เซเลนสกีขอนัดปูตินหาทางออกวิกฤต ตะวันตกเตือนสงครามใกล้ระอุทุกเมื่อ

เอพี - ผู้นำยูเครนขอนัดพบผู้นำรัสเซียเพื่อหาทางคลี่คลายวิกฤต ขณะที่สถานการณ์ภายในและรอบยูเครนรุนแรงยิ่งขึ้น ท่ามกลางคำเตือนกระหึ่มจากตะวันตกว่า มอสโกกำลังเร่งสร้างภาพว่า เคียฟคือผู้รุกรานเพื่อเปิดฉากบุกในอีกไม่กี่วันนี้ และหลายชาติเตือนพลเมืองให้เดินทางออกจากยูเครน

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อวันเสาร์ (19 ก.พ.) ระหว่างการประชุมความมั่นคงที่มิวนิก ว่า ต้องการนัดพบประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เนื่องจากไม่รู้ว่า ผู้นำรัสเซียต้องการอะไร และสำทับว่า ยูเครนจะสานต่อมาตรการทางการทูตเท่านั้นเพื่อหาข้อตกลงอย่างสันติ และพร้อมให้รัสเซียเป็นฝ่ายเลือกสถานที่เจรจา แต่ยังไม่มีคำตอบจากมอสโก

สัญญาณล่าสุดที่ตอกย้ำความหวาดกลัวว่า สงครามอาจระเบิดขึ้นภายในไม่กี่วันนี้คือ เยอรมนีและออสเตรียแจ้งให้พลเมืองของตนเดินทางออกจากยูเครน และสายการบินลุฟท์ฮันซาของเยอรมนียกเลิกเที่ยวบินไปกรุงเคียฟ และเมืองโอเดสซาซึ่งเป็นเมืองท่าในทะเลดำและอาจเป็นเป้าหมายการรุกราน

สำนักงานประสานงานขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ย้ายเจ้าหน้าที่ในเคียฟไปบรัสเซลส์ และเมืองเลอวีฟทางตะวันตกของยูเครน

ขณะเดียวกัน นายทหารระดับสูงของยูเครนหลายคนถูกระดมยิงระหว่างไปเยี่ยมแนวหน้าในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออกที่ยืดเยื้อมาเกือบ 8 ปี

สถานการณ์ในยูเครนตะวันออกรุนแรงขึ้นในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยยูเครนและ 2 เมืองที่กลุ่มกบฏยึดครองต่างกล่าวหากันว่า อีกฝ่ายเปิดฉากโจมตี วันเสาร์รัสเซียระบุว่า ดินแดนทางตะวันออกของยูเครนที่ทางการเคียฟควบคุมอยู่ยิงปืนใหญ่ข้ามพรมแดน ทว่า ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน โต้ว่า แถลงการณ์ดังกล่าวไม่เป็นความจริง

อเมริกาและหลายชาติในยุโรปกล่าวหามาแรมเดือนว่า รัสเซียที่ระดมทหารราว 150,000 นาย ประชิดชายแดนยูเครน กำลังพยายามสร้างสถานการณ์เพื่อบุกยูเครน

รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ของสหรัฐฯ เริ่มการหารือกับเซเลนสกีที่มิวนิกเมื่อวันเสาร์โดยกล่าวว่า โลกกำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์”

ก่อนหน้านั้นไม่นาน เดนิส พุชชิลิน ผู้นำรัฐบาลแบ่งแยกดินแดนที่สนับสนุนรัสเซียในเมืองโดเนตสก์ในยูเครนตะวันออกสั่งเคลื่อนพลเต็มพิกัดโดยอ้างอิง “ภัยคุกคามเฉพาะหน้าในการรุกราน” จากยูเครน ขณะที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในเมืองลูฮันสก์เริ่มอพยพพลเรือนไปยังรัสเซียตั้งแต่วันศุกร์ (18 ก.พ.) ซึ่งดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของมอสโกในการสร้างภาพว่า ยูเครนคือผู้รุกราน

แอนนาลีนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี กล่าวว่า คำสั่งอพยพอาจเป็นกลยุทธ์จุดชนวนเพื่อขยายวงการโจมตี

เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ก.พ.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของอเมริกา กล่าวว่า จากข่าวกรองของอเมริกา ขณะนี้เขาเชื่อว่า ปูตินตัดสินใจแล้วว่าจะบุกยูเครนและโจมตีเคียฟใน “ไม่กี่วันนี้”

ทั้งนี้ เจน ซากี โฆษกทำเนียบขาวแถลงในวันเสาร์ว่า ไบเดนจะหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ยูเครนกับสภาความมั่นคงแห่งชาติในวันอาทิตย์ (20 ก.พ.)

ขณะเดียวกัน รัสเซียทำการซ้อมรบด้วยนิวเคลียร์ครั้งใหญ่เมื่อวันเสาร์โดยที่ปูตินเฝ้าดูการซ้อมรบ ร่วมกับประธานาธิบดี อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ของเบลารุสในห้องสถานการณ์

เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ ยังตอกย้ำความกังวลของตะวันตกว่า รัสเซียอาจเปิดฉากบุกเร็วๆ นี้ด้วยการเปิดเผยว่า รัสเซียได้เคลื่อนย้ายกองกำลังภาคพื้นดินราว 40-50% ไปใกล้ชายแดนยูเครนในตำแหน่งที่พร้อมสำหรับการโจมตี อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ตั้งข้อสังเกตว่า การเคลื่อนย้ายนี้ดำเนินการมาราวหนึ่งสัปดาห์และไม่ได้หมายความว่า ปูตินตัดสินใจเริ่มการรุกรานแล้ว

ขณะเดียวกัน ตะวันตกและรัสเซียยังคงเปิดช่องทางการสื่อสารระหว่างกัน โดยประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส มีกำหนดหารือทางโทรศัพท์กับปูตินในวันอาทิตย์ และแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ตกลงพบกับเซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียในสัปดาห์หน้า