รัสเซียจะขยายการซ้อมรบทางทหารในเบลารุสที่มีกำหนดปิดฉากลงในวันอาทิตย์ (20 ก.พ.) จากคำแถลงของกระทรวงกลาโหมเบลารุส ในความเคลื่อนไหวที่แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่าว่ารัสเซียอาจใกล้ยกพลรุกรานยูเครนทุกขณะ
กระทรวงกลาโหมเบลารุสระบุว่า การตัดสินใจนี้มีขึ้นสืบเนื่องจากความเคลื่อนไหวทางทหารใกล้ชายแดนรัสเซียและเบลารุส เช่นเดียวกับสถานการณ์ในแคว้นดอนบาสส์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน
มีการยิงปืนใหญ่ข้ามแนวหน้าที่กั้นระหว่างกองกำลังรัฐบาลยูเครนกับกบฏแย่งแบกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียเป็นระยะๆ ในภูมิภาคดังกล่าว มันหนักหน่วงขึ้นนับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (17 ก.พ.) และต่อเนื่องจนถึงวันอาทิตย์ (20 ก.พ.)
บลิงเคนกล่าวว่า ทุกสัญญาณบ่งชี้ว่ารัสเซียกำลังใกล้รุกรานแล้ว แม้รัสเซียปฏิเสธซ้ำๆ ว่าไม่มีแผนโจมตียูเครนแต่อย่างใด
"ทุกอย่างที่เรากำลังเห็นบ่งชี้ว่ามันเป็นเรื่องจริงจัง" บลิงเคนบอกกับซีเอ็นเอ็น พร้อมระบุตะวันตกจะเตรียมพร้อมอย่างทัดเทียมหากว่ามอสโกรุกราน "จนกว่ารถถังจะเคลื่อนพลจริงๆ และเครื่องบินบินขึ้นสู่ท้องฟ้า เราจะใช้ทุกโอกาสและทุกนาทีที่เรามี ดูว่าการทูตยังคงสามารถโน้มน้าวให้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยับยั้งจากการเดินหน้าในเรื่องนี้หรือไม่"
บลิงเคนกล่าวว่า แผนพบปะระหว่างเขากับเซอร์เฟ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย จะยังคงเดินหน้าต่อไปในสัปดาห์นี้ ตราบใดที่มอสโกไม่เดินหน้าแผนรุกราน
ที่ปรึกษารายหนึ่งของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ระบุว่า ฝรั่งเศสและรัสเซียเห็นพ้องกันว่าที่ประชุมขององค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ร่วมด้วยคณะผู้แทนจากยูเครนและรัสเซีย ควรมีขึ้นในวันจันทร์ (21 ก.พ.) ขณะที่ โปแลนด์ ประธานหมุนเวียนของ OSCE ในปัจจุบัน กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ยูเครนร้องขอให้พวกเขาจัดประชุมวาระพิเศษ ซึ่งมีเป้าหมายป้องกันความมขัดแย้งติดอาวุธ
เบลารุสไม่ได้ระบุว่าทหารรัสเซีย ซึ่งนาโต้คาดหมายว่ามีจำนวนมากถึง 30,000 นาย จะอยู่ในเบลารุสต่อไปอีกนานแค่ไหน แต่ วิคเตอร์ เครนิน รัฐมนตรีกลาโหมเบลารุส บอกว่าการขยายเวลาซ้อมรบนั้นมุ่งเน้นไปที่ “เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีสรรพกำลังในการตอบโต้เพียงพอ และเพื่อเตรียมการลดระดับการเตรียมพร้อมทางทหารของผู้ไม่หวังดีใกล้ๆ กับพรมแดนร่วมของเรา”
เครมลินไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อการซ้อมรบในเบลารุส และสำนักข่าวแห่งรัฐของรัสเซียไม่ได้พาดพิงเกี่ยวกับการขยายเวลา ในขณะที่ที่ปรึกษาของมาครง เผยว่า ปูติน ได้เน้นย้ำระหว่างพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำฝรั่งเศสเมื่อวันอาทิตย์ (20 ก.พ.) ว่าทหารจะออกจากเบลารุสหลังซ้อมรบเสร็จสิ้น
นาโต้มองว่ารัสเซียอาจใช้ทหารในเบลารุสเป็นส่วนหนึ่งในกองกำลังรุกรานเพื่อโจมตียูเครน แต่มอสโกปฏิเสธว่าไม่ได้มีความตั้งใจเช่นนั้น
มีไคโล โพโดลยัค ที่ปรึกษาของหัวหน้าคณะทำงานประธานาธิบดียูเครน บอกกับรอยเตอร์ว่าการขยายการซ้อมรบ ตอกย้ำให้เห็นว่าไม่ควรใส่ใจกับคำสัญญาอย่างเป็นทางการของรัสเซีย และไม่ควรมองคำสัญญาจากมอสโกว่าเป็นข้อผูกมัด
ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินระบุว่า เสียงเตือนซ้ำๆ ของตะวันตกที่ว่ารัสเซียเตรียมรุกรานยูเครนนั้น เป็นการ "ยั่วยุ" และอาจก่อผลลัพธ์ในทางลบ แต่เขาไม่ได้ระบุว่าผลลัพธ์นั้นคืออะไร ในขณะที่รัสเซียเน้นย้ำมาตลอดว่าตะวันตกเป็นฝ่ายโหมกระพือความตึงเครียด ด้วยการเสริมกำลังทหารนาโต้เข้าสู่ยุโรปตะวันออก ระหว่างวิกฤตในครั้งนี้
บรรดาชาติตะวันตกกำลังเตรียมตัวคว่ำบาตรในสิ่งที่พวกเขาระบุว่าจะเป็นมาตรการลงโทษบริษัทรัสเซียและบุคคลต่างๆ ในวงกว้าง ในกรณีที่มอสโกยกพลรุกรานยูเครน โดยบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรบอกกับบีบีซี ว่า มาตรการดังกล่าวอาจรวมไปถึงการจำกัดภาคธุรกิจของรัสเซียในการเข้าถึงดอลลาร์และสกุลเงินปอนด์
จุดโฟกัสของความตึงเครียดในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อยู่ที่ภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียเข้ายึดมาตั้งแต่ปี 2014 ในปีเดียวที่รัสเซียผนวกแคว้นไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ทั้งนี้ นับตั้งแต่ความขัดแย้งทางภาคตะวันออกของยูเครนปะทุขึ้น จนถึงตอนนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 14,000 ราย
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ในวันอาทิตย์ (20 ก.พ.) ได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิงในพื้นที่ดังกล่าวในทันที ส่วน มาครง กล่าวโทษพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนในความตึงเครียดรอบใหม่ แต่ทาง ปูติน กล่าวโทษว่า ยูเครน เป็นต้นเหตุ
พันธมิตรตะวันตกของเคียฟแสดงความกังวลว่ารัสเซียอาจใช้สถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายเป็นข้ออ้างสำหรับโหมกระพือความขัดแย้งในวงกว้างกว่านี้
ในวันอาทิตย์ (20 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายหนึ่งของรอยเตอร์ รายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดบริเวณใจกลางเมืองโดเนตสค์ ในแคว้นดอนบาสส์ ที่ควบคุมโดยกบฏ ขณะเดียวกัน ได้ยินเสียงปืนใหญ่ดังขึ้นในที่อื่นๆ ในภูมิภาคแถบนี้
นอกจากนี้ ยังมีการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือถึงชาวบ้านในเมืองโดเนตสค์ เรียกร้องให้ชายฉกรรจ์เข้ารายงานเพื่อปฏิบ้ติหน้าที่ทางทหาร
สำนักข่าวทาสส์ นิวส์ รายงานว่ามีชาวบ้านมากกว่า 30,000 คนจากเมืองโดเนตสค์และลูกานสค์ ที่อยู่ใกล้กัน ได้ข้ามชายแดนไปยังรัสเซีย ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยทางกบฏที่เริ่มอพยพพวกชาวบ้านมาตั้งแต่วันศุกร์ (18 ก.พ.) อ้างว่ายูเครนมีแผนโจมตี คำกล่าวหาที่ทางเคียฟปฏิเสธ
กองกำลังท้องถิ่นในลูกานสค์ หนึ่งในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของของฝ่ายกบฏ เปิดเผยในวันอาทิตย์ (20 ก.พ.) ว่มีพลเรือน 2 รายเสียชีวิต และอาคาร 5 หลังได้รับความเสียหายจากกระสุนปืนใหญ่ของทหารยูเครน ส่วนยูเครนรายงานว่ามีทหารเสียชีวิต 2 นายและบาดเจ็บ 4 นายในวันเสาร์ (19 ก.พ.)
เหตุปะทะรอบใหม่ทางภาคตะวันออกของยูเครน มีขึ้นตามหลังความเคลื่อนไหวของรัสเซียที่เสริมกำลังตามแนวชายแดนทางเหนือ ตะวันออกและทางใต้ของประเทศต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ซึ่งบรรดาชาติตะวันตกคาดหมายว่าเวลานี้มีทหารรัสเซียราว 150,000 นาย หรือมากกว่านั้นอยู่ใกล้ชายแดนของยูเครน
(ที่มา : รอยเตอร์)