏ มีการยิงปืนครก หวิดโดนตัวเอง ทำให้กระแสกระพือข่าวหนักข้อกว่าเดิม
ยังมีข่าวผู้นำรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน อยู่กับผู้นำเบลารุส ชมการซ้อมรบของกองทัพรัสเซียและเบลารุส มีทั้งการยิงจรวด การต่อสู้ด้วยกระสุนจริงในพื้นที่ของเบลารุส ทั้งยังมีการซ้อมรบทางเรือในทะเลดำ นอกฝั่งยูเครน
การซ้อมรบยิ่งทำให้โลกตะวันตกเชื่อว่ารัสเซียจะบุกยูเครนแน่
ภาพที่เห็นก็คือยูเครนถูกปิดล้อมด้วยกองทัพรัสเซีย 3 ด้าน เหลือเพียงด้านทิศตะวันตกซึ่งมีพรมแดนติดกับโปแลนด์ เป็นทางออกสำหรับคนต้องการลี้ภัยทางบก สายการบินลุฟต์ฮันซาของเยอรมนีก็ยกเลิกเที่ยวบินเข้ายูเครน ซ้ำเติมสถานการณ์อีก
บอกได้ว่าแม้ยังไม่เกิดสงครามยูเครนเละไปแล้วด้วยปัญหาเศรษฐกิจ ก่อนหน้านี้ผู้นำทำเนียบว่าอนุมัติเงินกู้ด่วน 1 พันล้านดอลลาร์เพื่อพยุงเศรษฐกิจยูเครน ทำให้ประเทศต้องเป็นหนี้โดยไม่จำเป็นเพราะกระแสการปั่นข่าวสงคราม
ซ้ำร้าย ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ และกลุ่มนาโตบอกล่วงหน้าว่าจะไม่ส่งทหารเข้าไปในยูเครนเพื่อช่วยรบเพราะยูเครนไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต จึงไม่อยู่ในเงื่อนไขสำหรับการช่วยเหลือ ทำให้ผู้นำยูเครน ซึ่งเป็นอดีตดาวตลกบนจอทีวีเล่นบทตลกไม่ออก
ดังนั้นยูเครนจึงเละก่อนรบ ทำให้รัสเซียเร่งกดดันหนักด้วยการเสริมกำลัง ย้ำสำทับว่ายูเครนต้องไม่เข้าเป็นสมาชิกนาโต และอีก 1 เงื่อนไขก็คือให้กลุ่มนาโตถอนกำลังออกจากประเทศยุโรปตะวันออกที่เคยอยู่ภายใต้สหภาพโซเวียตก่อนล่มสลาย
ไม่ต้องประเมินกำลังว่าฝ่ายใดจะชนะ ยูเครนย่อมไม่คณนามือของแสนยานุภาพของกองทัพรัสเซียแน่ หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายพร้อมระบอบคอมมิวนิสต์ในรัสเซียและยุโรปตะวันออก ยูเครนยังอยู่กับรัสเซียในช่วงแรก
ผู้นำยูเครนรุ่นก่อนยังไม่แยกตัวออกจากใต้ปีกของรัสเซีย จนกระทั่งนายเซเลนสกี อดีตดาวตลกชนะเลือกตั้ง และแสดงเจตนาว่าจะอยู่ร่วมกับนาโต ซึ่งรัสเซียยอมไม่ได้ เพราะยูเครนจะเป็นฐานทัพของนาโตสำหรับการคุกคามรัสเซีย
ข้อเสนอหลังจากการเจรจาทางการทูตหลายรอบฝ่ายสหรัฐฯ และอังกฤษไม่ยอมรับ ยังอ้างว่ายูเครนมีสิทธิตัดสินชะตากรรมของตัวเองในระบอบประชาธิปไตย
เมื่อต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอม คงมีทางเลือกคือทางการทูตหรือสงครามเท่านั้น