xs
xsm
sm
md
lg

นักเลือกตั้งเร่งหาเสียงหนัก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: โสภณ องค์การณ์



คึกคักกันจริงสำหรับกิจกรรมการเมืองของกลุ่มและพรรคการเมืองต่างๆ เร่งออกต่างจังหวัดหวังสร้างความนิยมและคะแนนเสียงในพื้นที่มีน้ำท่วม หวังว่าการไปให้ชาวบ้านเห็นหน้าค่าตาครั้งนี้จะให้จดจำไปจนถึงวันกาเบอร์ตัดสินชะตากรรม

ปีนี้ฝนฟ้าเป็นใจหรือสร้างทุกข์หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่าใครประสบปัญหาน้ำท่วมทำให้ชีวิตไม่สะดวก กินอยู่ไม่ได้เหมือนปกติ เสียหายด้านทรัพย์สิน เรือกสวนไร่นา สัตว์เลี้ยง นับว่าเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดต่อเนื่องจากการระบาดของโควิด-19

โคราชเป็นจังหวัดยอดฮิต นักเลือกตั้งและผู้กุมอำนาจรัฐแข่งกันไปหลายรอบ เอาถุงยังชีพไปแจก กลุ่มการเมืองสังกัดรัฐบาลก็ใช้งบประมาณหลวงสำหรับเดินทางค่าใช้จ่ายต่างๆ อ้างว่าไปเยี่ยมเยียนประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วม

เหตุผลที่แท้จริงคือไปหาความนิยม ไปหาเสียง หวังจะได้รับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ช่วงนี้เป็นการลงทุนด้วยการใช้เงินของรัฐ ประหยัดไปได้เยอะ

ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไม่ต้องนับรวมในงบเลือกตั้ง เป็นลาภลอย!

ฝ่ายค้านลำบากหน่อย อยากได้คะแนนเสียงต้องลงทุนเอง เงินจะมาจากนายทุนเจ้าของพรรค เงินพรรค หรือเงินส่วนตัว ขึ้นอยู่กับความหนักของกระเป๋าเงินส่วนตัว ความใจกว้าง ระดับของเมตตาจิต ความกล้าในการทุ่มเงิน

ทุกอย่างต้องมีการลงทุน การเมืองยิ่งต้องลงทุนเพราะเดิมพันคือเก้าอี้ผู้แทน ถ้ารวมตัวกันได้เสียงข้างมาก ได้อำนาจรัฐ นั่นคือกุญแจเปิดประตูเข้าไปสู่เส้นทางเพื่อกอบโกยความมั่งคั่งจากงบประมาณและทรัพย์สิน ทรัพยากรแผ่นดิน

ทำให้ประเทศไทยมีความอื้อฉาวด้านการทุจริต คอร์รัปชัน สร้างวิกฤตเรื้อรังให้ประเทศ ผู้บริหารทุกยุคไร้ความจริงใจในการหยุดหรือลดการโกงบ้านกินเมือง

การทุจริตได้เป็นเหมือนธรรมเนียมปฏิบัติ เป็นรางวัล เส้นทางสู่ขุมทรัพย์มหาศาลสำหรับกลุ่มนักเลือกตั้งที่ชนะและรวมตัวกันได้กุมอำนาจรัฐ

ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ ผู้กุมอำนาจรัฐยังย้ำตลอดว่าไม่ยุบสภาฯ ไม่ลาออก จะอยู่ครบเทอม แต่ก็นั่นแหละ คำพูดของนักการเมือง นักเลือกตั้ง หรือนักอะไรก็ตามที่กุมอำนาจรัฐนั้น เชื่อถือได้ยาก

อย่างที่ว่าปากไม่ตรงกับใจ ร้อยลิ้นกะลาวน ลิ้นตระหวัดถึงใบหูนั่นแหละ!

ช่วงนี้นักเลือกตั้งมักทำโพลสำรวจความนิยม ซึ่งดูแล้วน่าจะมีวาระซ่อนเร้น ผลประโยชน์แฝงเร้น หรือเป็นสัญญาณเตือนสำหรับผู้กุมอำนาจ และผู้สนับสนุนว่าทิศทางและโอกาสที่จะได้รับการเลือกตั้งครั้งต่อไป มีมากหรือน้อยเพียงใด

พวกที่โพลชี้ว่าไม่น่าจะรอดจากการสอบตกก็เอะอะ ไม่พอใจ อ้างว่าโพลไม่แม่นบ้าง ทำเองบ้าง กลุ่มที่โพลสนับสนุนว่ามีโอกาสก็ยิ้มแก้มปริ

แต่ทั้งหมดไม่มีความแน่นอน จนกว่าประชาชนจะเข้าคูหาไปกาเบอร์แล้ว!

มีความพิลึก ความพิสดารของโพลต่างๆ ที่ว่าท่านผู้นำกุมอำนาจรัฐมานานกว่า 7 ปี ไม่ได้รับความนิยมมากถึงขั้นวางใจ มีโพลหนึ่งวางท่านอยู่ในระดับ 17 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่พวกที่ไม่ได้บริหาร กุมอำนาจรัฐได้ระดับ 11 เปอร์เซ็นต์

ดูแล้ว มีทั้งความสงสัย และความเสียวสันหลัง แสดงว่าที่อยู่มานั้น ชาวบ้านไม่พอใจ ไม่นิยม และคงไม่ต้องการให้เป็นผู้นำประเทศต่อไป แต่ก็มีคำพูดปลอบใจจากพวกกองเชียร์ หน้าม้า และลูกขุนพลอยพยักว่า “โพลเชื่อถือไม่ได้ทุกครั้ง”

อีกโพลชี้ว่าคนอีสานรอลงคะแนนเลือกพรรคท่านโทนี่ โทนาฟอะไรนั่น ก็แสดงให้เห็นว่าภาคอีสานมีผู้แทนมากที่สุด จะมีส่วนในการกำหนดเก้าอี้ในสภาฯ

ย้ำอีกครั้งว่าพรรคของท่านโทนี่ลี้ภัยอาจจะมาแบบแลนด์สไลด์ ตามการเน้นของท่านโทนี่ลี้ภัย แม้จะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะให้ใครเป็นคู่ชิงตำแหน่งนายกฯ

อ้างว่ามีทางเลือกเยอะ มีคนเด่นให้เลือกมาก ต้องคัดสรรเน้นๆ ถ้าเปิดตัวมาแล้ว จะเป็นเหมือนการสร้างความช็อกแบบเด็ดขาดพิฆาตคู่แข่งนั่นเลย

อืมม์...แต่ยังวนเวียนอยู่กับคนในเครือข่ายสมาชิกครอบครัว เด็กๆ ที่ยังไม่มีประสบการณ์ทางการเมือง มีแต่พฤติกรรมฉาวเรื่องข้อสอบในช่วงศึกษาเล่าเรียน

การเลือกตั้งครั้งก่อน พรรคท่านโทนี่ลี้ภัยมาที่หนึ่ง ได้เสียงมากที่สุด แต่สู้เล่ห์กลพวกที่มีพรรค ส.ว.เป็นตรายาง ฝักถั่วยกมือให้เป็นผู้ชนะ สะท้อนให้เห็นรูปแบบการเมืองที่ไร้จิตวิญญาณ ไร้น้ำใจนักกีฬา ในการเลือกตั้งนั้น ถ้าโกงได้ก็ต้องโกง

การเมืองจึงเป็นวงการที่คนดีไม่มีโอกาสได้เข้ามาแข่งขันอย่างเที่ยงธรรม เพราะระบบต่างๆ เอื้อกลุ่มคนมีเงิน เครือข่ายหัวคะแนน อิทธิพลรากเหง้าดั้งเดิม

การแข่งขันครั้งหน้า ต้องออกฤทธิ์ออกเดช ทุ่มทรัพยากรอย่างเต็มที่ ฝ่ายกุมอำนาจรัฐก็จะถูกกล่าวหาว่าใช้เครือข่ายหน่วยงานราชการช่วยเหลือ เงินจะเป็นปัจจัยหลักในการดึงนักเลือกตั้งมีฐานเสียง การซื้อเสียงจะหลากหลายกว่าเดิม

เดิมพันจะสูง ฝ่ายกุมอำนาจไม่มีความมั่นใจว่าจะชนะด้วยเหตุที่ว่าผลงานไม่ประทับใจชาวบ้านที่ถูกพิษความลำบากยากจนทำให้ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อความอยู่รอด หนี้สินพอกพูน ภาคชนบทถูกซ้ำเติมด้วยน้ำท่วม ไม่มีหนทางสร้างรายได้

ดูโครงสร้าง หน้าตาของนักเลือกตั้ง คงหวังไม่ได้ว่าจะได้กลุ่มผู้กุมอำนาจรัฐที่มีความรู้ความสามารถ ตั้งใจทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเพื่อแก้ไขวิกฤต

เมื่อไร้ความสามารถ มือไม่ถึง ถ้ากลุ่มเดิมได้อยู่ต่อ ก็ไม่ต้องหวังว่าปัญหาการทุจริต หนี้ครัวเรือน ความเหลื่อมล้ำ การขาดความโปร่งใส นิติรัฐ นิติธรรมจะดีขึ้น

ถ้าได้ผู้นำคนเดิม ก็อย่าหวังว่าจะมีปาฏิหาริย์มาช่วยให้สำเร็จ


กำลังโหลดความคิดเห็น